เพิ่งประกาศแต่งงานลายฟ้าแลบไปไม่ทันไร จู่ๆ ว่าที่เจ้าสาว “พอลล่า เทเลอร์” ก็ควงหนุ่มในฝันว่าที่เจ้าบ่าว “เอ็ดเวิร์ด บัทเทอร์รี่” มารับทรัพย์ออกงานแพ็คเกจคู่เป็นครั้งแรก งานนี้เจ้าตัวเผยสุดตื่นเต้นที่ได้ทำงานร่วมกับฝ่ายชาย ด้านหนุ่มเอ็ดเวิร์ดเองก็ตื่นเต้นไม่น้อย พร้อมแย้มรู้สึกดีที่ได้มาสัมผัสชีวิตการทำงานของว่าที่เจ้าสาวพอลล่า : “ตื่นเต้นมาก เขาก็ตื่นเต้นมาก แต่เราตื่นเต้นมากกว่า เราไม่เคยออกงานด้วยกัน แล้วก็ไม่เคยทำอย่างนี้มันก็เลยตื่นเต้น แล้วยิ่งเขาไม่ได้เป็นคนที่อยู่ในวงการด้วย เราก็เลยคิดว่าคนจะสนใจเหรอ เขาก็ไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่ เราก็บอกว่าทุกคนสนับสนุนเรา ทุกคนน่ารักมาก เขาก็โอเคแหละ เหมือนอะไรที่เขาช่วยเราได้ เขาก็ยินดีอยู่แล้ว ถ้าเป็นตัวเขาเองคนเดียวคงไม่มาหรอก แต่นี่เขารู้ว่ามาช่วยเรานะ อยากเจอนะ”
เอ็ดเวิร์ด : “ก็ตื่นเต้นครับ เหมือนได้เข้ามาสัมผัสชีวิตนึงของเรา ว่า การอยู่ในวงการมันก็ไม่ธรรมดา ก็รู้สึกแปลกดีที่ได้เข้ามาเห็นว่าเป็นยังไง ระหว่างออกงานอีเว้นท์กับขอพอลล่าแต่งงาน อันไหนตื่นเต้นกว่ากัน การขอพอลล่าแต่งงานเป็นอะไรที่ตื่นเต้นอยู่แล้ว ตื่นเต้นที่สุดในโลก”
พอลล่า : “จริงๆ ก็มีงานติดต่อให้เราออกคู่กันเข้ามาเรื่อยๆ ก็มีเข้ามาสักพักนึงแล้ว แต่ด้วยความที่เอ็ดเวิร์ดมาหาเราแค่เดือนละครั้งเอง ก็เลยไม่ค่อยได้เจอ อย่างมารอบนี้ก็มาแค่ 3 วันมาช่วงวีคเอนด์เฉยๆ เพราะเขาต้องเรียน เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเลย อย่างที่บอกว่าเดี๋ยวเราบอกสถานที่และเวลาที่จะมีงานแต่ง แล้วเดี๋ยวเขาไปง่ายๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย เราทำให้หมดทุกอย่าง เจ้าบ่าวง่ายมากงานนี้”
ฝ่ายชายเผยว่าที่เจ้าสาวเป็นผู้หญิงในฝัน ที่ตนอยากขอแต่งงานด้วยตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เพราะรู้สึกเจอคนที่ใช่
เอ็ดเวิร์ด : “เหตุผลที่ตัดสินใจแต่งงานกับพอลล่าเป็นอะไรที่ง่ายมากๆ แค่รู้ว่าอยากอยู่กับผู้หญิงคนนี้ การที่เราเจอใครที่ใช่สักคน มันไม่มีว่าจะต้องดูที่เขาจะสวยหรือเปล่า หรือจะต้องทำนั่นนี่เป็น สิ่งพวกนั้นมันไม่จำเป็นเลย แต่การที่เรารู้สึกว่าเขาคือคนที่ใช่ต่างหาก ที่ทำให้ผมตัดสินใจขอเขาแต่งงาน ไม่ต้องย้ำก็ได้ครับว่าผมเป็นคนที่ผู้ชายไทยหลายคนอิจฉามาก(หัวเราะ) จริงๆ ผมคิดจะขอเขาแต่งงานตั้งแต่วันแรกที่เจอเขาเลยล่ะ(ยิ้ม) ถามว่าคิดนานไหม มันเป็นการตัดสินใจไม่ยากเลย ถ้าคุณเจอใครสักคนที่อยากอยู่ด้วยไปตลอด อยากมีครอบครัวด้วย ถ้าคุณเชื่อเรื่องรักแรกพบ มันก็คล้ายๆ แบบนั้นล่ะ”
พอลล่า : “ก็อย่างที่เขาบอกว่าพอมาเจอแล้วมันไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ นอกจากรู้ว่าใช่ จะให้มาบอกว่าเขาสูงเท่านี้ หน้าตาดี เขาเก่งเขาอะไรของเขาแบบนั้น พอถึงจุดๆ นึงแล้วมันไม่ใช่สิ่งสำคัญ เอ็ดเวิร์ดก็เป็นคนที่โรแมนติกนะ อย่างตอนขอแต่งงานคำมั่นสัญญาอะไรมีหมดทุกอย่าง เขาคุกเข่าก็พูดมาหมดเลยเหมือนในหนังมากเลยค่ะ จนเราร้องไห้แล้วบอกว่าขออีกรอบได้ไหม เมื่อกี้ไม่ได้ฟังยังร้องไห้อยู่”
“เขาก็สัญญาหมดแหละสัญญาว่าจะรักทุกวันนะ หรือว่าอะไรอย่างนี้มีมาเรื่อยๆ อะไรที่เขาทำให้แล้วประทับใจที่สุดเหรอ ก็คงจะเป็นเรื่องนี้นะ การขอแต่งงานคือเราประทับใจมากนะ เหมือนเป็นความคิดว่าที่เขาพาเราไปที่ปารีส ก็เป็นเหมือนเมืองที่โรแมนติกมาก คือทุกอย่างเหมือนเป็นอะไรที่เขาคิดมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแหวนที่เขาให้เรา เขาก็ไปคิดเองว่าเราจะชอบแบบไหนแล้วก็ออกแบบเอง มันก็เลยเหมือนอะไรทุกอย่างที่เขาทำมันดูใส่ใจ ก็น่ารักดีค่ะ”
เอ็ดเวิร์ด : “ตอนขอพอลล่าแต่งงาน ผมไม่รู้สึกกังวลเลย ผมเชื่อว่าพอลล่าต้องตกลง แต่เอาจริงๆ ลึกๆ ก็มีกังวลบ้าง เพราะผมกำลังจะขอผู้หญิงคนนึงแต่งงานครั้งเดียวในชีวิต แล้วเธอคนนั้นก็คือพอลล่าด้วย แล้วพอลล่าก็ตกลง มันเป็นความรู้สึกที่วิเศษมากจริงๆ นี่ก็ใกล้วันเข้ามาเรื่อยๆ แล้วผมรู้สึกตื่นเต้นมาก ญาติๆ ของผมจะมาจากหลายๆ ที่ทั่วโลกเพื่อมาร่วมงาน รวมถึงเพื่อนๆ ของผมที่ฮ่องกง และอังกฤษ เลยตื่นเต้นมาก”
“บางคนมองว่าที่รีบแต่งเพราะอยู่คนละประเทศแล้วไม่อยากแยกจากกัน ความจริงแล้วไม่เกี่ยวหรอกครับ เราแต่งงานกันเพราะเราทั้งคู่พร้อมแล้ว เราอยากสร้างครอบครัวด้วยกันนั่นสำคัญที่สุด เราไม่ได้เร่งรีบอะไรเลย มันถึงเวลาที่เหมาะสม พอลล่าเป็นผู้หญิงในฝันเลยครับ ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าพอลล่าเป็นใคร ผมได้เจอพอลล่าที่ฮ่องกงเมื่อนานมากแล้ว เพราะเขาเป็นเพื่อนกับพี่สาวผม แล้วพี่สาวผมก็บอกว่าผมต้องเจอพอลล่าให้ได้ ผมก็ไม่รู้หรอกว่าพอลล่าเป็นใคร หรือเป็นดาราดัง”
“พอลล่า” แย้มถึงแต่งงานแล้วก็ยังไม่คิดทิ้งงานในวงการบันเทิง ส่วนเรื่องการมีทายาทนั้นยังไม่ได้คิด
พอลล่า : “งานในวงการทำค่ะ คงทิ้งไม่ได้ เพราะงานเป็นชีวิตของเรา แต่ก็อาจจะต้องเดินทางไปอังกฤษมากขึ้น ก็คงต้องดูก่อนแล้วแต่ว่าเขาทำอะไรอยู่ที่ไหน คิดว่าเจอกันปกติ คงไม่ได้น้อยลง มันคงเป็นที่จังหวะมากกว่า ส่วนเรื่องมีน้องตอนนี้ยังไม่คิดเลย ขอเอางานอะไรให้เรียบร้อยก่อน”
เอ็ดเวิร์ด : “ตอนนี้ขอให้เป็นไปทีละสเต็ปดีกว่า ให้เราทั้งคู่พร้อมก่อน เดี๋ยวก็ถึงเวลานั้นเอง ไม่ได้เร่งรีบอะไร ถามว่าอยากได้ลูกสาวหรือลูกชาย เพศไหนก็ได้ ปีนี้ผมเองใช้ชีวิตอยู่อยู่ที่ลอนดอนเป็นส่วนใหญ่ ปีที่แล้วอยู่ที่ฮ่องกง ก่อนหน้านั้นก็อยู่เมืองจีน รวมๆ ก็คือตอนนี้อยู่สลับกันระหว่าง ฮ่องกง เมืองไทย แล้วก็ลอนดอน หลายคนอาจสงสัยว่าการที่ผมอยู่หลายที่จะมีผลกับชีวิตแต่งงานไหม มันไม่ลำบากเลยนะไม่มีปัญหา เพราะเราทั้งคู่ชอบเดินทางอยู่แล้ว เราทั้งคู่มีงานที่ต้องเดินทางตลอด เราก็จะทำให้ชีวิตแต่ละคนของเราน่าสนุกอยู่ตลอด ก็เลยยังไม่ได้คิดถึงตรงนั้น หลังเรียนจบเดือนมิ.ย.ปีหน้า คงกลับมาอยู่แถบเอเชีย ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
แสดงความคิดเห็น