“แหวนแหวน” ดี๊ด๊ากลับมาหวาน “แดน” เผยเคล็ดลับผู้ใหญ่ช่วยเป็นกาวใจ รวมถึงยอมปรับตัวเองและลดอีโก้ลง แจงเลื่อนวิวาห์ออกไปไม่มีกำหนด เหตุไม่มีฤกษ์มงคล แอบโล่งใจเพราะเพิ่งรู้สึกตัวยังไม่พร้อมกับชีวิตคู่ พร้อมโต้เหวี่ยงช่างแต่งหน้า-ทำผม
แม้จะเคยควงกันออกมายืนยันความสัมพันธ์ว่า วิวาห์ยังไม่ล่ม ความรักยังหวานชื่น แต่คนวงในจะเมาท์กันให้แซดว่า คู่รักไฮโซอย่าง “แหวนแหวน ปวริศา เพ็ญชาติ” กับทายาทสื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่ “แดน เหตระกูล” ระหองระแหงเลิกรากันแล้ว แต่ที่ยังควงกันออกมารับหน้าสื่อ เป็นเพราะผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายขอร้องไว้ และความพยายามเป็นกาวใจของผู้ใหญ่ ก็สามารถเชื่อมคนทั้งคู่ให้กลับมาจูนกันได้อีกครั้ง โดยการรีเทิร์นรักครั้งนี้แหวนแหวนยอมรับว่า ยังต้องปรับตัวหลายอย่าง รวมไปถึงการลดอีโก้ของตัวเองลง เพื่อจะได้เดินร่วมทางกับแฟนหนุ่มได้
"กลับมาดีกันคราวนี้ก็ดีค่ะ เป็นเพื่อนกันมากยิ่งขึ้น ก็พยายามลดอีโก้แต่ละคนลงมา ผู้ใหญ่ก็สบายใจที่เราทะเลาะกันน้อยลง แต่ก็ยังคอยให้คำปรึกษาเวลามีปัญหา ถามว่าใครง้อใครก็แล้วแต่ บางทีก็ตีมึน อย่างก่อนไปอินโดนีเซียก็ทะเลาะกัน พอไปเขาก็แมสเซจถามว่าเป็นยังไงบ้าง เราก็ไม่ได้โกรธอะไร ก็เหมือนเดิม ไม่ได้ทะเลาะเรื่องผู้หญิง แต่ทะเลาะกันเรื่องนิสัยส่วนตัวมากกว่า ตอนนี้ก็ยอมกันมากขึ้นค่ะ คบกันมาปีนึงแล้ว ทะเลาะกันไปมาบ้าง ต้องปรับตัวกันเยอะ ต้องสงบไปนั่งคิดบ้าง มีส่งหนังสือให้อ่าน แต่ยังเป็นไปในทางที่ดีค่ะ ก็เข้าใจกันมากขึ้น”
“นี่ก็เพิ่งไปฉลองครบรอบคบกัน 1 ปีที่อินโดนีเซียค่ะ พอดีเพื่อนสนิทแต่งงาน เราเป็นเพื่อนเจ้าสาว ก็ไปอยู่ที่นั่นอาทิตย์นึง แต่ไม่ได้ฉลองอะไรมาก มีฉลองก่อนไปนิดหน่อย เล็กๆ น่ารักกันเอง มีให้ของขวัญแลกกัน แต่ของแหวนไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ เอารูป 1 ปีมารวมกัน พอดีปีนี้งบน้อย แต่ของคุณแดนซื้อตู้ตกแต่งบ้านให้ใหม่หมดเลย มีซื้อเครื่องปั่นน้ำ รองเท้ากีฬา แกอยากให้เราดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีกว่านี้ เพราะเขาเห็นเราทำงาน ไม่ค่อยใส่ใจสุขภาพเท่าไหร่ เลยไปซื้อของบำรุงร่างกาย คอร์สสุขภาพมาให้ ราคาแพงเวอร์มาก เขาก็บอกว่าคุณต้องดูแลตัวเอง อยากให้มีชีวิตที่แข็งแรง อยู่ด้วยกันไปนานๆ"
เผยเลื่อนวิวาห์ไม่มีกำหนด บอกต้นปีหน้าไม่มีฤกษ์ดี แอบโล่งเพราะรู้สึกยังไม่พร้อมกับการใช้ชีวิตคู่
"เรื่องแต่งงานก็คุยเรื่อยๆ แต่ว่าไม่ใช่ช่วงต้นปีหน้าแน่ๆ เพราะตอนนี้ดาวพฤหัสตกมรณะ ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ก็เป็นช่วงปรับตัวกันด้วย ถ้าแต่งไปก็กดดัน ทะเลาะกัน อยากให้อยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจ นิ่งๆ กว่านี้ดีกว่า ตอนนี้ก็เลื่อนไปไม่มีกำหนด เพราะยังไม่มีฤกษ์แน่นอน หมอดูบอกว่าให้ผ่านพ้นช่วงต้นปีหน้าไปก่อน แล้วถึงจะเริ่มดูฤกษ์ที่แน่นอนได้ เพราะตอนนี้ดวงยังไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าเป็นของไทยไม่ดี ของจีนบอกว่าดี แต่เราเป็นคนไทย ต้องเอาของคนไทยก่อนดีกว่า”
“แต่ถ้าจะแต่งกลางปีก็เร็วไปไหม ก็อาจจะปลายปีหรือปีถัดไป ขึ้นอยู่กับเรา 2 คนด้วยค่ะ แต่เราไม่อยากเอาเรื่องแต่งงานมากดดันตัวเอง อยู่ให้แฮปปี้ดีกว่า ปล่อยไปเรื่อยๆ เรามีความตั้งใจอย่างนี้ แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นแบบนี้ ฉะนั้นยังไม่กำหนดอะไรแน่นอน แต่ถ้ามีความคืบหน้าแล้วจะบอกแน่นอน"
"ส่วนเรื่องบวชคุณแดนก็คงต้องเลื่อนเหมือนกันค่ะ จริงๆ ก็มีกำหนดเดือนพ.ย. แต่ตอนนี้ไม่ได้แน่ๆ แล้ว ฉะนั้นคุณแดนเลยคิดว่าต้นปีหน้าดีกว่าไหมถ้าจะบวช เพราะช่วงปลายปีจะงานเยอะ คุณแดนก็จะทำธุรกิจไวน์ด้วย มีงานฉลองโน่นนี่ คนโน้นสั่งโน่นนี่ อีเว้นท์โน่นนี่เยอะมาก เลยเลื่อนไปก่อนดีกว่า ไม่อยากให้บวชแล้วเครียดทำงานไม่ทันแล้วมีพะวง เลยเป็นต้นปีหน้าดีกว่า ให้พ้นช่วงปีใหม่ไปก่อน ช่วงนี้ก็กอบโกยรายได้ก่อนละกัน ไม่อยากให้บวชแล้วมีพะวง เพราะไม่มีใครดูแลแทนให้ ให้แหวนดูแลแทนก็ไม่ไหว ไม่ใช่แนวเลย แต่เรื่องฤกษ์บวชก็ยังไม่ได้กำหนดวันแน่นอน กำลังจะกลับไปดูฤกษ์ที่วัดบวรฯเหมือนเดิมค่ะ"
"ไม่ใช่ว่างานบวชเลื่อน งานแต่งเลยต้องเลื่อนตามไปด้วยนะจริงๆ ก็ยังไม่มีกำหนดแน่นอนแต่แรก แต่ที่ไปดูหมอดูบอกว่าไม่ใช่ต้นปีหน้าแน่ๆ เพราะดวงไม่ดีเลย ต้องเป็นหลังปลายปีหน้า แม่ก็รู้สึกดีเพราะเห็นทะเลาะกันง้องแง้ง แม่ก็เฮ้ย....หรือเลิกกดดันเรื่องแต่งงานไหม เพราะรู้สึกกดดันเริ่มเครียด ถามว่าเราพร้อมจะแต่งไหม ก็รู้สึกว่าถ้าจะมีชีวิตครอบครัว มีลูกก็ยังไม่พร้อมซะทีเดียว ทุกวันนี้ยังรู้สึกดูแลตัวเองไม่ดีพอ คุณแดนก็เป็นห่วงเดี๋ยวเข้าโรงพยาบาลนั่นนี่ เราก็รู้สึกว่าต้องเริ่มที่ตัวเองก่อน ก็คุยกับคุณแม่ว่ากดดันเหมือนกันนะ ถ้าจะต้องแต่งงานตอนนี้ พอข่าวออกไปก็รู้สึกว่าทำไมข่าวกดดันเราได้ขนาดนี้ เราก็อยากตัดสินใจเอง แม่ก็ไม่อยากให้รู้สึกแบบนั้น ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า ซึ่งคุณแดนเข้าใจ"
"ปีใหม่นี้ยังไม่มีอะไรแน่นอนว่าจะไปไหน เพราะพี่แดนต้องไปประชุมที่ฝรั่งเศสเดือน ม.ค.ปีหน้า ก็เลยเออ...ไว้ฉลองปีใหม่ทีเดียวเลยแล้วกันนะ อาจจะอยู่ยาววาเลนไทน์ที่โน่นด้วย แต่ลางานลำบากมาก ตอนนี้ต้องทำงานก่อน เกิดสมมติแต่งงานมีลูกมาแล้วทำได้ไม่เต็มที่ เพื่อนๆ แต่งงานแล้วชีวิตเปลี่ยนไป เราก็ตายแล้ว (หัวเราะ) ฉันจะต้องเป็นอย่างนี้เหรอ เริ่มเครียดนิดหน่อย ตอนนี้เอางานให้มั่นคงดีกว่า เพราะปีหน้ามีแผนการอีกหลายอย่างที่อยากจะทำค่ะ"
ส่วนกับกระแสข่าวไปเหวี่ยงใส่ช่างแต่งหน้า-ช่างทำผม เจ้าตัวยันไม่เคยมีนิสัยเช่นนั้น เพราะจะแต่งเองหรือมีเลขาฯช่วยแทบทุกครั้ง
"จริงๆ ปกติเป็นพี่ตุ่ม เลขาฯ จะเป็นคนคอยแต่งให้ตลอดเพราะว่าไม่ค่อยได้ไปแต่งกับช่างที่อื่นเท่าไหร่ เพราะผิวหน้าแพ้ง่าย ส่วนใหญ่จะแต่งหน้าเอง ก็เลยไม่รู้จะเหวี่ยงใครเหมือนกันนะ เพราะอย่างติดขนตาก็ทำเองหมด คนอื่นอาจจะทำไม่เหมือนที่เราชอบ เลยทำเองดีกว่า ตัดปัญหาไป โดยปกติทั่วไปแต่งหน้าเองค่ะ แล้วจะมีพี่เลขาฯเคยทำงานเป็นอาจารย์ที่ MTI มาก่อน เลยแบบเฮ้ย...แต่งให้หน่อยละกัน ส่วนใหญ่ตาก็จะแต่งเอง อย่างแก้ม รองพื้น พี่เขาช่วยแต่งให้บ้าง แต่อายแชโดว์จะแต่งเองดีกว่า เพราะเราจะรู้สิ่งที่เราชอบมากที่สุด ไม่เคยไปแต่งหน้ากับช่างคนอื่น อาจจะมีบ้างแต่ก็น้อยมาก อาจจะมีไปถ่ายแฟชั่น ซึ่งพี่ที่แต่งก็จะสนิทกันอยู่แล้ว นอกจากนั้นงานอีเว้นท์หรืองานที่ช่องก็แต่งเองค่ะ"
ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์
แสดงความคิดเห็น