ปุ๋ย รุ่งทิวา
ถึงคราวขำไม่ออก สำหรับหนุ่มอารมณ์ดี “อี๊ด สมพงษ์ คุนาประถม” หัวหน้าวงโปงลางสะออน หลังออกมายอมรับในงานแถลงข่าวเปิด “ซันบ็อกซ์” กล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียมของอาร์เอส ที่โรงแรงเรเนซองส์ ว่าตอนนี้ได้เลิกรากับ “นุช นุชจรินทร์ พลแสน” แฟนสาวนอกวงการ และอดีตผู้จัดการคู่ชีวิต ที่คบหากันมานาน 10 ปี ท่ามกลางกระแสข่าวว่า “ปุ๋ย รุ่งทิวา” นักร้อง และปัจจุบันเป็นผู้จัดการคนใหม่ของอี๊ดเป็นมือที่ 3
ทั้งนี้ กับเรื่องมือที่ 3 อี๊ดยืนยันไม่จริง ตนเลิกกับแฟนก่อนจะมาเจอกับปุ๋ย ส่วนสาเหตุที่ทำให้เลิก เจ้าตัวบอกว่าเป็นเรื่องของเวลา อีกทั้งด้วยความที่อยู่กันมานานทำให้ความหวานลดน้อยลง เผยยังรักฝ่ายหญิงอยู่และคงตัดใจไม่ได้ แต่โอกาสคืนดีคงไม่มี พร้อมยืนยันแม้ไม่ได้แต่งงานกัน แต่ตนก็แบ่งทรัพย์สินให้อดีตแฟนอย่างดีที่สุด
“กับแฟนก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว เรารักกันมาตั้งแต่มัธยม ก็รักกันมานาน ปัญหาเป็นเรื่องของเวลา ผมเป็นคนที่ทำงานแล้วจริงจังกับงานมากๆ เลยเป็นเรื่องของเวลาที่ไม่ค่อยได้ดูแลเขา เขาเป็นคนดีมาก เราก็เข้าใจในความเป็นผู้หญิง แต่เราก็เป็นแบบนี้ด้วย เลยเข้าใจเขา กว่าจะหาเวลาดูแลกันก็ยาก ตอนนี้ก็เลยห่างกันไป เขาก็เลยกลับไปอยู่ที่ขอนแก่น”
“เราคบกันตั้งแต่สมัยเรียนที่กาฬสินธุ์ น่าจะ 10 กว่าปีแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งงานกันครับ ก็กำลัง ผมรู้สึกว่าก่อนที่เราเป็นศิลปิน เราก็บอกเขาว่า ขอทำหน้าที่ตรงนี้ก่อน เราเป็นคนคุยกันด้วยเหตุผล ก็เลยคุยกัน ก็ลองดู เผื่ออะไรจะดีขึ้น เขาเป็นคนที่ช่วยดูแลน้องๆ ในวง”
แต่มีข่าวว่าเราไปคบคนใหม่ที่เป็นนักร้องเหมือนกัน?
“ไม่เกี่ยวครับ ช่วงนั้นไม่เกี่ยวเลย เขาเป็นคนดูแลคิวงานให้ และเขาก็เข้ามาทีหลัง ตอนนั้นยังไม่รู้จักกันเลย เขาเป็นคนดูแล ไปไหนมาไหนด้วยกัน ไม่ได้ปิดบัง เวลาไปถ่ายละครเขาก็ไปดูแล ผมกับแฟนเลิกกันก่อนที่จะมาเจอน้อง”
คนใหม่ใช่ “ปุ๋ย รุ่งทิวา” รึเปล่า?
“ใช่ครับ แต่ยังไม่ใช่แฟนคนใหม่ของผม ผมจ้างเขามาทำงานเป็นเดือน เพื่อจะมาดูแลวง เหมือนตอนที่แฟนผมทำหน้าที่อยู่ หลังจากเลิกกับแฟนผมแล้ว ก็มีคนมาแนะนำให้รู้จัก เขาเป็นคนเก่งดีและก็สวยด้วย ตอนนี้ผมก็กำลังจีบเขาอยู่ (ยิ้ม) พูดเล่นนะครับ ช่วงนี้อยู่ในช่วงกำลังทำใจเหมือนกัน อย่างว่าเราอยู่กันมานาน พอมาอยู่คนเดียวก็รู้สึกเหมือนขาดอะไร เสียดายสิ่งที่ช่วยประคับประคองกันมา”
“กับแฟนเราเลิกกันก็ซักพักนึง ก็หลายเดือนแล้ว เขาก็เป็นผู้จัดการดูแลวงมาก่อน คอยดูแลอยู่ข้างผมมาตลอด ช่วยกันมาตั้งแต่แรก ส่วนกับคนใหม่ผมยังจ้างเขาอยู่เป็นเดือน เรียกว่าเขาเป็นพนักงานบริษัทคนนึง ผมก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง คนก็แซวเยอะ คนก็คิดว่าจะเอาจริงดีมั้ยเนี่ย แต่เราก็ไม่เคยอกหัก นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตขอเป็นครั้งเดียวละกัน”
ยอมรับถึงจะเลิกกับแฟนมาพักใหญ่แล้วแต่ยังเสียใจอยู่
“มันก็มีบ้างครับ เพราะเราต้องเป็นผู้นำวง ก็มีเศร้าๆ เพราะเราต้องเดินคนเดียวลำพัง แต่ก็ต้องรีบลุกขึ้นมาทำใจให้เร็วที่สุด เราไม่ได้ต่างคนต่างทะเลาะกัน เราคุยกันด้วยเหตุด้วยผล เรายังเป็นห่วงกันอยู่ มีโทร.หากันเรื่อยๆ เขาเดือดร้อนอะไร ผมก็ยินดีช่วยเหลือ”
“อย่างว่า เราคบกันมา 10 กว่าปี ความหวานอาจจะน้อยลง ผมอาจจะลืมในส่วนตรงนี้ไป เหมือนผมก็คิดว่าทุกอย่างมันเป็นปกติ แต่ก็เป็นความละเอียดอ่อนของผู้หญิง เรื่องนี้ไม่มีใครผิดใครถูก เราต่างคนต่างก็มีความคิดที่ต่างกัน เขาอาจจะอยากทำธุรกิจสอนรำ แต่ผมอยากทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด เขาก็เลยกลับมาทำที่บ้าน”
“ไม่เกี่ยวกับเราไม่แต่งซักทีนะครับ ผมให้คำมั่นสัญญากับแม่ไว้แล้ว ให้แม่เขามาอยู่บ้านผม ช่วยดูแลผม ให้ความมั่นใจเขา ก่อนหน้านี้เราก็คุยกันไว้แล้ว เรื่องแต่งงาน เราคุยกันตั้งแต่ที่เรามาเรียนกรุงเทพใหม่ๆ เราก็บอกเขาว่ารอเราหน่อยนะ เราก็พยายามอยู่”
ส่วนข่าวที่บอกว่า “อี๊ด” ทิ้งคนเก่าไปคบคนใหม่? เจ้าตัวเคลียร์ว่า…
“ด้วยความที่ผมเป็นศิลปิน แฟนผมเป็นคนขี้หึงด้วยครับ เราเองก็ขี้เล่น มันก็อาจจะมีส่วน แต่ยังไงแล้ว ผมก็มีเขาคนเดียว หลายๆ คนอาจจะเป็นสิ่งรอบข้างไปเรื่อย แต่จริงๆ แล้วก็มีแค่คนเดียว เป็นตัวประกอบรวมๆ แล้วก็มีแค่คนเดียว แต่ตอนนี้เริ่มมีเยอะแล้ว เริ่มใช้ชีวิตไปเรื่อย”
คิดจะง้อแฟนมั้ย?
“เขาคงมีคนดูแลแล้วมั้งครับ ก็ยังคิดถึงเขาอยู่ ยังบอกเขาว่า ถ้ามีอะไรให้เราช่วยเรายินดีลงไปดูแล บางอย่างมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาคิดจะทำ ถึงจะเป็นธุรกิจเล็ก แต่ใช้เงินเยอะ อยากให้เขาคิดให้ดี”
ด้วยความที่ทั้งคู่เริ่มต้นจากศูนย์ด้วยกัน แต่พอในวันที่มีชีวิตที่ดีขึ้นความสัมพันธ์กลับต้องจบแบบนี้ จึงอดถามไม่ได้ว่า กลัวคนจะมองไม่ดีหรือไม่? อี๊ดยืนยันว่าแม้ไม่ได้แต่งงานกัน แต่ตนก็แบ่งทรัพย์สินให้
“ไม่นะครับ ผมไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ เขาก็ไม่ใช่คนเอาเปรียบใครเหมือนกัน เราอยู่กันมาได้ทุกวันนี้เพราะเราซื่อสัตย์ไว้ใจกันและกัน มีอะไร ได้อะไรเราก็แบ่งกัน มันก็ต้องมีการคุยกันอยู่แล้ว ไม่ใช่ผมไม่จัดงานแล้วจะไม่ให้อะไรเลย มันไม่ใช่แบบนั้น”
“ส่วนคนใหม่ก็คงแล้วแต่คนที่จะเข้ามา ผมยังไม่เคยเจอรสชาติแบบนี้ เราอยู่ด้วยกันมา สู้ด้วยกันมา พอเป็นแบบนี้คงใช้ระยะเวลาซักพักนึง เรายังงงอยู่ว่าจะใช้ชีวิตยังไง อยู่บ้านคนเดียวไม่ได้ต้องเอาน้อง เอาหลานมาอยู่ด้วย ก็โทร.ไปถามไถ่เขาเพราะเขาก็อยู่คนเดียว”
“ยอมรับว่าผมกลัวเขามีคนใหม่ เพราะมีคนบอกมา ผมเองก็ไม่กล้าถามเขา แต่ถ้าผมมีคนใหม่ก็จะปรึกษาเขาเหมือนกัน ถ้าเขามี ผมก็ให้คำปรึกษาเขา เราอยากเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด แม้เราจะรักกันไม่ได้ ก็น่าจะสนิท คุยกันได้ อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ แน่นอนผมยังรักเขาอยู่ ผมคงตัดใจจากเขาไม่ได้ ผมเองก็เชื่อว่าเขาก็ยังคิดถึงผมเหมือนกัน ตอนนี้ขอดูไปเรื่อยๆ ก่อน รอให้มั่นใจจริงๆ ค่อยตกลงปลงใจกับใคร ความบริสุทธิ์มีค่าครับ”
“โอกาสคืนดีคงยากครับ ให้แล้วแต่ฟ้าลิขิตดีกว่า ผมก็อยู่ทางนี้ เขาก็อยู่ทางนู้น เราก็ไม่ได้คุยกันบ่อย มันก็พูดยาก ไม่ได้อยู่ด้วยกันไม่เจอกันแล้ว แต่ยืนยันครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากมือที่3 ผมเองก็ตามง้อเขา หลังจากที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว”
“ตอนนี้ทำงานมันก็ฝืดๆ บ้าง กับน้องปุ๋ยยังไม่ได้กันครับ อย่าเข้าใจผิด ไปด้วยกันเฉยๆ ยังไม่ได้กัน ผมก็ดูแลตัวเองไปก่อนช่วงนี้ ซักเครื่องครับ ไม่เคยซักมือ เรื่องเฮิร์ตเรียกว่าตอนนี้เรื่อยๆ แล้ว พลังอาจจะน้อยลงหน่อย แต่ผมก็พยายามสร้างพลังให้ตัวเองเรื่อยๆ น้องๆ ในวงก็คอยให้กำลังใจ แต่ครั้งนี้ยังไม่เสียน้ำตาลูกผู้ชาย เขาเองก็ไม่เสียน้ำตาเพราะเราคุยกันด้วยเหตุผล”
ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์
แสดงความคิดเห็น