โลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก แห่แชร์ภาพผลการสอบคัดเลือกพนักงานการรถไฟ มีชื่อ นายวันชัย แสงขาว ผู้ต้องหาคดีข่มขืนฆ่าน้องแก้ม หลังผู้ว่าการ รฟท. อ้างว่าคนร้ายไม่ใช่พนักงานของการรถไฟฯ สืบเนื่องจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ข่าวน้องแก้ม วัย 13 ปี ที่หายตัวไปขณะโดยสารรถไฟตู้นอนพร้อมกับพี่สาวและญาติ ๆ รวม 4 คน บนขบวนรถไฟที่ 174 สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา ทางครอบครัวจึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำ
รวจ และพบผู้ต้องสงสัยคือ นายวันชัย แสงขาว อายุ 22 ปี พนักงานปูเตียง เนื่องจากตามร่างกายมีรอยขีดข่วน ต่อมาผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่า ได้ลงมือข่มขืนน้องแก้มและโยนร่างทิ้งหน้าต่างรถไฟ ซึ่งเรื่องนี้ นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ระบุว่า คนร้ายเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่รับสัมปทานดูแลความสะอาด ไม่ใช่พนักงานของการรถไฟฯ ตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น ล่าสุด วันนี้ (8 กรกฎาคม 2557) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายวันชัย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยแถลงข่าวว่า นายวันชัย แสงขาว ผู้ต้องหาคดีข่มขืนฆ่าน้องแก้ม เพิ่งผ่านการสอบคัดเลือกเป็นลูกจ้างพนักงานรถนอน เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา อยู่ในรายชื่อลำดับที่ 43 เป็นลูกจ้างเฉพาะงาน ผ่านการสอบสัมภาษณ์เข้ามา ซึ่งต่างจากที่นายประภัสร์ ยืนยันว่าคนร้ายไม่ใช่พนักงานของการรถไฟ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างมาก โดยเพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้มีการโพสต์ภาพประกาศกองโดยสาร เรื่องผลการคัดเลือกเป็นลูกจ้างเฉพาะงาน เพื่อทำหน้าที่แทนพนักงานประจำรถนอน โดยมีรายชื่อของ นายวันชัย แสงขาว ผู้ต้องหาคดีข่มขืนฆ่าน้องแก้ม อยู่ในรายชื่อผู้สอบผ่านการคัดเลือกในลำดับที่ 43 อย่างชัดเจน โดยทางแอดมินเพจ Drama-addict ได้มีการโพสต์ข้อความว่า หลักฐานแสดงให้เห็นชัดเจนว่า คนร้ายคือลูกจ้างชั่วคราวของการรถไฟ ไม่ใช่ลูกจ้างของบริษัทเอกชนที่รับเหมางานมา ความรับผิดชอบเป็นของการรถไฟเต็ม ๆ ทำไมถึงปัดสวะไปให้เอกชน คุณกลัวการแสดงความรับผิดชอบมากเลยหรือ หรือกลัวจะซ้ำรอยเหตุการณ์ปี 2551 ที่เหยื่อถูกพนักงานการรถไฟข่มขืน ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการรถไฟด้วย ทั้งนี้ จากการโพสต์ภาพดังกล่าว ทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย อาทิ ผู้ว่าการ รฟท. ปัดความรับผิดชอบกันเห็น ๆ และถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น หรือประเทศเกาหลีใต้ เชื่อว่าผู้ว่าการ รฟท. คงต้องลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบ แต่สำหรับประเทศไทยคงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน และยังมีอีกหลายความคิดเห็นสงสัยว่า พนักงานที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น สามารถดื่มสุราและเสพยาเสพติดบนรถไฟโดยที่พนักงานคนอื่นไม่เห็น หรือมันเป็นเรื่องปกติกันแน่

แสดงความคิดเห็น

 
Top