ซึ่งปัญหาใหญ่ตกอยู่ที่ค่ายเอ็กแซ็กท์ของ “บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ” ซึ่งเป็นค่ายละครหลักของช่องมานาน และละครส่วนใหญ่ที่ทำออกมาก็เป็นแนวเข้าข่ายดังกล่าวซะด้วย อย่างเรื่องล่าสุด “มาลัยสามชาย” ก็มีฉากของดาราสาว “แป้ง อรจิรา แหลมวิไล” ที่รับบทเป็นผู้หญิงมากรักหลายสามี และมีฉากเลิฟซีนเยอะ ทำให้มีข่าวว่าทางช่องได้ส่งหนังสือเตือนให้ตัดฉากเหล่านั้นออก แต่ล่าสุด “บอย” ได้ออกโรงฉะสื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ตั้งแต่มีข่าวออกมาตนได้เข้าไปคุยกับผอ.ช่องคนใหม่แล้ว และไม่เคยมีปัญหาอย่างที่ข่าวลงเลยสักนิด เพราะละครของตนมีคลาสพอ
“เฉือนฉากออกเหรอครับ ผมยังไม่เห็นได้ยินอะไรเลย (หัวเราะ) ยังไม่เห็นมีอะไรมาถึงผมเลย ตอนนี้ก็ยังถ่ายทำตามปกติ ทุกอย่างเหมือนเดิม ก็วอนสื่อมวลชนและวอนผู้ชมด้วยนะครับว่า หลายๆ ครั้งข่าวโปรโมตกับเนื้อในของละครบางทีแล้วมันต่างกัน เอาง่ายๆ ถ้าไม่มีข่าวหวือหวาสื่อมวลชนก็ไม่ลงข่าว ซึ่งจริงๆ แล้วมันมีอยู่นิดเดียว แต่มันก็ต้องมีการลงข่าว ไม่อย่างนั้นพวกคุณเองนั่นแหละที่ยืนอยู่กับผมตรงนี้ทุกท่านนี่แหละ (มองไปทางนักข่าวทุกคน) ก็ไม่ลงไง”
“เรื่องหนังสือเตือนอะไรผมไม่ทราบ ไม่ถึงผม ผมไม่เคยได้ยิน เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้วมันไม่ได้มีอะไร ไม่มีอะไรเกินเลย คือถามว่าละครทุกวันนี้ฉากคนไม่ดีมีเพื่ออะไร ก็เพื่อให้เห็นถึงฉากคนดี และสุดท้ายแล้วคนดูก็เอาใจช่วยคนดี แต่ถ้าไม่มีคนไม่ดี คนดูก็ไม่เอาใจช่วยคนดีไง มันก็เท่านั้นเอง ผมว่ามันก็เป็นอย่างนี้มาอยู่แล้ว และสิ่งที่เราทำมันก็มีคลาส มันมีรสนิยม คือข่าวอะไรแบบนี้มันออกมาเมื่อประมาณ 2-3 อาทิตย์ก่อนหรือเดือนนึง ซึ่งสื่อมวลชนก็ยังเล่นกันต่อ และผมก็ได้มีโอกาสไปเจอท่านผอ. ท่านก็พูดกับผมตลอดว่ามันเป็นข่าวลือ(หัวเราะ) ทำดีแล้ว ก็ทำดีต่อไปก็เท่านั้นเองครับ”
ยันผอ.คนใหม่ไม่ติติงอะไรมาก บอกทำกับช่อง 5 มา 18 ปีรู้ว่าเส้นอยู่ตรงไหน พร้อมปัดถูกห้ามเอากะเทยออกทีวี
“ท่านไม่ได้ติอะไรเลยครับ ท่านก็ชื่นชมผลงานของเรา ก็อาจจะมีพูดบ้างตรงนั้น ซึ่งเราก็คงต้องตระหนักดู แต่ผมว่ามันเป็นรายละเอียดยิบย่อยมันอยู่ที่เส้น ซึ่งตรงนี้เราทำช่อง 5 มา 18 ปี เรารู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร และรู้ว่าเส้นมันอยู่ตรงไหน คือผมว่ามันอยู่ในรายละเอียดแต่ละฉาก ถามว่าที่ผ่านมาไม่ใช่แค่เรื่องนี้มีเกินเลยบ้างไหม ก็มีเกินเลยบ้าง แล้วก็มีท้วงติงมา เราก็ตัดออก ก็ไม่ได้มีอะไร ก็เท่านั้นเอง มันเป็นเรื่องปกติของทุกปีที่ผ่านมาครับ”
“ส่วนเรื่องที่ว่าช่องจะไม่ให้กะเทยออกเลย อันนี้เรื่องไม่ได้มาถึงผมนะครับ ยังไม่มีใครได้พูดกับผมตรงๆ แต่เท่าที่ผมรับทราบมากะเทยออกได้แต่อย่ากรี๊ดกร๊าดเท่านั้นเอง คือความกรี๊ดกร๊าดเกินงามของคนไทยนั้นเราก็ต้องดู เพราะอันนี้เป็นหลักของคนไทย วัฒนธรรมไทยอันดีงาม ซึ่งเราก็ยังคงรักษาไว้ แต่บางครั้งมันเกินเลย มันไม่ใช่แค่กะเทยนะครับ ผู้หญิงก็ด้วย หรือบางทีผู้ชายก็ด้วย ผมว่ามันอยู่ที่กิริยามารยาทของคนมากกว่า”
“เจอข่าวเยอะผมไม่กดดันนะครับ จะกดดันทำไม ทำไมต้องกดดัน ถ้าเผื่อเรามีจุดมุ่งหมายที่ดี และเรามีความจริงใจที่ดีที่จะทำงานดีๆ ทำไมเราจะต้องกดดันล่ะครับ ผมว่ากฎกติกาต่างๆ ที่ดีนั้นมันทำให้มาเพื่อให้รู้หนักเบา แต่ถ้าเผื่อเราทำดีของเราอยู่ กฎกติกาบางทีมันไม่ต้องใช้ เพราะว่ามันไม่ถึงตรงนั้น”
“ถามว่าเราจะลดทอนบทบาทอะไรลงบ้างไหม ผมว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่เส้นนะครับ สุดท้ายแล้วผมจะบอกให้ว่าใครเป็นคนกระพือรู้ไหม (มองไปที่นักข่าวอีกรอบ) จริงๆ ครับ ก็กรุณาอย่าเสนอข่าวอะไรที่มันเป็นรายละเอียด แล้วมันเป็นเส้นที่เขาปฏิบัติกันมาทุกๆ ปีอยู่แล้ว กรุณาอย่านำเสนอให้มันใหญ่โต เพราะจริงๆ มันคือรายละเอียด คือผมเข้าใจธรรมชาติของทุกๆ อย่างว่า บางทีมันมีอะไรหวือหวาก็ต้องเล่นให้มันใหญ่ แต่ว่าการเล่นให้มันใหญ่นั้น บางทีแล้วมันทำให้ทั้งคนดูและคนทำงงกันเองว่ามันคืออะไร แต่จริงๆ มันไม่ได้มีอะไรเลย”
“คือบางทีคนตีความผิดแล้วก็ตกใจกันไปเอง คือเท่าที่ผมได้พูดคุยกับท่านผอ. ท่านเป็นคนที่มีความคิดที่ดีมากๆ เป็นคนสมาร์ทมากๆ เข้าใจสิ่งต่างๆ มากๆ อย่างที่บอกแหละครับบางครั้งบางทีเราก็พลาดพลั้งเกินเส้น อย่างถ้าอันไหนมีเซ็นเซอร์ เราก็ถูกเซ็นเซอร์มันก็เท่านั้นเอง มันไม่ใช่ว่าเราจะต้องเปลี่ยนทุกสิ่งอย่าง คือผมว่าคุณไม่ให้เกียรติท่านนะ ควรระวังการนำเสนอแบบนี้ เพราะมันจะไม่เป็นการให้เกียรติผู้นำในการที่จะปรับเส้นของมัน หรือว่าปรับรายละเอียดของมันให้ดูดีหรืออะไร แต่ว่าทุกอย่างมันเป็นรายละเอียด มันไม่ใช่ว่าห้ามนั่นห้ามนี่”
แสดงความคิดเห็น