“บี้” สุดปลื้มได้โชว์งานเอเชีย ซอง เผยสุดตื่นเต้นได้ขึ้นเวทีเดียวกับ “เรน” ปัดไม่รู้ “ฟิล์ม” ตามไปดูคอนเสิร์ตแถมตัดพ้อ รับค่ายเพลงเกาหลีชวนโกอินเตอร์ แต่ปฏิเสธเพราะยังรักและมีความสุขกับการทำงานที่เมืองไทย
กลายเป็นหนุ่มที่ส้มหล่นเข้าอย่างจัง สำหรับนักร้องหนุ่ม “บี้ สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว” ที่อยู่ๆ ก็ได้ไปขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ของเกาหลีบนเวที “เอเชีย ซอง เฟสติวัล 2010” แทนนักร้องหนุ่มผู้โชคร้าย “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” จากกรณีพัวพันกับสาว “แอนนี่ รุ่งนภา บรู๊ค” จนถูกผู้บริหารค่ายอาร์เอสอย่าง “เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” สั่งงดงานทั้งหมดไป เลยพลอยทำให้แพลนของหนุ่ม “ฟิล์ม” ซึ่งจริงๆ ต้องเป็นตัวแทนของศิลปินไทยไปโชว์ในครั้งนี้ เลยตกเป็นของ “บี้” ไปโดยปริยาย
ล่าสุดได้เจอตัวนักร้องผู้โชคดีอย่าง “บี้” ในวันบวงสรวงละครเรื่อง “ข้ามเวลา ตามหารัก” เจ้าตัวก็เผยว่าเป็นปลื้มสุดๆ เพราะได้ขึ้นเวทีเดียวกับซูเปอร์สตาร์เกาหลีอย่าง “เรน” รวมไปถึงนักร้องสุดฮอตของเกาหลีอีกหลายวง
“บรรยากาศงานเอเชีย ซองที่เกาหลีสนุกมากครับ และที่ตื่นเต้นก็เพราะได้ขึ้นเวทีที่เป็นเวทีเดียวกับเรน, โบอา, โฟร์มินิท, คาร่า ซึ่งเป็นศิลปินเกาหลี ศิลปินญี่ปุ่นหลายๆ คนที่บี้ชื่นชอบ และติดตามผลงานของเขา และเราได้ร่วมงานกับเขา ถึงเราจะไม่ได้ขึ้นเวลาเดียวกัน แต่ความรู้สึกคือเวทีนี้คือเวทีเดียวกัน ทีมงานเป็นทีมงานเดียวกัน คนดูแบบเดียวกันก็เลยรู้สึกตื่นเต้น เหมือนกับว่าเราได้ใช้ของร่วมกับศิลปินที่เราชื่นชอบ ตื่นเต้นมากครับ”
“เป็นปลื้มครับ เพราะทำให้เรารู้ถึงการทำงาน และทำให้เราอยากรู้เลยว่า การทำงานของเรนหรือว่าโบอา เขาทำงานกันยังไง เบื้องหลังเขาเป็นยังไง ทำไมเขาถึงเท่ห์ได้แบบนั้น ใช้มุมกล้องช่วยหรือเปล่า แต่มันไม่ใช่ เพราะเบื้องหลังการทำงานเวทีหรือว่าซาวด์แสงสีเสียงอะไรต่างๆ เมืองไทยเราก็ไม่ยิ่งหย่อน อยู่ที่ความสามารถของตัวบุคคลมากกว่า สำหรับเสียงกรี๊ดที่ผมได้รับก็มีครับ แต่ว่าอาจจะดังไม่เท่ากับคนเกาหลีชาติเขา เพราะคนในสเตเดี่ยมส่วนใหญ่เป็นคนเกาหลี อาจจะมีจีน ไทย สิงคโปร์ ไต้หวันอยู่บ้าง แต่เราก็พยายามเชียร์อัพเต็มที่ ก็เรียกเสียงกรี๊ดจากคนเกาหลีได้ด้วยครับ”
ปัดไม่รู้ “ฟิล์ม” ตามไปดู และแอบมีบ่นตัดพ้อว่าต้องเป็นตนแท้ๆ ที่ยืนอยู่บนเวที
“ข่าวที่ว่าฟิล์มไปด้วยอันนี้ผมไม่ทราบนะครับ ไม่ทราบว่าเขาไปดูหรือเปล่า แต่มีแฟนคลับของผมตามไปประมาณ 20-30 คนด้วย ซึ่งผมก็ไปโชว์ 3 เพลงครับ เขาให้ 10 นาที เราก็ตัดมาเป็นเมดเลย์เลย ก็มีเพลง จังหวะหัวใจ เราอยากจะโชว์การเต้นที่ว่าบ้านเราก็มีฮิพฮอพที่แข็งแรงเหมือนกันนะ แล้วก็เน้นในเรื่องของการสื่อสารคือเพลง มากมาย เป็นเพลงที่ 2 ก็จะเป็นเพลงช้าๆ เต้นน้อยๆ เน้นการยิ้มสื่อสารกับคนดู สื่อสารกับคนเกาหลี ส่วนเพลงที่ 3 ก็คือเพลง ฮัก เป็นการเต้นสไตล์ของไทย ดนตรีก็มีของไทยเกิดขึ้น แล้วก็จะมีการเต้นสไตล์ของไทยด้วยครับ”
“สิ่งที่ประทับใจก็คือหลักๆ เลยก็ได้ไปเที่ยวด้วย แล้วก็ประทับใจบรรยากาศที่นั่น เพราะเป็นครั้งแรกด้วยที่ได้ไปเกาหลี บรรยากาศที่สวยงาม ผู้คนที่เป็นเอเชียแต่ว่าเป็นเอเชียอีกแบบนึง การทำงานทีมงานเขาก็เทคแคร์ดูแลเราดีมาก มีการ์ดประจำตัวให้ เขาก็ให้มาตัวใหญ่ๆ เลย แต่ไม่เคยคุยกันสักคำ (หัวเราะ) เพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่เขาก็ดูแลเราดี ทีมงานที่เกาหลี การทำงานต่างๆ เราประทับใจในเรื่องของการเทคแคร์ของเขามาก”
“ผมมีไปขอถ่ายรูปกับศิลปินเกาหลีด้วย กับวงโฟร์มินิท หรือคาร่า เพราะเขาเต้นเก่งครับ แล้วผมก็เคยดูและติดตามผลงานของเขา แต่ศิลปินที่มาขอผมถ่ายรูปก็มีวง AKE Forty eight ของญี่ปุ่น ผมก็ไปแกล้งเขาบอกเขาว่าไอเลิฟยู(หัวเราะ) ให้กับ 48 คนนั้น แต่ครั้งนี้เขามาแค่ครึ่งเดียว มาแค่ 20 กว่าคน เขาก็น่ารักดีมาขอถ่ายรูปกัน ครั้งนี้ก็ได้ประสบการณ์ ได้เพื่อน แต่หลักๆ เลยก็คือประสบการณ์ในการทำงานครับ”
เผยมีทีมงานเกาหลีชวนให้โกอินเตอร์ไปทำงานด้วย แต่ตนปฏิเสธเพราะยังรักและมีความสุขกับการทำงานที่เมืองไทย
“ส่วนโอกาสโกอินเตอร์ ถ้าใน ณ ปัจจุบันนี้ผมยังไม่อยากที่จะโกอินเตอร์ เพราะว่าเรื่องของภาษายังไม่แข็งแรง และเรื่องความพร้อมในการทำงาน ตอนนี้ผมยังชอบรักและมีความสุขกับการทำงานในเมืองไทย ความพอเพียงตรงนี้ผมว่าโอเคแล้ว ยังไม่ถึงขั้นที่จะก้าวขึ้นไปอีกสเต็ปนึง แต่ทางผู้จัดงานที่โน่นก็บอกว่าเขาชอบนะ อยากให้เรามาร่วมงานด้วย แล้วก็มีทางค่ายของเกาหลีซึ่งจริงๆ เขาดูอยู่ เขาก็บอกว่าชอบนะ ถ้ามีโอกาสก็มาร่วมงานกัน แต่ผมก็ไม่ได้ตกลงหรืออะไรไป เป็นแค่การคุยกันเล่นๆ เฉยๆ ไม่ได้จริงจัง”
แสดงความคิดเห็น