ฟีนิกซ์ ปรากฏตำนานของพวก อียิปต์โบราณในฐานะของสัตว์เทพในตำนานซึ่งคู่ควรแก่การบูชา ยกย่อง เคารพ ฟีนิกซ์เกี่ยวข้องกับ เทพแห่งไฟ ดังนั้นจะสังเกตได้ว่า ขนนกของฟีนิกซ์นั้นจะออกเป็นประกายเหลืองทองคล้ายเปลวไฟ บ้างก็ว่าปกคลุมด้วยเปลวไฟทั้งตัวทีเดียว
ขนาดของนกฟีนิกซ์นี้จะมีขนาดเท่านกอินทรีตัวโต จงอยปากและส่วนขาเป็นสีทอง ประกายขนสีแดงถึงเหลืองทอง มีเสียงร้องที่ไพเราะดังเสียงดนตรี รูปร่างสวยสง่างาม บางครั้งหยิ่งผยอง บางครั้งเปี่ยมด้วยความเป็นมิตร บางตำนานเล่าว่านกนี้สามารถฟื้นชีวิตให้กับผู้ตายได้ และสามารถฟื้นพลังทั้งหมดให้กลับสู่ปกติได้ เนื่องจากเป็นสัตว์เวทตัวหนึ่งภายใต้เทพแห่งไฟ บางครั้งจะพบว่าสามารถใช้มนตร์ไฟได้ ฟีนิกซ์เป็นสัตว์ที่นิสัยอ่อนโยน เพลงของฟีนิกซ์มีเวทมนตร์สามารถกระตุ้นความกล้าหาญ แห่งจิตใจบริสุทธิ์ และทำให้เกิดความกลัวในจิตใจที่คิดร้าย น้ำตาของนกฟีนิกซ์มีพลังในการรักษาบาดแผลได้
นกฟีนิกซ์นี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นอมตะ มีชีวิตยั่งยืนนิรันดร์ เพราะมันสามารถฟื้นคืนชีพได้ เมื่อร่างกายสิ้นอายุขัย (500 ปีหรือ 1461 ปี) ตัวจะลุกเป็นไฟ จากนั้นฟีนิกซ์ก็จะฟื้นจากกองขี้เถ้ามาเป็นลูกนกใหม่
ตำนาน แห่งฟีนิกซ์ยังปรากฏอยู่ในอารยธรรมโบราณไม่น้อย กล่าวกันว่า นกฟีนิกซ์นั้นเป็นนกที่สวยงามที่สุด มีขนาดใกล้เคียงกับนกอินทรี บ้างก็ว่าเป็นเครือญาติของหงส์และนกยูง มีสีแดงเข้มคล้ายสีเพลิง และมีแผงคอสีทอง หรือผสมด้วยสีแดงและสีน้ำเงิน บ้างก็ว่ามีสีม่วง หรือ 5 สีตามความเชื่อของจีน ที่เป็นเช่นนี้ว่าอาจจะมาจากเหตุผลที่ฟีนิกซ์เป็นนกที่มีอายุยืนยาวถึง 500 ปี และสีแต่ละสีอาจจะเป็นการผลัดขนหลายครั้งในตลอดช่วงชีวิตของมันก็เป็นได้
ว่ากันว่าเรื่องราวเริ่มแรกของนกฟีนิกซ์มาจากวรรณกรรมกรีกโบราณที่ชื่อว่า Account of Egypt ของกวีเฮโรโดตัส ประมาณ 430 ปี ก่อนคริสตกาล ตามตำนานกล่าวว่า นกฟีนิกซ์มีอายุ 500 ปี เมื่อถึงเวลาที่ใกล้จะหมดอายุขัย นกฟีนิกซ์จะล่วงรู้ถึงชะตากรรม มันจะสร้างรังจากไม้เครื่องเทศที่มีกลิ่นหอม แล้วนั่งคอยที่กองฟืนไม้หอมและร้องเพลงอย่างสำราญใจ เมื่อแสงอาทิตย์แรกสาดส่อง นกฟีนิกซ์จะแผดเผาตนเองกลายเป็นเถ้าถ่าน จากเถ้าถ่านนั้นนกฟีนิกซ์หนุ่มตัวใหม่จะกำเนิดขึ้น
ภารกิจแรกที่ฟีนิกซ์หนุ่มต้องกระทำก็คือ การรวบรวมเถ้าถ่านของพ่อแม่แล้วนำไปฝังที่วิหารเฮลิโอโปลิส หรือนครแห่งตะวันในอียิปต์ จากนั้นก็จะบินกลับมาที่อาระเบียและใช้ชีวิตอยู่จนกว่าจะเปลี่ยนร่างอีก ครั้ง
จุดกำเนิดตำนานเกี่ยวกับนกฟีนิกซ์นี้ อาจมาจากหนังสือแห่งเวทมนตร์เล่มหนึ่งที่ชื่อว่า Book of Dead ซึ่งกล่าวถึงนกยักษ์ลักษณะคล้ายนกฟีนิกซ์ นกยักษ์ตัวนี้เป็นต้นแบบของวิญญาณอิสระที่ลุกขึ้นมาจากกองเพลิง และบินไปยังเฮลิโอโปลิสเพื่อประกาศยุคใหม่ เพราะว่าดวงอาทิตย์ได้สาดแสงไล่หลังนกที่บินจากตะวันออกไปยังตะวันตก นกจึงปรากฏตัวพร้อมกับเช้าวันใหม่จนกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งไฟและดวงอาทิตย์ ไปในที่สุด
การที่นกฟีนิกซ์สามารถเกิดใหม่ได้จากเถ้าถ่านของตัวเอง จึงกลายเป็นตัวแทนของการฟื้นคืนจากความตาย ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้แก่กวีและนักเขียนหลายต่อหลายท่าน จนเรื่องราวแห่งนกฟีนิกซ์แทรกซึมเข้าไปอยู่ในวรรณกรรมยุโรปหลายต่อหลาย เรื่อง
ยังมีเรื่องเล่าของฟีนิกซ์ที่ค่อนข้างจะสอดคล้องกันที่ว่า ในอดีตกาล เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ หรือที่รู้จักกันคือ เทพอพอลโล ได้เห็นความงดงามของฟีนิกซ์ จึงได้ขอให้มาเป็นนกข้างกายพระองค์ พร้อมกับให้พรวิเศษคือ “ชีวิตอมตะ” แก่นกฟีนิกซ์เป็นการตอบแทน
พอได้พรวิเศษ เจ้านกฟีนิกซ์ก็สุดแสนจะดีใจ มันค้อมศีรษะเพื่อแสดงความคารวะ ในขณะที่เริ่มเปล่งเสียงร้องขับขานบทเพลงสรรเสริญ “สุริยเทพผู้รุ่งโรจน์ สุริยเทพผู้สง่างาม ข้าจะเป็นประหนึ่งผู้ขับขานบทเพลงเพียงเพื่อท่านและเป็นนกฟีนิกซ์แห่ง สุริยเทพแต่เพียงผู้เดียว ชั่วนิรันดร์” และทุกวันจะบินไปยังทางตะวันออกเพื่อคอยร้องเพลงขับกล่อมเทพเจ้าแห่งดวง อาทิตย์ในช่วงเช้าตรู่
ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป 500 ปี เจ้านกฟีนิกซ์ก็เริ่มแก่ตัวลง ไม่มีแรงที่จะร้องเพลงขับกล่อมเทพเจ้าได้เช่นเดิม นกฟีนิกซ์จึงได้ร้องขอเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ ช่วยทำให้ตัวเองกลับมาเป็นหนุ่มและแข็งแรงอีกครั้ง แต่เหมือนคำขอดังกล่าวจะไม่ได้รับการตอบรับใดๆ ดังนั้น เจ้านกฟีนิกซ์จึงตัดสินใจบินกลับรังของตัวเอง และระหว่างทางได้พบบรรดาไม้หอมนานาชนิดจึงเก็บไปด้วย เพื่อนำมาสร้างรังบนยอดต้นปาล์ม หลังจากนั้นก็ร้องขอให้เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ประทานความหนุ่มและความแข็ง แรงให้อีกครั้ง
ไม่นานท้องฟ้าก็ปั่นป่วนและเกิดฟ้าผ่าลงบนรังของเจ้าฟีนิกซ์ ส่งผลให้รังและเจ้านกฟีนิกซ์ถูกเผาจนเหลือแต่เถ้าถ่าน และกลายมาเป็นนกฟีนิกซ์หนุ่มตัวใหม่ พร้อมกับเริ่มทำหน้าที่ขับกล่อมเสียงเพลงให้แก่เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ได้ อีกครั้ง และทุกๆ 500 ปีล่วงผ่านไป นกใหญ่แห่งสุริยะตัวนี้ก็จะบินกลับมายังที่เดิม เพื่อให้สุริยเทพเผาตัวเองเพื่อการกลับมาสู่นกตัวใหม่ที่แข็งแกร่งอีกครั้ง
ในตำนานกรีกยังเล่าขานอีกว่า นกฟีนิกซ์จะอาศัยอยู่ในแถบอาระเบีย โดยจะอาศัยอยู่ในบริเวณแหล่งน้ำที่มีอากาศเย็น ทุกๆ เช้าที่ตะวันเริ่มสาดแสง เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์จะต้องหยุดรถม้าเพื่อฟังเสียงร้องอันแสนไพเราะของนก ฟีนิกซ์ยามที่มันเล่นน้ำทุกวัน
อาหารโปรดของเจ้านกชนิดนี้ก็สุดแสนจะศิวิไลซ์ นกฟีนิกซ์ชอบกินสายลมอ่อนๆ น้ำอมฤต น้ำค้าง หรือหมอกบริสุทธิ์ที่ลอยขึ้นมาจากแม่น้ำและทะเล
ยังมีการพูดถึงคุณลักษณะพิเศษของเจ้าฟีนิกซ์เอาไว้อีกว่า ฟีนิกซ์เป็นสัตว์ที่มีนิสัยอ่อนโยน สามารถหายตัวและปรากฏตัวใหม่ตามใจนึกเช่นเดียวกับตัวดิริคอว์ล เพลงของนกฟีนิกซ์มีเวทมนตร์ สามารถกระตุ้นความกล้าหาญแห่งจิตใจที่บริสุทธิ์ และทำให้เกิดความกลัวในจิตใจที่คิดร้าย และน้ำตาของนกฟีนิกซ์ก็เป็นดังโอสถทิพย์แห่งสวรรค์ที่มีพลังในการรักษาบาด แผลและชุบชีวิตได้ แต่ถึงกระนั้นเจ้านกฟีนิกซ์ก็ยากจะหลั่งน้ำตาให้ใคร ยกเว้นเสียแต่ว่าคนผู้นั้นจะมีคุณงามความดีมากพอที่จะกลับมามีชีวิตใหม่อีก ครั้ง
จากวงจรชีวิตทั้งหมดทั้งมวลของเจ้านกฟีนิกซ์นี้เอง ที่ทำให้ในตำนานของกรีกและโรมันเชื่อว่า นกฟีนิกซ์เป็นสัญลักษณ์ของการมีชีวิตเป็นอมตะ การฟื้นคืนชีพ และเกี่ยวข้องกับเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ หรือแม้กระทั่งในช่วงต้นของคริสต์ศาสนาก็ได้มีการนำเอารูปนกฟีนิกซ์มาสลัก เป็นลวดลายบนหินปิดหลุมฝังศพ ซึ่งหมายถึงผู้ที่จากไปจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งนั่นเอง
เรื่องราวความเป็นอมตะของเจ้านกฟีนิกซ์ ยังปรากฏอยู่ในการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องดัง “ฮิโนโทริ วิหคเพลิง” ผลงานของ เท็ตซึกะ โอซามุ การ์ตูนที่แฝงไว้ด้วยปรัชญาแห่งชีวิตที่ได้รับคำชื่นชมมากที่สุด เรียกว่าเป็นมังงะที่ยิ่งใหญ่เล่มหนึ่งที่นักอ่านไม่ว่ารุ่นใหม่หรือรุ่น เก่าไม่ควรพลาด เนื้อหาเป็นเรื่องเกี่ยวกับคำร่ำลือที่ว่าผู้ใดที่ได้ดื่มเลือดของฮิโนโทริ หรือวิหคเพลิงจะมีชีวิตที่เป็นอมตะ และด้วยความกระหายของมนุษย์นี่เอง นำมาซึ่งสงครามล้างแผ่นดิน
เนื้อเรื่องนอกจากจะกล่าวถึงการเกิดและตายของนกฟีนิกซ์ เฉกเช่นเดียวกับในตำนานฝั่งตะวันตกแล้ว ยังแฝงไว้ด้วยปรัชญาแห่งชีวิตมากมาย ดั่งตัวอย่างตอนหนึ่งที่ นาคี ลูกบุญธรรมของแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ถามนกฟีนิกซ์ว่า “ทำไมเจ้าถึงไม่ตาย ขณะที่พวกเรามนุษย์ต้องตายทุกคน ทำไมถึงอยุติธรรมแบบนั้น” “อยุติธรรมเหรอ? พวกเธอต้องการอะไร อำนาจที่จะไม่ตาย หรือความสุขในการมีชีวิต” วิหคเพลิงพูด “ฉันไม่รู้หรอก แต่เจ้าก็มีความสุขไม่ใช่เหรอที่ไม่ตาย” นาคีว่า “นาคี ดูที่เท้าเธอสิ มีแมลงอยู่ พวกมันมีชีวิตยืนยาวแค่ครึ่งปี แมงเม่ายิ่งสั้นใหญ่ พวกมันมีอายุแค่ 3 วันเท่านั้น มนุษย์มีชีวิตยืนยาวกว่าแมลง ปลา หมา แมว หรือลิง ตลอดช่วงชีวิตถ้าได้พบความยินดีในการมีชีวิต นั่นคือความสุขที่แท้จริงมิใช่หรือ?” วิหคเพลิงกล่าวย้ำ
แม้ “ฟีนิกซ์” จะเป็นเพียงนกในตำนาน แต่ก็คงเป็นตำนานอันยิ่งใหญ่ที่ให้เล่าขานกันไปอีกนาน โดยเฉพาะการเสียสละได้แม้กระทั่งชีวิตของตนเองเพื่อให้ชีวิตใหม่ได้ดำเนิน ต่อไป
แสดงความคิดเห็น