[Trans] บทสัมภาษณ์ Daesung ในนิตยสาร 10Asia 

การใช้ชีวิตในฐานะที่เป็น BIGBANG มันจะเป็นอย่างไรนะ พวกเขาได้รับความสำเร็จมากอย่างไม่น่าเชื่อ ใช้ชีวิตโดยแบ่ง 24 ชั่วโมงของวันอย่างมีประโยชน์ และพวกเขาก็ถูกเพ่งเล็งโดยคนอื่นๆ ตลอดเวลา  BIGBANG ก็เหมือนกับเรือลำใหญ่ในกระแส K-Pop แต่เป้าหมายที่พวกเขาต้องไปถึงคือทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาลที่พร้อมจะกลืนกินพวกเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าพวกเขาจะมีความแข็งแกร่งในด้านนี้เพียงใด คุณจะไม่มีวันรู้เลยว่าพายุจะกระหน่ำซัดพวกเขาได้เมื่อไร

ระหว่างการสัมภาษณ์กับ 10Asia หนุ่มๆ ได้พูดถึงความสุขและความรู้สึกภายในมากกว่าจะพูดถึงความโด่งดังและมุมมองที่คนอื่นมีต่อพวกเขา เมื่อทุกคนบอกพวกเขาว่าพวกเขาอยู่ในจุดสูงสุดของงานสายนี้แล้ว สมาชิกบางคนได้ก้าวผ่านมรสุมชีวิตอันหนักหน่วง และบางคนก็ได้ค้นหาทางออกของตัวเองต่อปัญหาต่างๆ เหล่านั้น ในช่วงที่กำลังวุ่นวายกันอยู่นั้น  Daesung เหยียดนิ้วขึ้นไปบนฟ้าพร้อมๆ กับร้องว่า “Fantastic Baby” ไม่มีใครสามารถเดาได้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในเวลานั้น แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนที่สุดคือ เขากำลังอยู่บนเวทีและทำให้เกิดไฮไลท์ของเพลง เขายังไปต่ออย่างสงบโดยไม่หยุด แล้วพูดถึงสิ่งที่ทำให้เขาก้าวขึ้นบนเวทีและร้องเพลงต่อหน้าผู้ชมจำนวนมาก


“เป้าหมายของผมคือ การเป็นนักร้องที่ส่งความสุขให้กับผู้อื่นได้ครับ"

การสิ้นสุดการโปรโมตในครั้งนี้น่าจะมีความหมายสำหรับคุณมากกว่าสมาชิกคนอื่นๆ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง

Daesung  : มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาครับ และก็จริงที่ผมเจอเหตุการณ์ที่รุนแรงมากด้วย ผมยังสงสัยว่าผมจะกลับมาทำกิจกรรมอีกครั้งในช่วงนี้ได้หรือไม่ แต่เมื่อเทียบกับเวลาและพลังที่สูญเสียไปกับความกังวล ผมกลับได้รับความรักอย่างมากจากทีมครับ เมื่อมองย้อนกลับไปเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ก็เป็นโอกาสให้เราได้สร้างความผูกพันอันเหนียวแน่นและยืนอยู่ด้วยกันในวันนี้ครับ ดังนั้นผมจึงอยากบอกว่าช่วงการโปรโมตอัลบัมนี้เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิตการเป็นนักร้องของผม

10Asia : เพลง BLUE ให้ความรู้สึกของน้ำแข็งที่กำลังละลาย จากสถานการณ์ที่คุณได้ผ่านมาคุณคงเกิดความคิดหลายอย่างขึ้นในใจเมื่อร้องเพลงนี้

Daesung  : เมื่อผมอยู่บนเวทีผมจะไม่เชื่อมโยงความรู้สึกขณะนั้นกับประสบการณ์หรือความรู้สึกส่วนตัวครับ ผมจะแค่ทำตามหน้าที่ในฐานะของนักร้องคนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นผมก็จะพยายามส่งความรู้สึกโดดเดี่ยวและอ้างว้างที่สะท้อนจากเพลง BLUE มากกว่าจะแสดงความรู้สึกส่วนตัวของผม แต่แน่นอนครับที่ผมอาจจะคิดถึงประสบการณ์ตรงของตัวเองบ้าง เพราะผมเพิ่งจะผ่านทั้งความเหงาและอะไรหลายๆ มา

10Asia : นั่นหมายความว่าขณะนี้คุณสามารถจะโฟกัสเพียงแค่การร้องเพลงเท่านั้นเมื่อคุณอยู่บนเวที คูณดูเข้าถึงมากตอนที่คุณชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้า และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ชมสนใจได้จริงๆ

Daesung  : อืม.. ผมคงบอกไม่ได้ว่าผมเจ๋งและใจเย็นในทุกเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ผมพยายามอย่างมากที่จะซื่อตรงต่อความรู้สึกเมื่ออยู่บนเวที และรับรู้ถึงความรู้สึกตื่นเต้นภายใต้กำแพงที่กั้นอารมณ์ของผมไว้ภายใน 

10Asia : ถ้างั้นนั่นก็คือวิธีการส่วนตัวอีกอย่างหนึ่งที่คุณใช้ในการทำความรู้สึกสำหรับการแสดงบนเวทีเท่านั้น มันคงไม่ง่ายเลยที่จะทำแบบนั้นได้ตั้งแต่ช่วงที่คุณเริ่มต้นเป็นนักร้องใหม่ๆ

Daesung  : ตอนที่ผมขึ้นเวทีในคอนเสิร์ต YG Entertainment's 15th anniversary ก่อนจะโปรโมตอัลบัม Alive นี้ ผมกังวลมากๆ เลยครับ ผมกลัวไปทุกอย่างถึงขนาดที่ผมบอกกับสมาชิกคนอื่นในวงว่าผมไม่สามารถมองเข้าไปในตาของแฟนๆ ได้ผมรู้สึกละอายในตัวเองและอยากกล่าวคำขอโทษแก่ทุกๆ คนที่มาดูผม แต่เมื่อยืนอยู่บนเวทีและได้ยินผู้ชมตะโกนเชียร์พวกเรา ผมจึงคิดได้ว่าผมไม่ควรหลบสายตาผู้ชมแบบนั้น ผมไม่ควรหลบเลี่ยงแฟนๆ ที่ไปที่นั่นเพื่อชมการแสดงของพวกเรา ผมจึงเกิดความมั่นใจในการปรากฏตัวบนเวทีขึ้นมาอีกครั้งในวันนั้น เมื่อเวลาผ่านไป ผมก็ยังคงกังวลว่าอาจมีบางคนที่ไม่ยอมรับการกลับมาของผม แต่ผมก็ยังคงพยายามโฟกัสที่ความรู้สึกของผมให้มากขึ้น 

10Asia : เหมือนนั่นจะเป็นวิธีการที่คุณใช้สร้างความสมดุลระหว่างสายตาที่คนอื่นมองคุณและความรู้สึกที่แท้จริงของคุณใช่ไหม พูดถึงเรื่องนี้ คุณคงมีเหตุผลที่ดีกว่าที่จะผูกพันกับ 'WINGS' เพลงที่สดใสเพลงหนึ่งในอัลบัมนี้ มากกว่าแค่เพราะมันเป็นเพลงโซโล่ของคุณ

Daesung  : G-Dragon อวยพรผมมากในช่วงการทำอัลบัม ดนตรีในเพลงโซโล่ของผมในอดีตช้าและเศร้าหมองกว่าซึ่งผมไม่อยากให้มันเป็นเช่นนั้นในครั้งนี้ เหตุการณ์ที่้กิดขึ้นกับผมก็เป็นส่วนหนึ่งแต่ผมว่าผู้ฟังคงเชื่อมโยงอารมณ์ของเพลงเข้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น การสร้างแรงบันดาลใจและความหวังผ่านทางเสียงเพลง เป็นความฝันของผมในฐานะนักร้องตั้งแต่เริ่มเดบิวต์กับ BIGBANG  และเพราะมันคือความฝันคุณจึงต้องทำตามมันตลอดเวลา มันไม่มีทางที่จะจบลงได้ และผมก็ได้คุยกับ G-Dragon ถึงความต้องการของผมที่อยากจะทำฝันนั้นให้เป็นจริงด้วยการร้องเพลง 'WINGS' แม้ว่าไม่นานมานี้ผมจะผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย แต่ผมก็มั่นใจว่าผมสามารถทำความคิดเหล่านั้นให้เป็นจริงได้ หากผมมีโอกาสสร้างพลังและความมั่นใจให้กลับมาในเพลงของผมอีกครั้ง ดังนั้นผมจึงพยายามทำให้ดีที่สุดในการสื่อผ่านเสียงร้องที่มีพลังและเนื้อเพลงอันแข็งแกร่งครับ


"เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นความสวยงามของการแสดงบนเวที"

10Asia : นั่นเป็นสาเหตุที่เสียงของคุณหนักแน่นมากกว่าเพลงที่ผ่านๆ มาหรือไม่

Daesung  : ผมค่อนข้างตื่นกลัวก่อนการขึ้นเวที หลังการเดบิวต์ไม่นานผมขึ้นเสียงสูงไม่ถึงโน้ตบนเวที 8 ครั้งจาก 10 ครั้ง ย้อนกลับไปช่วงนั้นเอเจนซี่ของเราโปรโมตด้วยการบอกว่าเราแตกต่างจากไอดอลวงอื่นๆ ที่ให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตาของพวกเขาเท่านั้น ผมรู้สึกเหมือนผมเป็นคนทำให้ทุกอย่างพังและทำให้บริษัทเสียหาย ผมเกิดอาการตื่นกลัวเวทีตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา แต่ระหว่างการโปรโมตอัลบัมนี้ ผมมีความสุขมากขึ้นและเกิดความรู้สึกปลื้มปิติมากกว่าความตื่นกลัว ตอนนี้ผมเตรียมการแสดงโดยไม่มีความกังวลใจและมั่นใจที่จะขึ้นเสียงสูงได้มากขึ้น

10Asia : ตอนที่ร้องเพลง "No Fun" คุณรู้สึกอย่างไร เรานึกภาพไม่ออกเลยว่าจะมีนักร้องคนไหนร้องเพลงนั้นโดยไม่มีความมั่นใจ

Daesung  : มันไม่มีกฎตายตัวสำหรับเพลงนี้ ดังนั้นมันจึงดีกว่าที่จะให้ศิลปินแต่ละคนเลือกเสียงร้องในแบบของตัวเอง ที่จริงแล้วเราเซ็ทแค่การเต้นในตอนคอรัสเท่านั้น ดังนั้นเราจึงรวมความเห็นของทุกคนเข้าไปในธีมหลักของเพลง ซึ่งถ้าคุณสังเกตมันจริงๆ จะเห็นว่ามันค่อนข้างจะสับสนนะครับ (หัวเราะ) เหนือสิ่งอื่นใด มันสนุกกว่าที่จะดูการแสดงที่ฟรีสไตล์

10Asia : นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ BIGBANG น่าสนใจมากขึ้นใช่ไหม

Daesung  : สมาชิก BIGBANG ทุกคนมีบุคลิกภาพเฉพาะตัวครับ ดังนั้นการตีความแต่ละเพลงของเราจึงแตกต่างกันออกไป ซึ่งนั่นทำให้การทำงานสนุกขึ้นนะครับ หากศิลปินสนุกกับการแสดงของตัวเองบนเวทีผู้ชมก็จะสนุกไปกับการแสดงของพวกเขา สำหรับเรา การทำอะไรที่ฟรีสไตล์เหมาะกับเรามากกว่าครับ แต่จริงๆ นะครับ เราคิดการเต้นแบบกลุ่ม ทุกครั้งที่จะเปิดอัลบัมใหม่ (หัวเราะ) และเราก็คิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะแสดงให้เห็นการเต้นเป็นกลุ่มของเรา แต่ในช่วงทำอัลบัมเราก็จบลงที่การคิดท่าเต้นที่้ป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน 'เหมือนเดิม' แต่ผมก็ดีใจนะครับ ที่ผู้ชมชอบที่เราเป็นธรรมชาติมากกว่า 

ดูเหมือนว่าสิ่งที่พวกคุณได้รับจากอัลบัมนี้คือการได้รับความรู้สึกที่สวยงามของการแสดงบนเวทีอีกครั้ง

Daesung  : ที่จริงนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้พบกับความงดงามของการแสดงบนเวที ผมเคยกลัวการขึ้นเวทีมาก่อน ความจริงที่ว่า มีผู้ชมจำนวนมากดูผมในทีวีและผมต้องทำให้ดีที่สุด ทำให้ผมเกร็ง และผมเกรงว่าความรู้สึกนี้จะยังอยู่กับผมต่อไปตราบใดที่ผมยังทำงานในสายนี้

10Asia : คุณอาจจะเป็นคนที่มีความกดดันมากที่สุดในอัลบัมนี้ จากการได้รู้ว่าผู้ชมกำลังมองมาที่คุณ

Daesung  : ผมคิดหนักเลยว่าผมจะทำอะไรดีถ้าผมไม่สามารถกลับมาเป็นนักร้องได้อีกครั้ง และคุณรู้มั้ย มันไม่มีอะไรเลย ผมไม่ได้เรียนหนักกว่าคนอื่น และผมก็เล่นกี่ฬาไม่เก่งด้วย นั่นคือสาเหตุที่ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมาทำงานในสายนี้อีกครั้งและลืมเรื่องอื่นๆ ทั้งหมด

10Asia : มันแตกต่างกันไหมเมื่อทำการแสดงในต่างประเทศ

Daesung  : ครับ ผมต้องล้างความคิดตัวเองก่อนขึ้นเวที บอกตัวเองว่าไม่มีใครที่นี่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมเป็นคนคิดอะไรง่ายๆ ดังนั้นการคิดแบบนั้นช่วยผมได้ครับ 


" การเป็นสื่อกลางของวงเป็นสิ่งที่ดี"

10Asia : พวกคุณได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ ต่างชาติและนักวิจารณ์ คุณรู้สึกว่าความนิยมของ BIGBANG ขยายไปสู่ประเทศอื่นๆ บ้างไหม

Daesung  : อืม.. ผลสะท้อนเหล่านั้นไม่ค่อยส่งผลต่อความคิดของผมเท่าไหร่ (ในเรื่องของเป้าหมายที่จะพยายามให้หนักขึ้น) คำตอบของผมอาจเป็นคำตอบเดิมๆ ที่น่าเบื่อ แต่ไม่นับคนที่ฟังเพลงของเรา ผลงานของเราเยี่ยมที่สุดครับ การแสดงของเราอาจแตกต่างกันไป ขึ้นกับประเทศและสิ่งแวดล้อมที่แสดง แต่เสียงของเราจะยังคงเดิมไมเปลี่ยนแปลง เราแค่มีความสุขกับการแสดงสิ่งที่เรามี และได้เห็นว่าแฟนๆ ต่างประเทศสนุกกับเพลงของ BIGBANG มากแค่ไหน การจัดเวิร์ลทัวร์ในปีนี้เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับเราในทุกๆ ด้าน ทั้งในเรื่องของการแสดงโดยวงดนตรีสดและอื่นๆ อีกหลายเรื่อง นอกจากการได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ชมแล้ว เรายังมีการโปรโมตในต่างประเทศอย่างยิ่งใหญ่ด้วย เมื่อคิดถึงการแสดงของเราผมก็รอไม่ไหวที่จะท่องเที่ยวไปยังประเทศต่างๆ และยืนอยู่ต่อหน้าผู้ชมมากมาย

10Asia : การที่คุณเลือกใช้คำว่า 'ท่องเที่ยว' มันน่าสนใจทีเดียว ทำให้เราเกิดความรู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิตของคุณที่จะให้ความสำคัญกับความสุขมากกว่าความสำเร็จ

Daesung  : ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความรัก ก็เป็นสิ่งดีที่ใครก็ตามที่มีจะแบ่งปันมันกับผู้อื่น ผมเคยอ่านหนังสือเจอว่าคุณต้องรักตัวเองก่อนที่จะรักคนอื่น ผมไม่ใช่คนแบบนั้นแต่ผมจะเป็นคนที่ดึงตัวเองให้ต่ำลง ผมเอาแต่ผลักดันตัวเองและในที่สุดความมั่นใจของผมก็หายไป ตอนนี้ผมกำลังเริ่มต้นเรียนรู้เกี่ยวกับความรักและความสุขทีละเล็กทีละน้อย

10 Asia : ในอัลบัมนี้ คุณเริ่มต้นรักตัวเองหรือยัง

Daesung  : ผมคงบอกไม่ได้ว่า 'รัก' แต่นี่เป็นโอกาสของผมที่จะมองตัวเองได้มากขึ้น ผมเรียกความมั่นใจกลับมาได้พอสมควรเลยทีเดียวครับ

10Asia : คนที่เคยเห็นคุณออกรายการวาไรตี้คิดว่าคุณเป็นคนที่สดใสและมองโลกในแง่ดี เราแปลกใจมากที่รู้ว่าความรู้สึกเจ็บปวดนั้นเกาะอยู่กับคุณเป็นเวลานานขนาดนี้

Daesung  : นอกจากอาการตื่นเวทีที่ผมเป็นตั้งแต่เดบิวต์ใหม่ๆ แล้ว ตอนผมเป็นเด็กพ่อแม่มักจะบอกให้ผมนอบน้อมถ่อมตนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อกล้องไม่ได้เปิดอยู่ผมจึงมีความรู้สึกกลัวๆ อยู่เสมอครับ การได้ยินอยู่เรื่อยๆ ว่าอย่าโอ้อวดตัวเองนั้น ทำให้ผมไม่เคยลำพองใจเมื่อได้รับคำชมเชยจากคุณครูที่โรงเรียนครับ

10Asia : มันไม่ยากสำหรับคนแบบคุณหรือ ที่จะเข้ากับสมาชิกคนอื่นๆ ของ BIGBANG ซึ่งมีความมั่นใจในตัวเองสูง

Daesung  : ผมต้องใช้เวลาปรับตัวเข้ากับนิสัยของพวกเขาพอสมควรครับ โดยเฉพาะ Seungri (หัวเราะ) เพราะเขามีความมั่นใจในตัวเองถึง 100% เต็ม ซึ่งตรงข้ามกับผมอย่างสิ้นเชิง ผมว่านั่นอาจเป็นสาเหตุให้ใครๆ ต่างก็บอกกับผมว่าเราดูไม่เขินกันเลยเมื่ออยู่ในทีวี ผมและ Seungri เป็นเหมือนพี่น้อง และเราก็เรียนรู้หลายๆ อย่างจากกันมากทีเดียว ผมตระหนักว่าผมได้เรียนรู้ด้านดีที่ Seungri มีอย่างมาก ผมรู้วิธีจะสร้างสมดุลระหว่างเราอย่างช้าๆ และถ้าไม่มีเขาผมคงไม่สามารถจะกลับมาสู่เส้นทางสายดนตรีได้อีกครั้ง

10Asia : ไม่ใช่เพียงทัศนคติของคุณเท่านั้น แต่บุคลิกของคุณในภาพรวมก็เปลี่ยนไปด้วย คุณคิดว่าคุณเมื่อปี 2006 และคุณในปัจจุบันนี้แตกต่างกันมากขนาดไหน

Daesung  : เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ผมเหมือนเด็กที่มืดมน ผมเรียนรู้วิธีการเต้นเป็นครั้งแรกหลังจากเข้ามาใน YG Entertainment และผมก็ลำบากกับการไล่ตามคนอื่นให้ทันอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ผมยังไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย ถึงแม้ในเวลานี้เมื่อผมอยู่กับคนอื่นๆ ผมก็ยังคงรู้สึกสูญเสียความเป็นตัวเองอยู่ คุณอาจพูดได้ว่าผมไม่แสดงความคิดเห็นของตัวเองหรือถูกคนอื่นชักจูงได้ง่ายแต่ผมก็ชอบตัวผมเองที่เป็นแบบนี้ สมาชิกคนอื่นๆ มีความมั่นใจในตัวเองสูงและมันก็ดีที่ผมจะเป็นตัวกลางเชื่อมประสานระหว่างแต่ละคนภายในวง ผมมีอะไรที่จะต้องทำหลายต่อหลายอย่าง ผมรู้ว่าพวกเขารู้ว่าพวกเขามีความหมายต่อผมมากขนาดไหน แม้ว่าผมจะไม่ได้บอกออกมาเป็นคำพูดก็ตาม

10Asia :  BIGBANG มีความหมายอย่างไรต่อคุณ

Daesung  : เราก็แค่.... เข้ากันได้และผูกพันกันดีครับ ก็เหมือนกับกลุ่มผู้ชาย 5 คนที่ชอบการทำเพลงจริงๆ ตอนนี้ผมรู้สึกว่าสมาชิกทุกคนสนิทกับผมมากกว่าเพื่อนสมัยเด็กๆ ของผมอีก ผมรู้สึกดีมากที่ผมได้รู้จักกับพวกเขาและยังสงสัยอยู่ว่าจะมีทีมไหนไหมที่มีเป้าหมายร่วมกันได้มากกว่า 7 ปีเหมือนพวกเรา

Reporter : Yoon Hee-Seong.
Editor in Chief : Kang Myeong-Seok.
Photographer : Chae ki-won.
Editor : Monica Suk.
Editor : Jang Kyung-Jin.

________________________
กรุณานำเครดิตออกไปทั้งหมด และไม่เพิ่มชื่อตัวเองหรืออื่นใดเข้าไปในเครดิต
Source : 10Asiae
แปลไทยโดย : AE @ FBBBTH



ข่าวเกาหลี by www.VelawanG.com
หากนำข่าวไปเผยแพร่ กรุณาให้เครดิตเว็บไซต์ด้วยค่ะ ^^

แสดงความคิดเห็น

 
Top