การทำ SEO ในยุคปัจจุบันนี้นอกจากจะแข่งขันกันในเรื่องเนื้อหาแล้วยังแข่งขันกันในเรื่องของการสร้าง Backlink ยิ่งถ้าเราได้ Backlink จากเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาในเรื่องเดียวกัน หรือจากเว็บไซต์ที่มีคะแนน Page Rank สูง ๆ คุณภาพบล็อกของเราก็จะเพิ่มขึ้น อันดับการค้นหาก็ดีขึ้นตามไปด้วย
การจะได้มาซึ่ง Backlink ที่ทำได้โดยไม่ต้องเสียเงิน ก็คือการ Submit กับ Pligg ,Social Bookmark ,Directiry ,Comment ไซต์ หรือการ โพส/ตอบกระทู้ในเว็บบอร์ดหรือ Forum ที่เกี่ยวข้องกับบล็อกของคุณ เป็นต้น แต่ทุกอย่างก็จะต้องใช้ความอดทน และใช้เวลากว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ และบ่อยครั้งที่ผลลัพธ์ก็ไม่คุ้มกับแรงงานและเวลาที่เราใช้ไป
บทความนี้ผมจึงขอนำเสนอวิธีสร้าง Backlink ที่ทรงพลังที่คุณสามารถกำหนดเองได้ควบคุมได้ และให้ผลลัพธ์จากการทำที่ชัดเจนกว่าการสร้าง Backlink ตามปกติ Backlink ชนิดนี้เรียกว่า Link Wheel
ผมไม่ใช่คนแรกที่พูดถึง Link Wheel แต่ผมคิดว่าผมเป็นคนแรกที่นำเสนอการสร้าง Link Wheel ในภาคปฏิบัติ จากการทดลองทำ Link Wheel ด้วยตัวเองมาประมาณ 2 สัปดาห์ พบว่าบาง keyword ที่ผมเคยอยู่หน้า 2-3 ของ Google ก็ขึ้นมาอยู่หน้า 1 ในหลาย ๆ keyword ด้วยการทำ LinkWheel อย่าง่าย
การนำเสนอการสร้าง LinkWheel ของผมจะมุ่งเน้นไปที่การทำ LinkWheel สำหรับ Blogger สำหรับท่านที่ทำกับบล็อกชนิดอื่น ๆ หรือจะนำไปใช้กับเว็บไซต์ก็สามารถใช้แนวคิดที่นำเสนอในบทความนี้ได้เช่นกัน และวิธีการทำ LinkWheel กับบล็อกหรือเว็บไซต์อื่น ๆ ก็คล้ายคลึงกันกับที่ผมจะนำเสนอในบทความนี้
LinkWheel ภาคทฤษฎี
รู้จัก Web 2.0 หรือยัง?
เอาแบบสั้น ๆ ง่าย ๆ ครับ web 2.0 คือเว็บที่มีการโต้ตอบกันระหว่างผู้ให้บริการและผู้รับบริการได้โดยไม่ต้องเข้าถึง server หรือมี Admin คอยควบคุม ตัวอย่างเช่น เว็บบล็อก ได้แก่ blogger, wordpress,Squidoo,Live.space,exteen blog,bloggang ,บล็อกของผมนี่ก็ใช่, เว็บรับฝากรูป รับฝากไฟล์นี่ก็ใช่ ,เว็บ Pligg ,Soicial Bookmark , Soicial network จำพวก facebook ,Myspace เป็นต้น
รู้จัก Class C หรือยัง?
Class C ที่จะพูดถึงในที่นี้เป็น Class C ในเรื่อง SEO ซึ่งมีความหมายต่างจาก Class C ในเรื่อง IP Adress ซึ่งบังเอิญเขียนเหมือนกัน โดยความหมายของ Class C ในที่นี้คือ Class C Blocks หรือ กลุ่ม IP ที่อยู่ใน Subnet 255.255.255.0 ( Subnet= Sub Network หรือเครือข่ายย่อย เป็นการจับกลุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน) ซึ่งจะเข้าใจง่ายขึ้นถ้าดูจากชุดของ IP ต่อไปนี้
111.222.333.44
111.222.345.44
111.234.333.4
123.222.333.44
111.222.333.55
จากชุดตัวเลขข้างบน การดู Class C Blocks ให้ดูตัวเลขสีแดง 3 ชุดแรกของแต่ละแถว ซึ่งจะเห็นว่า IP ที่ 1 ถึง 4 ถือว่าเป็น Class C blocks ที่ต่างกันเพราะตัวเลขสีแดง 3 ชุดแรกของแต่ละแถว ไม่ซ้ำกันเลย แต่ จะเห็นอีกว่า IP ที่ 1 และ 5 มี Class C ที่เหมือนกัน
การทำ Link Wheel หรือแม้แต่กระทั่งการทำ Backlink ชนิดอื่นเราจะต้องการ Difference Class C blocks นั่นคือไม่ควรสร้าง Backlink ที่มาจาก IP ของ Host ที่ตนเองได้มา หรืออยู่ในกลุ่ม Class C block เดียวกัน เพราะอาจจะทำให้ถูกเพ่งเลงจาก Serch Engine ว่าเป็นการสร้าง backlink ขึ้นมาเอง และอาจจะถูก de-index ได้
ถ้าคุณอยากทราบว่าHost หรือ เว็บหรือบล็อกที่คุณจะใช้มี Class C ต่างกันหรือไม่ตรวจได้ที่
http://www.seochat.com/seo-tools/class-c-checker
Link Wheel คืออะไร?
Link wheel เป็น Backlink ชนิดหนึ่งที่สร้างโดยใช้การเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่าง web 2.0 ที่มีการเชื่อมโยงถึงกันลักษณะเป็น loop หรือเรียกง่าย ๆ ว่า วง ลองดูรูปด้านล่างให้เข้าใจง่ายขึ้น
จากรูปจะเห็นได้ว่า เราทำให้การเชื่อมโยงของ Web 2.0 ลักษณะเป็นวง และทุกจุด (node) ในวงก็จะส่ง Backlink มายัง เว็บไซต์หรือบล็อกที่เราต้องการ ซึ่งส่วนใหญ่ตรงกลางของวงก็จะเป็นบล็อกทำเงิน หรือเป็นบล็อกที่เราต้องการให้ได้อันดับที่ดีในผลการค้นหา
หลักการของ Link Wheel เป็นอย่างไร?
ผมจะยกตัวอย่างเทียบเคียงให้ลองนึกภาพตามดู และดูภาพข้างบนประกอบไปด้วยจะได้เข้าใจง่าย ๆ
สมมติว่า Bot ของ Google ไปเชียงใหม่ ถามคนเชียงใหม่ว่าก๋วยเตี๋ยวที่ไหนอร่อย ถ้าคนเชียงใหม่ตอบว่า ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา ถ้าไม่เชื่อลองไปถามคนที่สงขลาดูก็ได้ จากนั้น Bot ของ Google ไปสงขลา คนสงขลาก็ตอบเหมือนกันว่า ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา ถ้าไม่เชื่อก็ไปถามคนที่อุบลดูจากนั้น Bot ของ Google ก็ไปอุบล … ไป ชลบุรี …ไปขอนแก่น … และย้อนกลับมาถามคนเชียงใหม่ … ก็ยังพบคำตอบเดียวกันหมด คือ ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา Bot ของ Google จึงเชื่ออย่างสนิทใจว่า ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาอร่อย และทำการจัดอันดับความอร่อยขึ้นไปอยู่ในอันดับต้น ๆ
จากตัวอย่างนี้ก็สรุปได้ว่าหลักการของ Link Wheel คือการทำให้แหล่งอ้างอิงของ backlink เราน่าเชื่อถือที่สุด ควบคุมจำนวน Bot ที่วิ่งเขามายังบล็อกของเราให้มากที่สุด และนานที่สุดด้วย โดยการสร้างสะพานเชื่อมโยงให้ Bot วิ่งเป็นวง (loop) ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ Bot วิ่งวนไปมาหลายรอบ และวิ่งเข้าหา เว็บไซต์หรือบล็อกที่เราต้องการนานขึ้น และมาในปริมาณมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้การทำ Link Wheel เราจะต้องใช้การเชื่อมโยงระหว่าง Web 2.0 ที่มี Class C ต่างกัน เช่น เราจะไม่ใช้ Blogger 10 บล็อกมาสร้างวงเพียงอย่างเดียว เพราะ Blogger แต่ละบล็อกก็ถือว่าอยู่ใน Class C เดียวกัน ควรจะเลือกบล็อกจากหลาย ๆ แหล่งบริการ เช่นใช้ Blogger ,Wordpress, Live.space ,คละ ๆ กันไป เป็นต้น
LinkWheel ภาคปฏิบัติ
เราจะเริ่มลงมือทำ Link Wheel ให้บล็อกของเราจริงๆ กันในขั้นนี้ โดยตัวอย่างที่จะแนะนำในที่นี้คือ การทำ Link Wheel แบบง่าย ซึ่งจะให้ทำเป็นวงเล็ก ๆขั้นที่ 1 สมัครบล็อกฟรีเพื่อนำมาสร้างเป็น Link Wheel
ให้คุณไปสมัครบล็อกฟรีจากรายการด้านล่างนี้ โดยเลือกที่มีขั้นตอนสมัครไม่ยุ่งยากนัก และเอาที่คุณสามารถที่จะใช้งานได้อย่างไม่ยากลำบาก เพราะการทำ Link Wheel จะต้องออกแรงมากในตอนแรก แต่เมื่อเห็นผลแล้วก็นับว่าคุ้มค่ามาก
รายชื่อบล็อกฟรีที่มี Class C ต่างกัน
ภาษาไทย
http://wordpress.com
http://home.spaces.live.com
http://www.blogger.com
http://exteen.com
http://www.oknation.net
http://www.bloggang.com
รายการด้านล่างนี้สำหรับท่านที่ต้องการเขียนเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษได้
http://blog.com
http://blogetery.com
http://blogetery.com/wp-signup.php
http://bloghost.name/wp-signup.php
http://bloglines.co.za/wp-signup.php
http://blogrox.com
http://blogs.bankruptcyhelp.org.uk/wp-signup.php
http://blogs.xanco.com
http://blogster.com
http://bloguni.com/wp-signup.php
http://burfunkle.com/register/
http://clearblogs.com
http://clickdeindia.com/wp-signup.php
http://cognosnetwork.com/net/register
http://dagdigdug.com/wp-signup.php
http://diarybabe.com/register
http://dukeblogmu.com/wp-signup.php
http://eblog.lt/wp-signup.php
http://edublogs.org
http://envendee.com/register
http://forargyll.org/wp-signup.php
http://manyaklari.com/register
http://maxblog.com/wp-signup.php
http://microbloghost.com/register
http://mublogs.org/wp-signup.php
http://multiply.com
http://noiblogger.com/wp-signup.php
http://onblogme.com/register
http://paidtoblog.com/wp-signup.php
http://poetrysocial.com/register
http://publice.net/wp-sign.php
http://pulse.yahoo.com
http://qinqiblog.com/wp-signup.php
http://researchblog.org/wp-signup.php
http://roadoflove.com/register
http://squarespace.com
http://ufem.com
http://weebly.com
http://wloger.com/wp-signup.php
http://www.bigadda.com/signup
http://www.blogabond.com
http://www.blogcheese.com
http://www.blogladder.com
http://www.blogr.com
http://www.blogsome.com
http://www.blogspirit.com/en/index.php
http://www.blogth.com/signup.php
http://www.blogyx.com
http://www.bloki.com
http://www.bravenet.com/webtools/journal
http://www.busythumbs.com
http://www.etribes.com/index_etribes.php
http://www.freevlog.org
http://www.flixya.com
http://www.homeschoolblogger.com
http://www.greatestjournal.com
http://quizilla.teennick.com
http://www.insanejournal.com
http://www.journalfen.net
http://www.livejournal.com
http://www.myblogsite.com
http://www.mytypes.com
http://www.nodblog.com
http://www.netcipia.com
http://www.opendiary.com
http://www.rojo.com
http://www.shoutpost.com
http://www.soulcast.com
http://www.squidoo.com
http://www.sundaycook.com/wp-signup.php
http://www.theblogs.de
http://www.thoughts.com
http://www.terapad.com
http://www.trippert.com
http://www.tumblr.com
http://www.vox.com
http://www.wordcountjournal.com
http://www.xanga.com
http://www.yola.com
http://www.zoomshare.com
http://weblogs.us
http://yovia.com/blogs/wp-signup.php
บล็อกที่แนะนำให้สมัคร
1. Wordpress.com
2. home.spaces.live.com
3. blogger.com
4. www.livejournal.com
บล็อกทั้ง 4 บริการที่แนะนำเพราะว่าสามารถใช้โปแกรม Window Live Writer ช่วยเขียนเนื้อหาได้ มันจะทำให้งานของเราง่ายขึ้นอีกมาก
และโดยส่วนตัวที่ผมคิดว่าสมัครง่ายและใช้งานง่ายได้แก่ (ใช้ Window Live Writer ไม่ได้ )
1. Wordpress.com
2. blog.com (บอทแรงมาก)
3. www.squidoo.com (บอทแรงมาก)
4. blogetery.com
5. sumhua.com
7. oknation.net (บอทแรงมาก)
8. quizilla.teennick.com
9. exteen.com
10. bloggang.com (บอทแรงมาก)
ถ้าคุณมีข้อมูลการทำบล็อกเพิ่มเติมจากนี้ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน และถ้าผมพบว่าบล็อกจากบริการใดสามารถใช้ในการทำ LinkWheel ได้อีกก็จะนำมาเพิ่มเติมให้ที่บทความนี้ในภายหลัง
ขั้นที่ 2 วางแผนวาดวงล้อขึ้นมา
จากขั้นที่ 1 ผมคาดเดาว่าจากการสมัครคงพอทราบแล้วว่า บล็อกฟรีจากบริการใดใช้งานง่าย บล็อก ฟรีจากบริการใดใช้ยาก ดังนั้นในขั้นนี้ให้ตัดสินใจเลือกบล็อกที่จะนำมาทำเป็น Link Wheel และวาดรูปเอาไว้เพื่อดูขณะทำ
ตัวอย่าง
ในตัวอย่างนี้ผมเลือกบล็อกจากบริการต่าง ๆ 5 บล็อกดังนี้ (คุณอาจจะเลือกทำมากกว่านี้ เพราะยิ่งวงใหญ่ยิ่งดี)
1. Wordpress.com
2. home.spaces.live.com
3. www.livejournal.com
4. exteen.com
5. sumhua.com
เมื่อสมัครเสร็จแล้วก็นำบล็อกมาวางเรียงลำดับว่าจะให้บล็อกต่าง ๆ อยู่ลำดับใดในวงของ Link Wheel
แผนภาพ Link Wheel ที่สร้างจากการเลือกในตัวอย่างนี้
ขั้นที่ 3 เขียนบทความ
หลังจากเขียนแผนภาพเพื่อวางแผนการทำ LinkWheel แล้ว ขั้นต่อมาให้ใช้โปรแกรม Window Live Writer ดึงบทความจาก Blogger ของเราลงมา rewrite ใหม่โดยใช้เทคนิคและลำดับขั้นตอนดังนี้
3.1 เขียนบทความใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในบล็อกหลัก ถ้าสามารถทำได้ไม่ยากนัก (ต้องเหนื่อยเพิ่ม) หรือ
3.2 ถ้า rewrite บทความจากบล็อกเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยใช้เทคนิคดังนี้
3.2.1 ให้รวม 2 บทความเป็นบทความเดียว และปรับแต่งข้อความเล็กน้อย เช่นเปลี่ยนคำ สลับประโยค เปลี่ยนชื่อบทความ เป็นต้น
3.2.2 ให้ตัดข้อความเดิมออกมาขยายความ และดัดแปลงการนำเสนอเล็กน้อย
3.2.3 แปลงบทความจากไทยเป็นอังกฤษ หรืออังกฤษเป็นไทยก็ได้
การทำตามข้อ 3.2 ก็เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน ของเนื้อหา (duplicate content) ที่ Search Engine ได้เคยมาเก็บไปแล้ว เพราะถ้าซ้ำ จะทำให้บล็อกเราเสียคะแนน และอาจจถูกจับได้ว่าเราสร้าง backlink ขึ้นมาเอง
3.3 สำหรับ Blog ที่ใช้โปรแกรม Window Live Writer เขียนได้ คุณสามารถใช้โปรแกรมนี้บันทึกบทความไว้ในเครื่องจากนั้นก็ดัดแปลงใหม่แล้วประกาศไปยังบล็อกต่าง ๆ เช่นในที่นี้ผมเขียนบทความและประกาศไปที่ Wordpress.com แล้ว ผมก็บันทึกเก็บเอาไว้ จากนั้นก็เปิดบล็อกของ spaces.live.com ขึ้นมาและเปิดบทความขึ้นมาดัดแปลงตามที่แนะนำไว้ในข้อ 3.2 จากนั้นก็ประกาสไปยัง spaces.live.com ก็จะได้บทความในทั้ง 2 บล็อกแบบไม่เหนื่อยมาก
3.4 เขียนแนะนำบล็อกเป้าหมายโดยตรง และสร้างลิงค์มาตรง ๆ พร้อมทั้งสร้างลิงค์เพื่อเป็นสะพานไปยังบล็อกอื่น
3.5 ถ้าคุณไปลอกบทความชาวบ้านเขามา ควรให้เขียนเครดิตแก่เขาไว้ในบทความ และโดยมารยาทก็ควรจะใส่ลิงค์กลับไปยังบทความเขาด้วย ผมเองก็เบื่อกับเรื่องแบบนี้เหมือนกัน (เรื่องลอก ๆ เนี่ย)
3.6 ควรจะเขียนบทความลงในบลอกที่สร้างขึ้นมาใหม่อย่างน้อย 10 บทความ อย่างสม่ำเสมอ
ขั้นที่ 4 เชื่อมโยงระหว่าง node ต่าง ๆ ของ Link Wheel
ถึงขั้นนี้คุณอาจจะสงสัยว่าแล้วเราจะเชื่อมโยงระหว่างบล็อกต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นมาได้อย่างไร ถ้าให้ผมอธิบายง่าย ๆ คือให้คุณทำ link โดยใช้รูปแบบของภาษา HTML ตรงใหนก็ได้ในหน้านั้น ๆ bot จะสามารถใต่ตามลิงค์มาได้หมดครับ และ 4 วิธีนี้คือแนวทางที่แนะนำ
4.1 เชื่อมโยงโดยกล่าวถึงในบทความ เช่นเมื่อบทความไปกล่าวถึงเรื่องอะไรก็ตามที่มีในบล็อกเป้าหมายของเราก็ให้ทำ link ไปได้เลย แต่อย่าใส่เยอะมากในบทความเดียวกันเพราะอาจถูกมองว่าเราเป็น Spam และการสร้าง Link ก็ควรจะใส่แบบ anchor text ด้วย
และตอนท้ายของบทความให้อ้างเครดิตมายังบล็อกเป้าหมาย พร้อมทั้งอ้างว่ามีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เราเขียนแล้วลิงค์ไปบล็อกถัดไปที่วางแผนไว้ในแผนภาพ ดังนั้นผลลัพธ์ตอนท้ายบทความจะเป็นหน้าตาแบบนี้
เครดิตข้อมูล : ทำลิงค์ไปบล็อกเป้าหมาย
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง : ทำลิงค์ไปบล็อกถัดไปที่เขียนเอาไว้ในแผนภาพ
การทำตามข้อ 4.1 เรียกว่าเป็นการสร้างสะพานให้ Bot วิ่งต่อ ๆ ไปเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าวงไม่ขาดผลก็จะเป็นเหมือนรูปที่เราวาดเอาไว้
4.2 วิธีที่ 2 ใส่ลิงค์ไปบล็อกอื่น ๆ โดยการสร้างเมนูขึ้นมา
4.3 ใช้ฟังก์ชัน Blogroll (ถ้าบล็อกนั้น ๆ มี) แล้วใส่ลิงค์เข้าไป 2 ลิงค์ ซึ่งทำคล้ายกับข้อ 4.1 เพียงแต่ไม่ได้ใส่ในบทความเท่านั้น
4.4 ใส่ footer ด้วย Link แบบ AnChor text
ถ้าคุณสร้างลิงค์ตามที่แนะนำเอาไว้ก็จะเกิดสะพานให้ Bot วิ่งได้แล้ว และถ้า Bot วิ่งได้แล้วก็จะวิ่งวนไปๆมาๆหลายรอบ backlink ที่คุณได้จะเป็นแบบ Spinning backlink ซึ่งจะดันให้อันดับของคุณสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และมั่นคง
ขั้นที่ 5 Submit บทความเพื่อเรียก Bot
บล็อกที่เราสร้างขึ้นมาใหม่นี้ไม่ต้องไปเสียเวลาทำ SEO ให้มันมาก เพราะคุณจะเหนื่อยเกินไป ให้ใช้วิธีนำบทความไป Submit กับเว็บ Pligg และ Social Bookmark เพื่อเรียก bot ซึ่งผลที่ได้แสดงดังรูป
รูปข้างบนแสดงการนำบทความในบล็อกที่สร้างใน sumhua.com ไป Submit กับเว็บ Pligg และ Social Bookmark ซึ่ง Bot ก็จะวิ่งมายังสะพานที่เราสร้างไว้และวิ่งวนอยู่หลาย ๆ รอบ
ในทำนองเดียวกัน บทความในบล็อกอื่น ๆ ที่เหลือก็ควรจะนำไป Submit เช่นเดียวกับที่แสดงให้ดูในตัวอย่าง
ขั้นที่ 6 Link Wheel ในรูปแบบอื่น ๆ
ที่ทำให้ดูในตัวอย่างนี้เป็น Link Wheel แบบง่าย คุณสามารถดัดแปลงเป็นรูปแบบอื่น ๆ ได้อีก เช่น
6.1 ขยายวง
การขยายวงของ Link Wheel จะช่วยให้เพิ่มโอกาสให้ bot เข้ามามากขึ้น ใช้เวลาวิ่งนานขึ้น และ backlink นี้จะแข็งแกร่งขึ้น
6.2 วงซ้อนวง
6.3 วงต่อวง
6.4 ใช้ทฤษฎีกราฟในคณิตศาสตร์เข้ามาช่วยให้เป็น Link Wheel ในรูปแบบอื่น ๆ
การใช้รูปแบบกราฟทางคณิตศาสตร์ควรเลือกกราฟแบบไม่มี loop ที่จุด node หรือเรียกว่า Simple Graph
ตัวอย่างรูปแบบกราฟในทฤษฎีกราฟทางคณิตศาสตร์ รูปด้านล่างเรียกว่า Petersen Graph
6.5 คิดรูปแบบ Link Wheel ของตัวเอง
เมื่อเข้าใจรูปแบบและวิธีการเบื้องต้นแล้ว การประยุกต์ใช้ต่อไปก็อยู่ที่การลองถูกลองผิดของแต่ละคน ที่สำคัญคือคุณจะต้องเฝ้าสังเกตดูความเปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอจึงจะสรุปได้ว่า สิ่งที่ได้ทดลองไปนั้นได้ผลหรือไม่ ผิดพลาดตรงไหน แล้วก็ปรับปรุงและทดลองซ้ำอีก
หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับทุกคนครับ สวัสดีครับ
Update : ผมได้เขียนข้อแนะนำเพิ่มเติมในการทำ Linkwheel อีก 1 บทความ อ่านต่อที่ ข้อแนะนำการทำ Linkwheel
แสดงความคิดเห็น