แม้จะแต่งงานจนมีลูกชายน่ารัก 2 คนแล้ว แต่ความฮอตของ ฮิวโก้ - จุลจักร จักรพงษ์ นักร้องวัย 34 ปี ก็ดูจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะบทสัมภาษณ์เรื่อง 'การนอกใจ' ที่ตอบได้หล่อมากกก...จนทำให้สาวๆ ปลาบปลื้มกันทั้งประเทศงานนี้ศรีภรรยา ฮาน่า - ทัศนาวลัย เลยขอเปิดใจในรายการ 'จุดเดือด' ทางช่อง 2 ว่ารู้สึกอย่างไรกับกระแสดังกล่าวและเหล่าภรรยามโนทั้งหลาย
โดยเธอว่า ที่ได้อ่านๆ กันนั้น เขาสัมภาษณ์ไว้หลายปีแล้ว แต่เพิ่งถูกปล่อยออกมา ซึ่งตนก็ดีใจที่คำพูดของสามีโดนใจและเป็นข้อคิดให้หลายๆ คน โดยปกติฮิวโก้ก็เป็นคนไม่เจ้าชู้และมักจะพูดอะไรโดนใจคนอยู่แล้ว เพราะอ่านหนังสือเยอะ"ไม่ใช่แค่กับนักข่าวนะ กับเราเขาก็เป็นคนแบบนี้ คิดก่อนพูดทุกคำ เขาบอกว่าทุกอย่างที่เขาพูดมันก็เป็นสิ่งที่ทุกคนเป็นกัน ก็ไม่เห็นแปลกอะไรเลย ทำไมคนที่แต่งงานมีลูกแล้วก็ควรจะคิดแบบเขา แล้วเราหลายๆ คนในวงการก็มีนะที่ไม่เจ้าชู้ รักลูกรักเมียเขาเองก็ไม่ได้แตกต่าง หรือแปลกอะไรเลย
"เขาเป็นคนที่ชอบใช้เวลากับเรา กับลูก กับงานเท่านั้น เราก็รู้สึกว่าเออ ดีเนาะ บางทีเขายังนั่งตามหาอยู่เลยว่าเมียอยู่ไหน กลับบ้านด่วน เขาเป็นคนที่ชอบอยู่บ้านด้วยแหละ ผู้ชายที่ชอบอยู่บ้านก็จะตัดเรื่องชู้สาวไปได้เยอะเลย เพราะไม่มีทางออกไปพบเจอสิ่งล่อแหลม"
"จริงๆ ฮาน่ารู้จักเขานานมาก แต่ตอนนั้นเขามีแฟน เขาก็มองแต่ก็เลิกคิด คือถ้าเขามีแฟนอยู่ต่อให้ผู้หญิงสวยขนาดไหนเข้าใกล้ เขาก็จะรู้สึกว่ามันมีอะไรที่จะต้องสะกดตัวเองไว้"
เมื่อถามว่ารู้สึกยังไงบ้างที่สามีเพอร์เฟคขนาดนี้ ฮาน่าบอกทันที
"ก็เมียสวยมาก (หัวเราะ) คือหมายความว่าคุณสามีชอบแบบเรา ในความรู้สึกเขาคือเราสวยมากไง ก็เลยดีใจมากที่สามีคิดแบบนี้นะคะ จริงๆ นั่งเฉยๆ ไม่ต้องอ้าปากคนก็หมั่นไส้แล้ว อย่าให้พูดเยอะเลยค่ะ"
ถึงอย่างนั้นก็มีบางคำพูดของฮิวโก้ที่กลายเป็นประเด็นดราม่าเหมือนกัน เช่น บทสัมภาษณ์ที่มีคนถามว่ารู้สึกยังไงที่เด็กสมัยนี้มีดาราเป็นไอดอล แล้วฮิวโก้ตอบว่า "อย่าไปฟังเลย ดาราก็ไม่ได้รู้อะไรไปกว่าครู พ่อแม่ ให้ไปเชื่อพ่อแม่ดีกว่า"
"คือเอาข้อความตั้งแต่ 20-30 ปีก่อนที่มีคนถาม ประเด็นนี้ใช้กันมา 2 ปีกว่าที่มีประเด็นทางการเมือง หลายๆ คนที่เป็นดาราก็บอกว่าทำไมพูดแบบนี้ โทรมาหาเราบ้าง เฟซบุ๊กมาหาเราบ้าง ฮาน่าก็เลยบอกกลับไปว่า พี่ไม่อยากให้ลูกพี่ หลานพี่ เชื่อพ่อแม่หรือครูบาอาจารย์เหรอ ดาราก็เหมือนคนทั่วไป ผิดชอบชั่วดี มีพลาดพลั้ง เราควรเอาคนเป็นแบบคือคนที่รักเรามากที่สุด แล้วหลังจากนั้นก็มีมาเรื่อยๆ คือเอาประเด็นนั้นมาใส่ทางการเมืองว่าเป็นสีนั้น สีนี้ ซึ่งคุณฮิวโก้เขาเป็นกลาง"
"บางทีเขาอ่านแล้วบอกว่าต่อไปจะไม่พูดอะไรแล้ว ถ้าสิ่งที่เขาพูดโดนเอามาโยงทำให้เป็นประเด็น เอามาใส่ให้เข้ากับฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ ทำให้มันเปลี่ยนไป คนที่เขาพูดก็รู้สึกว่าพอ จบ หยุดพูดดีกว่า"
ทั้งนี้ฮาน่ายังยอมรับอีกว่าสามีเธอน่ะติสท์สุดๆ เพราะเลือกงานตามอารมณ์ ดังนั้นนอกจากงานเพลงแล้ว งานชิ้นล่าสุดก็คือ 'Dracula : Blood is Life' ที่เปิดแสดงจนถึง 6 มี.ค.นี้ ซึ่งเป็นการแสดงละเวทีครั้งแรกของฮิวโก้
"เขาติสท์จริงๆ นะ เขาก็พูดเลยว่าเขาติสท์มาก ไม่ทำคือไม่ทำ จะทำคือทำ เงินมาผ้าไม่หลุดถ้าไม่อยากทำ เขาพูดว่าเงินได้มาเดี๋ยวก็หมด แต่ภาพพจน์ติดตัวไปจนวันตาย เขาจะไม่ยอมทำอะไรที่เสี่ยวๆ หรือโฆษณาอะไรที่เขาไม่ได้ใช้จริงๆ"
"ส่วนละครเวทีอาจจะคุยแล้วถูกใจ คุยแล้วมีบางคำพูดที่รู้สึกว่าเขาต้องทำ มีความท้าทายที่เขาต้องการจะพิสูจน์ตัวเอง เขาก็จะทำโดยที่เรื่องเงินไม่สำคัญ แต่ทำจากความต้องการ ความอยาก ความสามารถที่อยากจะพิสูจน์ เพราะหนึ่งคือเขาอยู่เมืองไทยได้จากชื่อเสียงอะไรก็ตามแต่ แต่ถ้าฝรั่งทุกคนเท่ากันหมด มาจากศูนย์ แล้วเขาได้ไปทำงานกับคนที่เป็นระดับโปรเฟชชั่นแนลของวงการ แล้วเขาใหม่มาก งานแรกของเขา เขาก็อยากพิสูจน์ว่าทำได้ไหม"
แต่ถึงจะติสท์ขนาดไหนก็ไม่กระทบความสัมพันธ์ในครอบครัว ด้วยเหตุผลว่า
"เขาโรแมนติกนะ เขาจะเป็นคนที่ต้องการความรักจากเรามาก ต้องการการสัมผัส ดูแลเอาใจใส่"
"เขาติสท์กับทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องความรัก"
หูยย...ฟังแล้วอิจฉามากค่า
แสดงความคิดเห็น