ภาพลายเส้นง่าย ๆ เหล่านี้มีตั้งแต่รูปคน รูปสัตว์ต่าง ๆ เช่น ลิง นก แมงมุม ปลาวาฬ กิ้งก่า รูปต้นไม้ จนถึงรูปทรงทางเรขาคณิต เป็นจำนวนหลายร้อยรูป











สิ่งหนึ่งที่เรามักทำกันเวลาไปนั่งเล่นริมชายทะเลคือเอาไม้วาดรูปเรื่อยเปื่อยไปบนผืนทราย เมื่อน้ำขึ้นจนท่วมรูปก็จะพัดพาเอาทรายกลับลงทะเลไปกลายเป็นชายหาดอันเกลี้ยงเกลาอีกครั้ง



กลางผืนทะเลทรายใกล้ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกในประเทศเปรู จะพบรูปภาพบนผืนทรายที่เหมือนใครเอาไม้ไปขีดเขียนไว้เป็นจำนวนหลายร้อยรูป มันคงไม่ได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ ถ้าแต่ละรูปไม่ได้มีขนาดใหญ่โตถึง 200 เมตร และรูปทั้งหมดครอบคลุมเนื้อที่กว่า 500 ตารางกิโลเมตร ท้าทายแดด ลม ฝน เป็นเวลากว่าสองพันปี

ลิง


จากการศึกษาทางโบราณคดี พบว่ารูปเหล่านี้สร้างขึ้นในช่วง 200 ปีก่อนคริสตศักราช จนถึงประมาณปี ค.ศ. 700 ภาพวาดเหล่านี้ใครเป็นผู้วาด วาดด้วยจุดประสงค์อันใด


นกฮัมมิงเบิร์ด ลองดูลวดลายแบบเดียวกันบนแจกันที่พบในบริเวณใกล้ ๆ 




และจากขนาดและความยาวของภาพลายเส้นเหล่านี้ คงมิได้สร้างขึ้นเพื่อให้มนุษย์บนโลกดูเป็นแน่ แต่ค่อนข้างชัดเจนว่าภาพเหล่านี้จงใจสร้างขึ้นเพื่อให้มองจากท้องฟ้า หรือนี่คือสัญญาณแสดงว่ามนุษย์เราเคยติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวมากว่าสองพันปีแล้ว







นกแร้ง (condor) 


หรือว่ามันถูกสร้างขึ้นเพื่อบูชาถวายแด่เทพองค์ใดบนท้องฟ้าสรวงสวรรค์
หรือว่ามนุษย์บนโลกค้นพบวิธีการบินขึ้นสู่ท้องฟ้าเมื่อกว่าสองพันปีมาแล้ว








รูปแสดง ตำแหน่ง ของ ลายเส้นแต่ละรูป





วาฬเพชฌฆาต
หรือว่าพระเจ้าจะทรงเป็นผู้สลักร่องรอยเหล่านี้ไว้บนผืนโลกกันแน่








แมงมุมขยุ้มพื้นทราย 
คำถามเหล่านี้ยังคงเป็นปริศนาท้าทายมนุษยชาติในยุคปัจจุบัน ตราบใดที่ไม่มีหลักฐานการบันทึกทางประวัติศาสตร์ เราอาจไม่มีวันทราบคำตอบที่แท้จริงได้เลย





ต้นไม้




เทคนิคในการสร้างภาพลายเส้นเหล่านี้เป็นวิธีง่าย ๆ แต่ทำยาก นั่นคือการสกัดหินสีเข้มกว่าที่อยู่ที่ผิวออกให้เห็นเนื้อหินที่สีอ่อนกว่าด้านล่างให้ปรากฏออกมา และมีความลึกจากพื้นผิวเพียงแค่ 10-30 เซนติเมตรเท่านั้น จากการศึกษาค้นคว้า ไม่พบร่อยรอยของเทคโนโลยีใด ๆ ในการก่อสร้าง จึงพอจะสรุปได้ว่าทั้งหมดเป็นแรงงานจากฝีมือมนุษย์เท่านั้น









รูปมนุษย์ (หรือเปล่า) หัวกลมตาโต ยกมือขวาขึ้นโบกมือทักทายรูปนี้ ถูกขนานนามว่า “มนุษย์อวกาศ”

บางทีก็ดุเหมือน เจ้าหน้าที่ควบคุม เส้นทางการบิน (บอกว่าตรงนี้ลงจอดได้)
ทำให้ใครต่อใครเชื่อว่าลายเส้นแห่งนาซคาแห่งนี้เป็นฝีมือของมนุษย์ต่างดาวจากนอกโลก บางคนจินตนาการไปไกลถึงว่าเส้นบางเส้นอาจเป็นร่องรอยการขึ้นลงของยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว แต่ทฤษฎีนี้ก็ถูกปฏิเสธมาตลอดเช่นกัน







สาเหตุที่ภาพลายเส้นเหล่านี้อยู่คงทนมาสองพันปี เป็นเพราะสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ไร้ฝน ไร้ลม เราคงได้แต่หวังว่าสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปคงไม่กระทบหรือกระทบช้าที่สุดต่อมรดกโลกที่ซุกซ่อนตัวจากความเจริญก้าวหน้าทางวัตถุ ณ ที่แห่งนี้



ที่มา : atcloud.com

____________________

เครดิต :

________________________________

Pageviews

แสดงความคิดเห็น

 
Top