“ยูมิน” อดีตกิ๊ก “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ผู้เคยออกมาโวย “ซงจุงกิ” ชวนไปนอนด้วย ตกเป็นข่าวอีกครั้งหลังจากโพสต์ภาพถ่ายคู่กับ “ลีควันฮุน” ดาราเกาหลี ก่อนจะออกมายอมรับว่า เป็นแฟนกันเรียบร้อยโรงเรียนเกาหลี แต่ยันไม่ใช้เป็นสะพานในการก้าวเข้าวงการบันเทิงเกาหลี
“ยูมิน ทวิกานต์ กุลชล” มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงการบันเทิงก็เพราะออกมาเปิดตัวว่าไปกิ๊กกับ “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” แต่ก็โดนฝ่ายชายปฏิเสธตอกหน้าหงายจนไปร้องไห้ออกทีวี เมื่อไม่นานมานี้ก็พึ่งจะไปโวยวายผ่านเฟซบุ๊กว่า ซีอีโอเกาหลีทาบทามให้ไปหลับนอนกับ “ซงจุงกิง” ศิลปินเกาหลีเมื่อครั้งที่มาเยือนเมืองไทย แต่ได้ปฏิเสธแถมยังปูดว่ามีเซเลบริตี้อีก 10 คนที่เข้าโรงแรมไปหาซงจุงกิง ก่อนจะออกมาบอกว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิดแท้จริงแล้วตนเองถูกซีอีโอเกาหลีปั้นเรื่องขึ้นมาหลอกทำให้เข้าใจซงจุงกิผิด
ล่าสุดยูมินก็ได้โพสต์ภาพที่ถ่ายกับ “ลีควันฮุน” ดาราเกาหลีที่เคยมีผลงานด้านภาพยนตร์ซีรีส์ชุด Road No.1, Tae Cho Yung และ Son Dok Queen และเคยมาร่วมแสดงหนังในประเทศไทยเรื่องวอนโดนเตะค่ายสหมงคลฟิล์ม ขึ้นเฟซบุ๊ก พร้อมกับออกมายอมรับแบบหน้าชื่นตาบานว่า กำลังคบหาดูใจกับหนุ่มลีควันฮุนอยู่ เปิดตัวเปิดใจในขณะที่ตัวเองก็กำลังจะเดินทางไปทำงานในวงการบันเทิงเกาหลีแบบนี้ ใครๆ ก็เลยมองว่า ยูมินกำลังใช้ลีควันฮุนเป็นสะพานไปสู่ความดังซะแล้ว งานนี้ยูมินบอกไม่จริ๊งไม่จริงเพราะไม่คิดจะดัง
“รูปในเฟซบุ๊กเหรอคะ(หัวเราะ) ก็ใช่ค่ะเป็นคนที่กำลังศึกษาในตอนนี้ค่ะ เขาเป็นนักแสดงเกาหลีที่เคยร่วมงานกันในประเทศไทย และมีพี่ในวงการที่เป็นคนเกาหลีเขาแนะนำให้รู้จักกัน สถานะตอนนี้ก็เรียกว่าคบกันค่ะ เรียกว่าแฟนได้ค่ะ แต่ตัวยูมินเองกำลังจะย้ายไปอยู่ที่โน่น ก็ไม่รู้ว่าโลกใหม่ของยูมินจะเป็นยังไง จะมีอะไรเข้ามา ซึ่งโอเคเราคบกันได้แต่ต่างคนต่างไม่ผูกมัด ถ้าเขาไปเจอในสิ่งที่ดีที่สุดก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี”
“แต่ที่ผ่านมาเขาก็ดีค่ะ เขามาเมืองไทยก็ได้พาเขาไปเที่ยว รูปที่ถ่ายขึ้นเฟซเป็นตอนที่เรารู้จักกันใหม่ๆ แต่ด้วยความที่จริงใจของเขา เขากลับอยากเจอพ่อแม่ของยูมินเลย ทั้งที่วัฒนธรรมของเขาผู้ชายจะยังไม่เจอพ่อแม่ผู้หญิงแต่งงานแล้วค่อยเจอกัน”
“แต่ตัวเขาเองเหมือนคนไทยชอบกินส้มตำเคยทำงานกับคนไทย อยู่ดีๆ เขาก็บอกว่าผมจะไปหานะ ผมจะไปหาพ่อหาแม่ คือเขามาหายูมินแต่ถามถึงพ่อแม่เราก็เซอร์ไพร์สเหมือนกัน ตอนนั้นเป็นวันที่ครบรอบวันแต่งงานของพ่อกับแม่ เขาก็บอกซื้อของขวัญครบรอบวันแต่งงานมาให้ ซึ่งเป็นอะไรที่แบบเราประทับใจเพราะเขาใส่ใจในรายละเอียดของเราก็ทำให้เราอึ้งไปเลย”
“ถามว่าโดนไหม....มันก็นิดนึง คือการที่เราต้องย้ายไปอยู่เกาหลีจะมีใครซักคนเข้ามา เราก็ต้องเลือกคนที่มั่นคงวันไหนที่เราล้มก็ยังมีเขาเป็นหลักให้อยู่ได้ในบ้านเมืองเขา แต่ยูมินไม่ได้คิดจะใช้เขาเป็นสะพาน หรือมองว่าเขาดังหรือไม่ดัง และเราเองก็ไม่ได้อยากดังไม่อยากวุ่นวาย แต่ถามว่าไปอยู่เกาหลีแล้วจะควงกันไปเที่ยวไหนได้หรือเปล่า อันนี้ยูมินไม่ซีเรียสแต่ยูมินแคร์สายตาผู้ใหญ่ที่นั่นที่เขาจะให้การสนับสนุนเราให้หน้าที่การงาน เพราะเราก็ต้องพิสูจน์ตัวเองเหมือนกัน ก็พูดตรงๆ ว่า เขามองผู้หญิงไทยไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็พูดได้ยากนะ เอาเป็นว่าเราพูดด้วยความห่วงแล้วกัน ในฐานะที่เราไม่ใช่คนที่ทำแบบนั้น เขาจะมองว่าผู้หญิงไทยตัดสินใจได้ง่ายอยากได้เงินอยากได้ชื่อเสียงก็เลยต้องไปขายร่างกาย”
“พอยูมินต้องไปทำงานที่เกาหลีตรงนี้มันก็เป็นผลกระทบเหมือนกันว่า เรามากจากไหนเราก็น่าจะเป็นแบบนั้น ทั้งๆ ที่มันเป็นการกระทำของคนส่วนน้อย แต่หลายๆ ครั้งที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับยูมิน เราก็จะพยายามแก้ไขความเข้าใจผิด อย่างเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นเรื่องที่ยูมินเข้าใจผิดคิดว่าซีอีโอติดต่อให้ไปอะไรกับซงจุงกิแต่ยูมินปฏิเสธนั้น เหตุการณ์ตรงนี้มันทำให้ไม่สามารถเอาคนไทยไปพูดต่อได้ว่าคนไทยง่าย เพราะหนูไม่ได้ให้ หนูปฏิเสธ”
“พอเขามองคนไทยแบบนั้นก็เลยทำให้เจอเรื่องแบบนี้เหมือนกัน เขาเป็นผู้ใหญ่ในระดับสูง เขาบอกให้มาเจอคืนนี้ได้ไหม เราก็บอกเจอกันวันได้ไหม เขาบอกไม่ผมอยากจะนอนกับคุณ เราก็บอกว่าขอโทษนะคะฉันไม่ได้เป็นอะไรกับคุณ อยู่ดีๆ จะให้ฉันไปนอนกับคุณมันตลก เขาก็บอกไม่เป็นไรก็แค่สัมผัสก็พอ เราก็รู้สึกว่ามันอะไรกันเนี่ย ก็บอกกับผู้ใหญ่หลายๆ คนที่เกาหลีว่า ถ้ายูมินต้องไปทำงานที่นั่นต้องช่วยเราด้วยนะ”
“เหตุการณ์ครั้งนั้นก็ทำให้ยูมินเลิกติดต่อเรื่องงานกับเขาอีกเลย ไม่ว่าเขาจะใหญ่แค่ไหนก็ตาม แต่ผู้ใหญ่ที่เหลืออยู่ตอนนี้คือคนที่เราคัดไว้แล้วว่าหวังดีกับเราจริงๆ”
ดาราเกาหลีมักจะมีข่าวว่าโดนผู้จัดการลวนลามทางเพศบ่อย บ้างก็โดนข่มขู่ให้หลับนอนด้วย หนักๆ เข้าก็ทนไม่ไหวจนต้องฆ่าตัวตาย เมื่อต้องไปเจอกับสังคมแบบนั้น “ยูมิน” บอกว่าทุกวงการล้วนมีเรื่องแบบนั้นหมด
“ยูมินคิดว่า มันไม่ใช่แค่เกาหลีหรอกค่ะเมืองไทยเราก็มี ประเทศอื่นก็มีเหมือนกัน แต่ประเทศไทยเขาอาจจะมีความกดดันสูง เพราะประเทศเขาต้องใช้เงินค่าที่พักก็แพง ทุกๆ อย่างในประเทศเขาแพง ค่ามัดจำห้องในประเทศไทย 3000 บาท แต่เกาหลีต่ำสุด 300,000 บาท รายเดือน 20,000 กว่า คนบ้านเขาก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินขึ้นมา”
“แต่ไม่ว่ายังไงยูมินบอกได้เลยว่า ต่อให้วันหนึ่งยูมินไปเจอกับผู้กำกับคนหนึ่งแล้วบอกให้ไปนอนด้วยเพื่อจะได้เข้าวงการบันเทิง ยูมินคิดว่าอยู่เป็นคนธรรมดาสบายใจกว่าเยอะ ทางไหนที่เป็นทางสกปรกยูมินจะไม่เดิน”
ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์
แสดงความคิดเห็น