“เอ ศุภชัย” เบรกปั้นเด็กชั่วคราว เพราะเด็กในสังกัดที่มีอยู่ตอนนี้ยังไม่ดีพอจะออกสู่สายตาประชาชน เปรียบเป็นกล้วยยังไม่แก่ ต้องรอให้สุกหอมหวานค่อยตัดกินถึงจะอร่อย

ขึ้นชื่อเป็นนักปั้นดารามือทองในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะพาดาราคนไหนเข้าวงการ “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ก็สามารถดันจนโด่งดังเป็นพลุแตกได้เสมอ แต่ล่าสุดเจ้าตัวก็หยุดส่งเด็กมาแจ้งเกิดชั่วคราว ด้วยเหตุผลที่ว่าเด็กที่อยู่ในสังกัดตอนนี้ยังไม่พร้อมจะออกสู่สายตาประชาชน

“จริงๆ แล้วคือ การปั้นเด็กใหม่เราต้องใช้เวลาเตรียมงาน ไม่ใช่ว่า1-2วัน หรือแค่1-2ปี บางทีเป็น3-4ปีก็มี คือพี่เอว่าถ้าเราจะทำตอนนี้ เราต้องดูจังหวะเพื่อความเหมาะสมไม่ใช่ว่า หมากหรือณเดชน์ จะแรงคือ เราไม่ได้เอามาแบบว่าตีกัน เขาคนละสไตล์กัน สำหรับคนใหม่ที่เข้ามาเรียนแอ็คติ้งยังไม่เต็ม ยังไม่พอที่จะออกไปสู่สายตาประชาชนก็ขอเวลาหน่อย ให้กล้วยมันแก่นิดนึง ตัดออกจากเครือแล้ว พอสุกจะหอมหวานอร่อย”

“ตอนนี้เซทใหม่ก็ต้องรอไปก่อน ไม่ใช่ว่าไม่กลัวดังเท่าครับ เพราะว่าทุกวันนี้น้องๆ ณเดชน์เวลาเขียนการ์ดอวยพรขอให้พี่เอปั้นเด็กให้ดังๆ นะครับอะไรแบบนี้ ก็บอกว่าดีใจที่เขาใจกว้างรู้ว่าเป็นอาชีพของพี่เอซึ่งมันก็เป็นข้อดีของเรา จริงๆแล้วจะพูดเด็กที่พี่เอปั้นปแล้วดังเปรี้ยงขนาดนั้นก็ไม่ได้คือมันมีบ้าง (หัวเราะ) ขายของๆ นิดนึง บางทีเปรี้ยงเป็นนางร้ายก็มีแต่อยู่ที่ว่าเขาอยู่ในสถานะไหนในวงการบันเทิงนี้เท่านั้นเอง”

นอกจากจะเบรกปั้นเด็กแล้ว พนักงานที่ทำหน้าที่ดูแลดาราให้กับ “เอ ศุภชัย” ก็สร้างปัญหาแอบฉกเงินค่าพรีเซ็นเตอร์ของดาราคนหนึ่งไป 5 แสนบาท จนเอต้องควักเนื้อจ่ายชดใช้ให้แทน แต่ถึงอย่างไรเอก็ยังใจดีไม่ไล่ลูกน้องออก บอกผิดครั้งแรกต้องให้โอกาส

“ก็เรียกว่าเป็นการทำงานที่บางทีเอาเงินไปแล้วก็ไม่บอก เอาไปหมุนก่อนอย่างนี้ คือใช้คำว่าโกงก็ไม่ได้ ตอนนี้ก็เลยบอกว่าถ้าไม่มีก็ให้บอก เดี๋ยวจะให้ยืม แต่อย่าเอาไปแล้วไม่บอก เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่พี่เอเป็นผู้จัดการดารา เดี๋ยวดารานักแสดงเขาไม่ได้แล้วใครจะเป็นคนรับผิดชอบ พี่เอก็จะเสียพี่เอก็เลยบอกเขาว่านอกจากเอาไป 5 แสนแล้ว พี่เอต้องควักเงินตัวเองนี่แหละ หลังจากเวลาหักคอมมิสชั่นเรียบร้อยแล้วเอาไปให้นักแสดงก่อน แสดงว่างานนี้พี่เอนอกจากโดนลูกน้องเอาไปใช้ก่อน และก็ยังโดนปล้นเพราะว่าต้องเอาไปใช้ให้กับดาราแทนที่เขาเอาไป”

“ถามว่าแล้วพี่เอจัดการกับเขายังไงตอนนี้ก็คือจะไม่ให้จับเงิน ก็ให้นั่งเฉยๆ ไม่ได้ให้ไปไหน ก็อยู่เหมือนเดิม โอเคในเมื่อเขาสารภาพว่าเขาเอาไปแล้วจริงๆ เขาไม่ได้โกงขนาดที่ว่าไม่ยอมรับ พี่เอเองก็บอกว่านี้เป็นครั้งแรกที่พี่เอรู้ เพราะฉะนั้นก็ให้นั่งเฉยๆ ไปก่อน ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น และเดี๋ยวให้คนอื่นทำหน้าที่เธอไป เดี๋ยวเงินเดือนพี่จัดการจ่ายให้เอง พี่เอก็ให้เงินเดือนครบให้เขานั่งสบาย แต่ไม่เหมาะกับการจับเงินจับทอง ตอนนี้ก็มีกฎเหล็กคือว่าถ้ามีอีกครั้งหนึ่งก็ต้องเข้าใจแล้วว่า ไม่ได้แล้ว ก็จะขึ้นขั้นเด็ดขาด”

“เขาไม่ได้ตั้งใจกระทำแต่เขาไม่กล้าบอกเรา เขาอาจจะลำบากช่วงนี้ ซึ่งเราก็ต้องมานั่งจับเข่าคุยว่า บางครั้งอยู่ครอบครัวเดียวกันมีอะไรต้องบอกให้หมด ตอนนี้เราก็เคลียร์กันเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่ได้เงินคืน ก็คงจ่ายเรื่อยๆ ทยอยจ่าย แต่พี่เอก็หักเป็นเงินเดือนไปถ้าเขาไม่จ่าย”

“ถามว่าเจ็บใจไหม ก็ไม่หรอก แต่เป็นห่วงไม่อยากให้ทำแบบนี้กับใคร โอเคเราให้อภัยคนอื่นเขาไม่ให้อภัยนะ คนอื่นเขาไล่ออกเลยนะ แต่พี่เอยังมีครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สอง แต่ไม่มีครั้งที่สามดีกว่านะครับประมาณนี้ก็ให้โอกาสเขาอีกครั้งนึงครับ เขาอาจจะจำเป็นจริงๆ เรื่องอะไรก็ไม่รู้ จะติดผู้ชายหรือเปล่า พี่เองก็ถาม ก็บอกว่าหนูไม่ได้ติดค่ะเราก็บอกว่าอ้าวไม่ได้ติดแล้ว เอาไปไหน เอาไปไหนหมด โทรไปหาคุณแม่คุณพ่อเขาก็บอกไม่รู้ ไม่เคยได้รับเงินจากหนูเลย หนูไม่รู้ค่ะ หนูไม่ตอบ”

ขอบคุณข่าวแซ่บจากผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

 
Top