โดยในวันนี้ (18 เม.ย. 57)"จอย"หรือนางสาวขวัญจิรา เจ้าของห้องได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาวพร้อมยืนยันที่จะไม่ยอมความเพราะไม่อยากให้คู่กรณีไปก่อเหตุเช่น นี้กับคนอื่นอีก พร้อมงัดหลักฐานวงจรปิดมัดตัว
ด้าน"ชัช บอดี้สแลม" ได้ถูกทางตำรวจสอบสวนก็ออกอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด พร้อมยอมรับว่าตนเมาสุรา แต่ปัดไม่ได้มีเจตนางัดห้องสาว รับเมาหนักและทะเลาะกับแฟนสาวของตนเอง เห็นกุญแจห้องคาอยู่หน้าประคู และมีกุญแจรถด้วยจึงหวังดี จะเคาะเรียกให้ออกมาเอา แต่ผู้เสียหายไม่เปิด จึงเดินไปหยิบมีดมางัด หวั่นเจ้าของห้องเป็นอะไร ยันไม่มีเจตนาคิดร้ายกับใครทั้งสิ้น
"เหตุการณ์เกิดขึ้น เพราะเหตุเกิดจากผมเมาสุรา แล้วผมทะเลาะกับแฟน คือด้วยห้องของผู้เสียหายติดกับทางเดิน หนีไฟ ผมทะเลาะกับแฟนแล้วก็เดินออกมาทางนั้น ก็ดื่มเบียร์ไปด้วย แล้วก็เดินกลับเข้ามา เผอิญเห็นกุญแจคาอยู่ที่ประตูห้อง แล้วกุญแจอันนั้นมันมีกุญแจรถอยู่ด้วย ผมเลยไปเคาะประตูเรียกเค้าที่ห้องแต่ก็ไม่มีใครตื่น ผมก็เลยบิดลูกกุญแจ พอบิดไปปั๊บห้องก็จะเปิดแง้มอยู่หน่อยๆแล้วก็เรียกด้วยเสียงคนเมานะครับว่า พี่ครับๆ พี่ลืมกุญแจไว้นะครับ ก็ไม่มีเสียงตอบ ผมเลยกลับไปห้อง แล้วด้วยอารมณ์คนเมานะ เข้าใจใช่ไหมครับว่า คนเมามันไม่มีสติหรอกว่าต้องเอากุญแจไปให้ที่นิติฯ ด้วยความที่เค้าไม่ตื่น คือถ้ามันมีแค่กุญแจห้อง กุญแจบ้านธรรมดาจะไม่ยุ่งเลย แต่นี่มันมีกุญแจรถอยู่ด้วย แล้วแฟนผมก็ใช้รถยี่ห้อนี้อยู่เหมือนกัน ผมก็เข้าห้องด้วยความมึนเมา แล้วไปเอามีดมางัดไอ้ตัวสายยู ผมไม่คิดว่ามันจะงัดออกหรอก แต่มันก็งัดออกเสียงดัง ปึ้ง! แล้วผมก็เอากุญแจไปวางคืนเค้าผมคือไม่ได้อะไรเลยนะ แต่ด้วยความที่วันนั้นผมยอมรับว่าเมา เมามากด้วย เมาแบบไม่มีสติ ก็ต้องขอโทษด้วยครับ กับเหตุการณ์นี้นะครับ คือความตั้งใจของผมคืออยากจะเอากุญแจคืนให้เค้า ห่วงความปลอดภัยตัวเค้า ทรัพย์สินเค้า แต่น้องเค้าคงไม่รู้ตัวว่าลืมกุญแจอยู่หน้าห้อง (รู้จักคุณจอยเป็นการส่วนตัวหรือเปล่า)
ไม่รู้จักครับ ไม่เคยเห็นหน้าเลยด้วยซ้ำครับ ล่าสุดที่ไปเคาะห้องเค้าเพราะจะขอโทษเค้าครับ คือพอดีว่าทางสน.โทร.ไปแฟนผม แล้วแฟนผมโทร.มาถ ามว่าจริงหรือเปล่า ซึ่งผมก็ยอมรับ ผมก็บอกแฟนผมว่าเดี๋ยวผมจะไปขอโทษเค้า แต่ตอนไปเคาะห้องเพื่อจะขอโทษเค้า เค้าก็ไม่ได้ตอบอะไรครับ ส่วนเรื่องที่เค้าจะไม่ยอมความ ตรงนี้ก็แล้วแต่น้องเค้าครับ เพราะผมไม่ได้มีเจตนาอะไรเลย แต่ยอมรับว่าทำไปด้วยความมึนเมาจริงๆ ครับ"
ส่วนกรณีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่องานของ "ชัช" กับทางค่ายจีนี่เรคคอร์ดหรือไม่นั้นเจ้าตัวบอกว่า ...
"ก็ปรึกษาปัญหากับทางผู้ใหญ่แล้วครับ คือยังไงก็ผิดแหละครับคนเมา แค่เมาแล้วขับก็ผิดแล้วครับ เมาแล้วขับรถชนเด็กเสียอนาคตก็ยิ่งผิดไปใหญ่ คือมันเมาแบบไม่มีสติเลยครับ แต่งานทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิมครับ ไม่ได้โดนแบนงานครับ"
อยากจะฝากบอกอะไรกับทางผู้เสียหายบ้างไหม?
"ไม่ รู้จะบอกอะไรดีเลยนะ คือผมขาดสติด้วย ทะเลาะกับแฟนด้วย ก็ต้องขอโทษน้องเค้า แล้วแต่ว่าน้องเค้าจะทำยังไงนะครับ เพราะมันคือเหตุการณ์บุกรุกด้วย แล้วผมก็เอามีดมาด้วยนะครับ ตอนนั่นคือคนเมาก็ไม่รู้ว่าจะต้องเอาอะไรมางัด คือมันเมาจริงๆ ครับ"
ด้าน พ.ต.ท. สุบรรณ์ อธิเศรษฐ์ พงส.ผนห.หน.งานสอบสวน ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คดีของร็อคเกอร์ดัง "ชัช บอร์ดี้สแลม" แบ่งเป็น 2 ข้อหา คือคดี ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ตามกฏหมาย เปรียบเทียบปรับไม่เกิน 1พันบาท แต่ผู้ต้องหารับสารภาพ จึงเปรียบปรับ 500 บาท
ส่วนคดีเจตนาบุกรุกเคหะสถานโดยมีอาวุธ ทางเจ้าหน้าที่ตร.ได้แจ้งให้ผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคดีนี้จะทำการปล่อยตัวชั่วคราว และจะมีการนัดสอบสวนอีก 3-6 เดือน ก่อนจะนำตัวขึ้นศาลจังหวัดมีนบุรีต่อไป
แต่แหม๋..ทบทวนเหตุผลที่"ชัช" บอกแล้วน่าเชื่อถือ (หรือเปล่า??)
แสดงความคิดเห็น