สำหรับ iPhone 5 ที่เริ่มวางจำหน่ายและเปิด จอง iPhone 5 ในประเทศไทย นั้นหลายคนคงจะได้เริ่มเป็นเจ้าของกันแล้ว และสำหรับวันนี้ทีมงานจะมาแนะนำถึงวิธีการเลือกซื้อ พร้อมตรวจสอบสภาพ iPhone 5 ก่อนที่จะออกจากศูนย์บริการ Truemove H, Ais, DTAC หรือออกจากร้าน ใช้ตรวจสอบได้ทั้งเครื่องมือ 1 และ มือ 2 เลยครับ
1. ตรวจสอบสภาพกล่อง : กล่องของ iPhone 5 จะต้องปิดสนิทไม่มีรอยแกะ ซีลพลาสติกอยู่ครบทุกด้าน กล่องไม่บุบไม่มีฉีกขาด ** ในกรณีซื้อเครื่องหิ้วหรือ ร้านด้านนอกเช่น MBK ให้ดูรายละเอียดอื่นๆ ต่อไปเพราะว่าเดี๋ยวนี้มีเครื่องซีลเนียนเหมือนออกจากศูนย์เลย
2. ตรวจสอบอุปกรณ์เสริม : ทำการตรวจสอบอุปกรณ์เสริมภายในกล่อง โดย iPhone 5 จะมีอุปกรณ์เสริมตามรายการดังนี้ ** หากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดขนาดหายไปให้เปลี่ยนตัวใหม่ทันที
- คู่มือเอกสารการใช้งาน iPhone 5
- ที่จิ้มถาดซิมการ์ด (ทำจาก Liquid Metal)
- หูฟัง EarPods (มาพร้อมแพ็คเกจและฝากปิดสนิท)
- Adapter อแดปเตอร์ที่ใช้งานกับประเทศไทย (ไม่ใช่ 3 ขา)
- USB Lightning Cable สายดาต้าซิงค์ แบบ 8-Pin
3. ตรวจสอบสภาพภายนอก :
เขย่า : การเขย่า iPhone 5 จะต้องไม่มีเสียงใดๆ เลย ตัวเครื่องและภายในจะต้องแน่นสนิทไม่มีเสียง ก๊อกแก๊ก กิ๊กๆ กลุ๊กๆ ใดๆ ทั้งสิ้น
รอย ขีดข่วน : ถึงแม้ว่า iPhone 5 สีดำจะเกิดรอยง่ายมากเนื่องจากวัสดุในการผลิต (Anodized aluminium) แต่ถึงแม้จะเป็นรอยง่ายขนาดไหนก็ต้องห้ามเป็นตั้งแต่ออกมาจากกล่องนะครับ (สีขาวก็ใช่ว่าจะไม่มี ตรวจสอบให้ดีครับ) หากมีกันลอยให้ลอกออกเพื่อดูลอยขนแมวด้วยนะครับ บางคนมาลอกที่บ้านแล้วเจอเพียบเลย
ขอบ ตัวเครื่อง : ตัวเครื่องต้องแนบสนิทไม่มีรอแตก หรือรอยแยก (เปิดอ้า) ไม่มีรอยร้าว ที่สำคัญต้องไม่มีปัญหาแสงรั่ว (Light Leak) จากของทั้ง 4 ด้าน สำคัญตรงส่วนบนปุ่ม Home ที่เจอปัยหามากที่สุดในล็อตแรก
ปุ่ม : ปุ่มบนเครื่อง iPhone 5 ต้องแนบสนิทกดปุ๊บ ติดปั๊บ ไม่ติดมีขัด ไม่มีหลวม เราต้องตรวจสอบปุ่มทั้งหมด 4 จุดได้แก่
- Sleep/Wake Button ปุ่มปิดเปิดเครื่อง กดปิดต้องล็อคหน้าจอ กดติดทุกครั้งห้ามหลวม
- Ring/Silent switch ปุ่มปิดเสียง ทดสอบเลยนะครับต้องปิดได้จริง
- Volume Buttons ปุ่มปรับระดับเสียง กด + เป็น + / กด – เป็น – ห้ามสลับกัน
- Home Button ปุ่มโฮมสำคัญเลยกด 10 ครั้ง ต้องติด 10 ครั้ง
หน้าจอ : สำหรับหน้าจอนั้นเคยมีปัญหาใน iPhone 4S เรื่องฝุ่น (กระจกด้านใน) ไม่สามารถเช็ดออกได้ ใน iPhone 5 ก็ต้องดูเช่นกัน รวมไปถึงรอยขีดข่วนบนหน้าจอด้วย และก็ไม่มีบุบหรือบุ๋มลงไป
กล้อง : ดูภายนอกแล้วต้องไม่มีรอยขีดข่วนบนเลนส์ และแนบสนิด ตรวจสอบทั้งกล้องหน้าและหลังเลยนะครับ ดูเลยไปถึง Flash ด้วยดวงไฟต้องไม่มีรอยเช่นกัน
หูฟัง Earpods : หูฟังรุ่นใหม่ที่ทางแอปเปิ้ลออกแบบมารูปร่างหน้าตาจะเป็นแบบตามภาพนะครับ ใครได้รุ่นเก่าอย่างรับเครื่องมาเด็ดขาด เมื่อได้มาให้แกะออกมาทดสอบด้วยนะครับอย่างทดสอบแต่ตัวเครื่อง ข้อต่อสายต้องแน่น ปุ่มปรับระดับเสียงต้องใช้งานได้ (ไม่สลับด้านกัน) ไมค์ต้องใช้งานได้เป็นอย่างดี (ทดสอบโทรออกพูดคุยด้วยนะครับ)
คีย์บอร์ด : สำหรับ iPhone 5 มีเรื่องที่จะต้องตรวจสอบเพิ่มนิดหน่อยคือ Keyboard เกิดปัญหาเส้นขีดหรือที่เรียกว่า Keyboard Glitches หากเจอแบบนี้เปลี่ยนสถานเดียวครับ
4. ตรวจสอบแถบความชื้น : ถึงจะเป็น iPhone 5 เครื่องศูนย์อย่าง Truemove H , AIS , DTAC , iStudio ก็ต้องตรวจสอบเรื่องความชื้นให้ดี หากออกมาจากศูนย์แล้วมันจะคุยกันยาก เพราะเค้าไม่รับประกันเลย (หลุดประกัน) และสำหรับแถบวัดความชื้น iPhone 5 ได้เปลี่ยนตำแหน่งไปอยู่ในช่องถาดซิมนะครับ ** หากมีสีแดงขึ้นตามภาพให้เปลี่ยนเครื่องนะครับ
5. Model – Serial No – IMEI iPhone 5 : ตรวจสอบ รหัสเครื่อง (Serial No), อีมี่ (IMEI), เลขโมเดล Model ให้ตรงกันทั้งบนกล่องและบนตัวเครื่อง เลขทั้ง 3 ชุดต้องตรงกันนะครับหากไม่ตรงกันนี่เปลี่ยนสถานเดียว หรือซื้อจาก MBK หรือร้านด้านนอกก็ขอไม่รับเครื่องและเรียกเงินคืนครับ วิธีการดูค่าดังกล่าวบน iPhone 5 ให้เลือก General > About ครับ
6. ตรวจสอบประกันเครื่อง iPhone 5 : การตรวจสอบประกันนั้น สำคัญมากหากเป็นการซื้อเครื่องมือ 2 เพราะเป็นปัจจัยในการกำหนดราคาด้วย และหากเป็นเครื่องศูนย์ก็ต้องดูเช่นกันครับ เครื่องใหม่จริงๆ ไม่ผ่านมือใครต้องยังไม่มีการเปิดประกัน (ลงทะเบียน) เพื่อความมันใจระหว่างทดสอบเครื่องให้เราทำการลงทะเบียนเลยครับ การตรวจสอบประกันให้เข้าไปที่ https://selfsolve.apple.com/agreementWarrantyDynamic.do หรือ http://goo.gl/ylbl จากนั้นนำSerial Number ที่ได้จากข้อ 4. ไปใส่แล้วกด Continue ก็จะดูวันสิ้นสุดประกันได้แล้วครับ
7. ตรวจสอบ Hot Pixel, Dead Pixel : ตรวจสอบหาจุดบอดในหน้าจอหรือไม่ โดยเปิด Browser Safari ใน iPhone 5 (ต่อ internet ด้วยนะ) และเข้าไปที่ http://iphonedpt.awardspace.com จะพบปุ่มสีบนหน้าจอทั้งหมด 5 สี ดำ น้ำเงิน แดง เขียว เหลือง ดูให้ครงทุดสีนะครับอย่างให้มี จุดดำ หรือ จุดขาว อยู่บนหน้าจอแม้แต่จุดเดียว
8. Gyroscope : ตรวจสอบเซ็นเซอร์โดยทำการติดตั้งแอพพลิเคชั่น Gyroscope (Free) จาก App Store จากนั้นเปิดแอปขึ้นมาทำการทดสอบหมุนหน้าจอไปมาซ้าย-ขวา ขึ้น-ลง ดูว่าทำงานปกติหรือไม่ หรือใครขี้เกียจติดตั้งแอปก็ลองหมุนหน้าจอแนวตั้ง แนวนอนดูว่าหน้าจอตัดการทำงานตามเราหมุนหรือไม่ (อันนี้เป็นการทดสอบ Accelerometer ไปในตัว)
9. ซิมการ์ด SIM : ก่อนอื่นเลยทดสอบถอดซิมเข้าออกดูซัก 3 ครั้งดูว่าจับสัญญาณได้ดีทุกครั้งหรือไม่ โดยจะมีรูปแบบปัญหาดังนี้ (ซิมการ์ดต้องชัวร์ว่าไม่มีปัญหา)
- NO Sim Card Installed หาซิมไม่เจอ หากใส่ซิมแล้วยังขึ้นคำนี้อยู่ให้ลองดูเครื่องใหม่ครับ
- Searching : No Service หาสัญญาณไม่เจอ ไม่มีสัญญาณ หรือจับได้ขีดเดียว อย่าคิดว่าไม่มีปัญหาครับลองตรวจสอบกับอีกเครื่องนึงดูก่อนครับ หรือเปลี่ยนเครื่องไปเลย
10. โทรศัพท์เข้า-ออก : ทดสอบโทรออกและรับสายเข้า พูดคุยสนทนาดูว่าเสียงดังฟังชัดไหม
11. 3G/Wi-Fi & Bluetooth : ทดสอบ 3G ดูว่าสามารถจับสัญญาณได้หรือป่าว รวมไปถึงการจับสัญญาณ Wi-Fi ด้วยอย่าให้เจออาการติดๆ ดับๆ หรือสัญญาณหาย และอย่างลืมทดสอบ Bluetooth ด้วยละครับ
12. ระบบเสียง : ให้ทำการทดสอบลำโพงของ iPhone 5 ว่าเสียงออกมาเป็นอย่างไรบ้าง ทดสอบเปิดเพลงหรือYoutube เลยครับดูว่าเสียงโอเคใหม่ทดสอบปุ่มปรับระดับเสียงไปในตัวด้วย
13. Personal Hotspot : ตรวจสอบดูการกระจ่ายสัญญาณและการใช้งานว่าฟีเจอร์นี้ทำงานได้ปกติไหมเพราะ เมืองนอกเคยเจอปัญหาว่าใช้งานไม่ได้กับเครือข่ายในบางประเทศ ลองแชร์อินเตอร์เน็ต 3G ไปให้มือถืออีกเครื่องนึงดูก็ได้
แสดงความคิดเห็น