เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 3 ก.ค. พ.ต.อ.ชนะ สุวรรณโกมล ผกก.สภ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถพ่วงเสียหลักพุ่งตกร่องกลางถนนเพชรเกษม บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 281/700 บ้านหนองตาเสือ หมู่5 ต.กุยบุรี จึงไปตรวจสอบเจ้าหน้าที่กู้ภัยกุยบุรี ที่เกิดเหตุพบรถพ่วงแบบหัวลาก นิสสัน สีขาว ทะเบียนส่วนหัว 70-7914 สระบุรี ตกอยู่ในร่องกลางสภาพตะแคงซ้าย ส่วนตัวพ่วงบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์เปล่า พลิกตะแคงขวางถนนในช่องทางขาขึ้น ทั้งสองช่อง โดยมีเสียงคล้ายแก๊วรั่วซึมและกลิ่นแก๊สโชยออกมาจากถัง เนื่องจากรถคันดังกล่าวติดตั้งแก๊สเอ็นจีวี เป็นเชื้อเพลิงถึง 8 ถัง เจ้าหน้าที่จึงปิดการจราจรทุกช่องทาง เนื่องจากเกรงจะเกิดระเบิดและไฟลุกไหม้ซ้ำ ส่งผลให้ รถติดยาวหลายกิโลเมตร
จากนั้นจึงติดต่อรถดับเพลิงจากเทศบาลกุยบุรี มาช่วยฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดประกายไฟในระหว่างที่แก๊สยังรั่วอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ไม่สามารถปิดแก๊สได้ ต้องปล่อยให้แก๊สรั่วจนหมดถัง ซึ่งในระหว่างที่รถดับเพลิงฉีดน้ำอยู่นั้นตำรวจก็ได้เร่งระบายรถให้ฝั่งขาขึ้น วิ่งสวนเลนในช่องทางขาลงใต้ โดยมีกำลังตำรวจทางหลวง และตำรวจจาก สภ.สามกระทายมาช่วยในการอำนวยความสะดวกในการบังคับให้รถขับสวนทาง แต่ที่เป็นกำลังหลักก็คือเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่คอยโบกให้สัญญาณอยู่ตลอดเวลา
สอบสวนเบื้องต้น นายสมหมาย วันจันทึก อายุ 63 ปี คนขับ ซึ่งได้รับบาดเจ็บเท้าข้างซ้าย และขัดยอกตามลำตัว เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น นายสมหมายบอกว่าตนเองไปส่งสินค้าที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และกำลังเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ และก่อนจะเกิดเหตุตนเองรู้สึกง่วง ก็ตั้งใจว่าจะไปจอดนอนแถวสี่แยกกุยบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากสถานที่นี้ไปเพียง 1 กิโลเมตรเศษ แต่ก็เกิดวูบหลับไปเสียก่อนทำให้รถเสียหลักตกลงไปในร่องกลางดังกล่าว ต่อมาทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำรถยกมาทำการดึงตู้คอนเนอร์ออกจากถนนเพื่อ เพื่อเร่งระบายรถที่ติดยาวสะสมจำนวนมาก โดยยังปล่อยในส่วนของตัวรถให้อยู่ในร่องกลางไปพลางก่อน เนื่องจากไม่กีดขวางการจราจร และจะมายกขึ้นในรุ่งเช้า ให้มีแสงสว่างที่เพียงพอเสียก่อน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนนั่นเอง.
แสดงความคิดเห็น