จากเหตุการณ์ช็อกวงการบันเทิง นักแสดงสาว "แตงโม" ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ กินยานอนหลับเกินขนาดหวังฆ่าตัวตาย หลังอดีตแฟนหนุ่ม "โตโน่" ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ประกาศ "โสด" กลางเวทีคอนเสิร์ต แต่โชคดีเพื่อนสนิทนำตัวส่ง รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น ให้แพทย์ล้างท้องช่วยชีวิตได้ทัน
สาวแตงโมได้ออกมาแถลงข่าวเปิดใจยอมรับว่าคิดสั้นขาดสติ ที่กินยานอนหลับเกินขนาดไปเพราะไม่อยากรับรู้อะไร พร้อมกล่าขอโทษทุกคนที่รักแตงโม โดยเฉพาะ "คุณพ่อโสภณ พัชรวีระพงษ์" เนื่องจากขาดสติ ขณะที่กระแสข่าวดังกล่าวทำให้คนบันเทิงแสดงความเห็นใจกับความรักของทั้งสอง และไม่อยากให้แฟนคลับออกมาต่อว่ากันโดยโยนความผิดให้กันต่าง ๆ นานา ดังที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 17.15 น. วันที่ 8 ก.ค. โตโน่ ภาคิน นักร้องชื่อดัง ก็ได้แถลงข่าวเปิดใจที่ตึกจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ว่า ความรู้สึกหลังจากแตงโมออกมาแถลงข่าวนั้น ดีใจที่แตงโมปลอดภัย ตนโทรฯไปคุยกับ ผจก.ของโมและคุณพ่อ
ก่อนหน้านี้เวลาทะเลาะกันก็มีบ้างเป็นเรื่องธรรมดา หลังเลิกกันก็ไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้น เห็นภาพจากข่าวและอินสตาแกรม รู้สึกเป็นห่วง จริง ๆ แล้ว มันเป็นเรื่องที่เริ่มมาจากความรัก เป็นเรื่องที่ย้อนเวลากลับไปก็จะรัก แต่พอวันหนึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าจบลงอย่างที่ไม่ตั้งใจแล้วไม่สวยงามอย่างที่ตั้งใจ ไม่ว่าใครก็คงไม่มีความสุข
นักร้องหนุ่ม กล่าวอีกว่า สาเหตุมาจากผมขอโทษครับ ไม่ว่าอะไรที่กระทบใจใครก็ตาม หรือตัวโม ผมผิดเองผมขอโทษ สองเดือนที่ผ่านมาตกลงว่าเลิก มีการพูดคุยกับพ่อของโม และแม่ของตนแล้ว สถานะตอนนี้เลิกกันแล้วครับ ส่วนข้าวของก็ยังอยู่ครับ โมเป็นฝ่ายที่ยังไม่ให้เอาของออกไป ตนเคยพูดว่าจะรักกันจนวันตาย ในคลิป
ส่วนในไลน์ที่เห็นนั้น เป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว สาเหตุมาจากอะไรความรู้สึกจากอะไรให้พ่อแม่ได้รับรู้ ตอนนี้ผมยังนับถือศาสนาคริสต์ คนมีสิทธิ์เลือกศรัทธาศาสนาไหนก็แล้วแต่ตัวบุคคล สำหรับสาเหตุหลักที่เลิกกันนั้น ตนว่าไม่ต้องพูดถึงดีกว่า เพราะไม่มีประโยชน์ ไม่ต้องการให้ใครมาเข้าใจตนมากขึ้น สงสารตนแล้วว่าโม หรืออะไรทั้งนั้น ส่วนเรื่องกระแสที่ว่าตน ตนเข้าใจ และอยู่กับมันได้
สำหรับกระแสแฟนคลับว่าโยนข้าวของออกจากบ้านโมนั้น ไม่จริง 2 ปี ที่ผ่านมา เรารักกันมากขนาดไหน มันมากกว่าชื่อเสียงเงินทองที่ผมมี ดังนั้นผมไม่ต้องการให้ใครขุดคุ้ยเรื่องใครทำอะไรไม่ดี แต่หากเลิกกันอยากให้คนอวยพรให้เรามีชีวิตที่ดีกว่า
เรารู้อยู่แล้วว่า คบกันก็โดนด่า เลิกกันก็โดนด่า ในเมื่อเรารักกันแล้วโดนด่า ก็อยู่ที่เราจะอยู่กับมันแค่ไหน ทุก ๆ ครั้งที่คบกันมา โมคือคนในครอบครัวผม ผมไม่เคยคิดที่จะทำร้ายโม ครั้งนี้ก็เหมือนกัน
การที่ผมมาพูด มันก็เป็นเรื่องที่่ไม่ดี แต่ก็ต้องพูด ไม่มีใครหรอกครับ ที่เราจะไม่คุยกันก่อนเดินแยกทางกัน ส่วนเรื่องให้บล็อกไอจีนั้น หากเค้าให้บล็อกผมก็บล็อก
นักข่าวถามว่า อยากให้กลับไปเป็นคำตอบสุดท้าย จะทำอย่างไร นักร้องหนุ่มกล่าวว่า ผมกลับไปได้แต่ไม่ใช่ฐานะเดิม คุยกันได้ เราต้องไม่ลืมหัวอกคนเป็นพ่อ-แม่ มีหลายอย่างที่เราต้องดูแล ในตอนเป็นครอบครัวเดียวกัน เค้าคือผู้หญิงที่เรารักที่สุดในชีวิต ตอนนี้เราเลิกกันไป ผมอยากทำให้คนในครอบครัวมีความสุข ผมไม่อยากให้ใครเห็นผมอ่อนแอ ผมจำเป็นต้องเข้มแข็งไม่อ่อนแอ เพื่อให้คนข้าง ๆ เข้มแข็งด้วย คุณแม่ เลี้ยงผมมา ผมต้องดูแลหัวใจและความรู้สึกของท่าน ผมภูมิใจทุกวันนี้ว่าผมเคยรักผู้หญิงคนนี้ ทุกสิ่งไม่ควรกล่าวว่าใครเป็นอะไรอย่างไร
ในคอนเสิร์ต ที่พูดนั้นไม่ใช่สคริปต์ เรามีสมาธิในวินาทีนั้น ฮอล์นั้น แต่พอคิดถึงความรู้สึกของเค้า แล้วมีเสียงเฮ อะไรยังนั้นด้วย ผมผิดครับ เวลาเกิดอะไรขึ้นมาแล้วกระทบความรู้สึกของเค้าแล้ว เราต้องคัดกรอง ดังนั้นเรื่องนี้ผมผิดเอง เป็นเรื่องธรรมดาที่เราศึกษากันทั้งเรื่องดีและไม่ดี แต่ตลอดเวลาที่เราคบกันแล้ว ไม่เคยมีคำพูดไหนของพ่อโมและแม่ผม บั้นทอนหัวใจพวกเราเลย ท่านเป็นกำลังใจมาโดยตลอด
เรื่องเคลียร์กันให้จบนั้น เคลียร์กันนานแล้ว ส่วนที่โมจะทำทุกวิถีทางให้ตนกลับมารักนั้น ขอบอกว่า ในตอนที่เรามีโอกาสจับมือกัน ทำให้ดีที่สุด เข้าใจกันให้ได้มากที่สุด วันนี้มันเลยขั้นนั้นแล้วที่จะกลับไป ฝากบอกโมด้วยว่า ให้นึกถึงคนที่รักเค้าพ่อเค้าแฟนเค้า เพื่อน ๆ ให้รักคนกลุ่มนี้ให้มากๆ เราอยู่ตรงนี้มีหน้าที่ให้คนมีความสุข มันคืองานคือหน้าที่ของเรา ทำมันให้เต็มที่
ข่าวอื่นๆ

แสดงความคิดเห็น

 
Top