กว่า 16 ปี แล้ว ที่ คุณพ่อของพระเอกหนุ่ม“เอี๊ยง-สิทธา สภานุชาติ”ได้จากไป แต่ความรัก ความผูกพันที่เป็นสายสัมพันธ์ของพ่อลูก ก็ยังคงอิ่มเอมไปด้วยความทรงจำที่ประทับใจตลอดเวลา แต่ชีวิตของเอี๊ยงก็ไม่เคยขาดความอบอุ่น เพราะมีคุณแม่ ผู้เป็นทั้งพ่อและแม่ในคราเดียวกัน ถ่ายทอดความรัก คำสอนของพ่อให้จดจำไว้ในใจเรื่อยมา
วันนี้ เอี๊ยงก้าวมาไกลกว่าที่ตัวเองฝันไว้ จากนักร้องบอยแบนด์ วง “รูกกี้ บีบี” เติบโตจนเป็นพระเอกแถวหน้าของช่อง 8ล่าสุด กับผลงานเรื่อง“สุดแต่ใจจะไขว่คว้า”ละครน้ำดี ที่ตีแผ่สถาบันครอบครัวในทุกด้าน และวันนี้ เราจะไปพูดคุยกับหนุ่มเอี้ยงถึงความรักความผูกพันของพ่อลูก แม้วันนี้ท่านได้จากไปแล้ว
ทราบมาว่าคุณพ่อ เอี๊ยงเสียไปแล้ว ?
“คุณพ่อผมเสียไปตั้งแต่ ตอนผมประมาณ 9 ขวบ แต่ตอนเด็กสนิทกับพ่อมาก เพราะพ่อเขาจะพาเราไปเที่ยวมากกว่าแม่ เพราะรู้ที่เที่ยวมากกว่า แล้วก็ขับรถเป็นบางครั้งก็ไปกันสามคนพ่อแม่ลูกบ้าง แม่ไม่ว่างก็ไปกับพ่อสองคน พ่อก็จะคอยสอนเรา ชี้นั่นชี้โน่นให้เราได้เรียนรู้ อันนี้อ่านว่าอะไร แปลว่าอะไร ความจำค่อนข้างจะขาดหายไปพอสมควร เพราะนานมาก แต่ที่พอจำได้แม่น ๆ คือ พ่อพาเราไปดูขบวนเสด็จที่ราชดำเนิน พ่อก็ให้เราขี่คอ พ่อเป็นคนที่สูงมาก เราดีใจมากเพราะเราได้ดูสูงกว่าใครซึ่งเป็นความทรงจำที่ดีมากครับ
ส่วนคำสอนของพ่อ จริง ๆ พ่อผมเสียไปตั้งแต่ผมเด็กมาก เลยไม่ค่อยได้สอนอะไรมากเกี่ยวกับชีวิต ส่วนมากจะสอนอะไรที่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น พ่อจะพูดเสมอว่าเวลาไปไหน ให้มองกลับเหลียวหลัง ให้รอบคอบ ให้ดูซ้ายดูขวาคำสอนของพ่อก็จะดังขึ้นมาในหัวทันทีผมก็จะไม่ค่อยลืมอะไร ผมเชื่อว่า ความรัก ความหวังดีของพ่อทุกคน ที่คอยพร่ำสอน คอยดุ คอยเตือนเรา คือความปรารถนาดีที่อยากให้เราเติบโตไปเป็นคนดีของครอบครัว ของสังคม และในวันที่เราประสบความสำเร็จ ไม่ว่าพ่อเค้าจะอยู่ด้วยหรือไม่ก็ตาม เค้าจะต้องภูมิใจอย่างแน่นอนครับ”
เวลาคิดถึงพ่อได้ทำอะไรให้พ่อบ้าง?
“วันเสียพ่อ ก็จะไปทำบุญครบรอบที่โรงพยาบาลสงฆ์ เขาก็จะให้ถวายของ ถวายปัจจัย เราก็สวดมนต์ให้ เอารูปไปรูปหนึ่ง เอาดอกไม้ไปให้ ก็เหมือนเราได้ทำบุญให้วันที่พ่อเสียในวันนี้ แต่ผมเวลาจะทำอะไรก็จะคอยนึกถึงพ่ออยู่แล้วเสมือนเป็นกำลังให้กันและกัน”
คิดว่าตัวเราเองมีอะไรที่คล้ายพ่อ?
“ไม่รู้ว่าเหมือนจริงไหม แต่แม่จะคอยบอกว่าเวลาผมเดินมักจะเดินเหมือนพ่อ การทำหน้าเวลาไม่ชอบอะไร ก็จะไม่ชอบเหมือนกันเลย อย่างเช่น ไม่ชอบคนเยอะ มีความเป็นส่วนตัวประมาณนึง ซึ่งแม่ก็บอกว่าเหมือนกัน”
ขอกลับมาคุยเรื่องงานนิดหนึ่ง ได้ข่าวปีหน้าจะถ่ายเซ็กซี่?
“มีแน่นอนครับ ตอนนี้ก็เร่งฟิตหุ่นอยู่ แต่คงไม่ถ่ายเซ็กซี่มาก อาจจะแค่ถอดเสื้อ ไม่ถึงขั้นกางเกงว่ายน้ำ (หัวเราะ) ผมอยากถ่ายแนวสุขภาพมากกว่า อยากให้ทุกคนหันมาออกกำลังกาย ดูแลตัวเองกันมากขึ้น ได้ทั้งหุ่น ได้ทั้งสุขภาพ ผมมองว่ามันคุ้มนะ แต่จะถ่ายทั้งที ก็อยากให้หุ่นออกมาดูดีที่สุด เพราะรูปมันต้องอยู่กับเราไปอีกนานไหน ๆ จะถ่ายทั้งที เอาให้ดีไปเลยดีกว่าครับ”
แล้วในเรื่องของการแสดงคิดว่าตัวเองเก่งหรือยัง หรือ ยังขาดอะไร?
“ยังไม่เก่งเลย ยังต้องเรียนรู้อีกหลายอย่าง อยากพัฒนาตัวเองในบทบาทที่ยังไม่ได้เล่น บทร้าย บทที่มีความซ้ำซ้อนตัวเอง
มาก ๆ แต่อย่างที่เล่นมาก็ยากนะ แต่มันเป็นพื้นฐานของความเบสิกเป็นปมเรื่องความรัก เรื่องครอบครัว อย่างล่าสุด สุดแต่ใจจะไขว่คว้า ผมว่าเป็นการพัฒนาฝีมือมาก ดราม่าเกี่ยวกับครอบครัวที่ไม่เห็นคุณค่าของเรา ซึ่งมันยากมากกว่าที่เราเศร้าเรื่องคนรักมองไม่เห็นคุณค่า”
คนมองว่าเป็นพระเอกหน้าซ้ำ?
“ผมเล่นละครมา 3 เรื่องที่ออกอากาศในปีนี้ อาจจะเห็นหน้ากันบ่อยนิดนึง (หัวเราะ) ก็แล้วแต่คนมองส่วนตัวผมไม่รู้สึกอะไร เราก็ทำงานของเราให้เต็มที่ ผู้ใหญ่ให้โอกาสมาเราก็ทำเต็มที่ อย่ามองหน้าซ้ำเลย เพราะแต่ละเรื่องบทบาทก็แตกต่างกันไปครับ”
ขอถามเรื่องความรักเสียหน่อย ตอนนี้มีคนรู้ใจหรือยัง?
“โสดสนิท (หัวเราะ) ครับช่วงนี้ทำงานหนักมาก 7 วันเต็ม ๆเวลาออกกำลังกายยังไม่มีเลยผมก็เลยมองว่าอย่ามีดีกว่า บางวันกลับบ้านไปยังไม่เจอแม่เลยนะ เพราะแม่นอนแล้ว ตอนเช้าเราก็ต้องไปกองละครแต่เช้าอีก มีแฟนคงต้องทะเลาะกันแน่ ๆ (หัวเราะ) ส่วนเรื่องสเปก ผมชอบผู้หญิงหุ่นดี รอยยิ้มมีเสน่ห์ คือ มองแล้วโลกสดใส”
แล้วกับนางแบบสาวเวียดนาม ที่มีข่าวออกมา?
“เป็นเพื่อนกันครับ ต่างคนต่างอยู่ไกลเป็นเพื่อนกันดีกว่า และผมเองก็ไม่คิดว่าตัวเองหล่อเลือกได้อะไรเลยนะแต่เราก็อยากคบ
ยาว ๆ เจอที่ใช่จริง ๆ ก็ว่ากันครับสำหรับเรื่องความรัก ผมไม่รีบ”
เชื่อว่า คุณพ่อจะมองดูความสำเร็จของหนุ่มเอี๊ยงอย่างภาคภูมิใจแน่นอน และก็ขอเป็นกำลังใจให้กับลูกทุกคน ที่วันนี้จะมี หรือ ไม่มีพ่ออยู่เคียงข้าง แต่พ่อจะอยู่ในใจเราเสมอ.
กาญจนา สิทธิเม่ง รายงาน
แสดงความคิดเห็น