รายงานข่าวจากจังหวัดภูเก็ตแจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 มกราคม เวลาประมาณ 23.30 น. พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผกก.สภ.กะทู้ เป็นผู้อำนวยการและมอบหมายสั่งการให้ พ.ต.ท.สรพงษ์ ชูแก้ว รอง ผกก.สส.ฯ นำโดย พ.ต.ท.สุทธิชัย เทียนโพธิ์ สว.สส.สภ.กะทู้ ตรวจสอบคลิปวิดีโอ ซึ่งปรากฏภาพของหญิงสาวชาวต่างชาติ ร่างกายส่วนด้านบนเปลือยกาย ไม่มีเสื้อผ้าปกปิด และโหนตัวเองออกมาภายนอกทางหน้าต่างของรถยนต์ในลักษณะอนาจารต่อบุคคลที่ขับขี่รถในเส้นทางในพื้นที่ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้จังหวัดภูเก็ต ในระหว่างการฉลองงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่โดยมีผู้ใช้ขื่อว่า Thawatchai Reemnok โพสต์คลิปความยาว 48 วินาที ในเพจ "ขับรถแบบนี้ต้องประจาน ภูเก็ต" และมีการติดตามไลค์แสดงความคิดเห็นและแชร์ภาพวิดีโอใน facebook อย่างแพร่หลายและในที่สุดตำรวจภูธรกะทู้สามารถสืบสวนจับกุม ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในเรื่องนี้ได้
ทั้งนี้ ร.ต.อ.ไพโรจน์ ธนพรรณาธร พร้อมชุดสืบสวน สภ.กะทู้ ปฏิบัติหน้าที่เวรสืบสวนดำเนินการสืบสวนตามรอยคลิปวิดีโอนี้อย่างละเอียด และตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ และสถานที่เกิดเหตุที่ปรากฏตามคลิป พบว่าอยู่ที่บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาป่าตอง ถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และคลิปนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2559 เวลาประมาณ 21.00 น.
ตรวจสอบรถยนต์แล้วพบว่าเป็นรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ป้ายทะเบียนภูเก็ต ผู้ครอบครองรถ คือ นาย BRIAN MCKEEVER PHILLIP พักอาศัยอยู่ที่ จ.ภูเก็ต จึงได้ติดต่อให้มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบถามบุคคลที่ใช้รถในวันเกิดเหตุ และทราบว่ารถยนต์คันนี้เป็นรถยนต์ของมาลีวิลล่า ที่เป็นที่พักให้บริการนักท่องเที่ยว และจะมอบให้คนที่มาพักใช้
สำหรับในช่วงเวลาเกิดเหตุ ได้มอบให้ นาย CHARLIE ROBERTS ที่มาพักที่มาลีวิลล่า เป็นผู้นำไปใช้ จึงได้ติดตามมาสอบถามทราบว่า ในวันเกิดเหตุ มีเพื่อนไม่ทราบว่าเป็นใคร เพราะรถยนต์คันนี้ใช้กันหลายคนในหมู่เพื่อนฝูงที่มาด้วยกัน และทราบว่าภาพของบุคคลที่ปรากฏตามคลิป คือนางสาว MARTIN ADRIANNA สัญชาติสหรัฐอเมริกา อายุ 20 ปี มีผมสีทอง อยู่ภายในรถด้านซ้ายฝั่งคนนั่งข้าง และนางสาว PRYMANN CAMILLE CHARLOTTE สัญชาติออสเตรีย อายุ 25 ปี มีผมสีดำ อยู่ภายในรถด้านขวามือ ด้านหลังคนขับ
ชุดสืบสวนจึงติดตามตัวนางสาว MARTIN ADRIANNA และนางสาว PRYMANN CAMILLE CHARLOTTE มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทั้งสองทราบว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและต้องหาว่า "กระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล" จึงทำการเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 500 บาท และได้อบรมว่ากล่าว และประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงขนบธรรมเนียมและวิถีปฏิบัติที่ดีของคนไทย โดยนักท่องเที่ยวทั้งสองคน ได้รับสารภาพและเข้าใจโดยดี จึงได้เดินทางกลับไป
แสดงความคิดเห็น