© สนับสนุนโดย Daily News
จากกรณี ทันตแพทย์เผด็จ พูลวิทยกิจ โพสต์เฟซบุ๊กระบายความในใจหลังถูก ทันตแพทย์สาวรายหนึ่ง ขอให้เซ็นค้ำประกันเงินทุนของมหาวิทยาลัยชื่อดัง แต่ภายหลังกลับไม่ยอมเดินทางมาทำงานให้กับทางมหาวิทยาลัย เพื่อใช้ทุนดังกล่าว ส่งผลให้ ทันตแพทย์เผด็จ และพวกอีก 4 คนที่เป็น รุ่นพี่ของ ทันตแพทย์สาว และ อาจารย์อีก 2 ท่านของ ทันตแพทย์สาว ต้องร่วมกันชดใช้เงินค่าปรับกว่า 31 ล้านบาท โดยทางกลุ่มผู้ค้ำประกันได้สู้คดี และร่วมกันชดใช้เงินไปทั้งหมด 8 ล้านกว่าบาท หลังจากถูกฟ้องร้องจนคดีสิ้นสุดไปแล้ว ขณะที่ทันตแพทย์สาว กลับไปใช้ชีวิตแต่งงานอยู่กันกับสามี ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีฐานะทางการเงินที่ดี และไม่สนใจเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมตั้งทนายความขู่ ไม่ให้ทวงค่าปรับอีก เนื่องจากเห็นว่าไม่เป็นธรรม มิเช่นนั้นจะฟ้องกลับกลุ่มคนที่ทวงเงินดังกล่าว ทำให้โลกโซเชียลและบุคคลที่ทราบข่าว ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงความไม่เป็นธรรม และต้องการให้ ทันตแพทย์สาว ชดใช่เงินคืน ดังที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเพจเฟซบุ๊กของ ทันตแพทย์เผด็จ พูลวิทยกิจ "เผด็จ พูลวิทยกิจ" ได้มีกลุ่มประชาชนที่อ้างว่า อยู่ในประเทศสหรัฐ ได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว เข้ามาโพสต์ข้อความให้กำลังใจ ทั้งยังมีการแจ้งข่าวทำนองว่า แม้ทางต้นสังกัดที่ ทันตแพทย์สาว คนดังกล่าวทำงานวิจัยอยู่จะอ้างว่าไม่สามารถเอาผิด ทันตแพทย์สาว รายนี้ได้ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัวนั้น ก็ใช่ว่าทางกลุ่มบุคคลในสังกัดองค์กรเดียวกันจะเห็นดีงามด้วย โดยเฉพาะด้านจริยธรรม หลายฝ่ายเริ่มหาทางเคลื่อนไหวกดดัน ทันตแพทย์สาวคนดังกล่าวแล้ว ความคืบหน้าจะได้แจังให้ทราบต่อไป
สำหรับเรื่องราวของ ทันตแพทย์สาว รายนี้ สืบเนื่องเมื่อปี 2536 ขณะที่ ทันตแพทย์เผด็จ ทำงานเป็นข้าราชการกระทรวงสาธารณะสุข ได้มีเพื่อนมาชักชวนให้ช่วยเซ็นค้ำประกันให้ ทันตแพทย์สาว เพื่อให้ไปเรียนต่อปริญญาโท ยังสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศสหรัฐฯ จากนั้นจะได้กลับมาชดใช้ทุนให้กับทางมหาวิทยาลัย ที่ทันตแพทย์สาวสังกัดอยู่อีกครั้ง โดยทันตแพทย์เผด็จ เห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าเชื่อถือ เพราะมีเพื่อนที่ชักชวนเป็นรุ่นพี่ของทันตแพทย์สาวรายนี้ ประกอบกับ อาจารย์ของทันตแพทย์สาว ช่วยเซ็นรับรองค้ำประกันด้วยอีก 3 ราย
ภายหลัง ทันตแพทย์สาวดังกล่าว เรียนจนสำเร็จปริญญาโทแล้ว แต่กลับไม่ยอมกลับมาทำงานชดใช้ทุน แถมยังเรียนต่อปริญญาเอกจนจบ ทำให้เลยเวลาที่กำหนดการชดใช้ ส่งผลให้กลุ่มผู้คำประกันต้องชดใช้เงินแทน และโดนฟ้องร้องเรียกค่าปรับเป็นเงินสูงถึง 31 ล้านบาท จนมีการไกล่เกลี่ยเหลือให้ชดใช้เงินกว่า 8 ล้านบาททันทีมิเช่นนั้นจะต้องถูกยึดทรัพย์ ทำให้กลุ่มผู้ค้ำประกันต้องไปกู้หนี้ยืมสิน มาใช้เงินแทน
ขณะที่ฝ่าย ทันตแพทย์สาว ยอมจ่ายเงินช่วยบางส่วน และส่งมาครั้งสุดท้ายคือเงินจำนวน 50,000 เหรียญสหรัฐ แต่ก็ไม่เพียงพอ ต่อหนี้สินที่ถูกฟ้องร้อง จากนั้นทันตแพทย์สาวได้ตั้งทนายว่าความ ระบุไม่ให้กลุ่มผู้ค้ำประกันติดต่อกลับไปขอเงินอีกเพราะอ้างว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมที่ต้องจ่ายเงินมากเกินไป สุดท้ายทาง ทันตแพทย์เผด็จ จึงได้โพสต์ข้อความระบุความในใจผ่านทางเฟซบุ๊ก จนมีการสอบถามเรื่องราวและข้อเท็จจริงจากสื่อสังคมออนไลน์ และสื่อมวลชนต่าง ๆ ดังกล่าว ซึ่ง ทันตแพทย์เผด็จ ระบุว่า ต้องการให้เป็นอุทาหรณ์ของคนที่จะเซ็นการค้ำประกันทุนต่อไปนั่นเอง.
ขอบคุณภาพ และข้อมูล จากรายการ "เจาะข่าวเด่น" ช่อง 3 , สำนักข่าวอิศรา และเพจเฟซบุ๊ก "เผด็จ พูลวิทยกิจ"

แสดงความคิดเห็น

 
Top