''หมวย แม็กซิม'' ซวย ถูกแก๊งมิจฉาชีพอ้างชื่อร่วมแก๊งหลอกเหยื่อโอนเงินสูญนับล้าน เจ้าตัวลั่นพร้อมพิสูจน์ความจริง แฉคนร้ายแล้วเป็นคนที่เคยมาทำตัวตีสนิทเป็นแฟนคลับ หลังถูกขู่ทำร้ายร่างกายจนเครียดจัดกินไม่ได้นอนไม่หลับ ส่งผลกระทบเรื่องงานไม่กล้าออกจากที่พัก
เรียกว่าซวยซ้ำซวยซ้อนก็คงจะไม่ผิด สำหรับเรื่องราวของสาวเซ็กซี่ที่ชื่อว่า ''หมวย'' พิลาวรรณ อารีรอบ อดีตสาวแม็กซิมปี 2010 ที่ก่อนหน้านี้ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ประสบปัญหาชีวิตความรักกับอดีตแฟนหนุ่มแบดบอย ฮาเวิร์ด หวัง จนถึงขั้นต้องขึ้นโรงพักกันหลายรอบ
ล่าสุดเจ้าตัวโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว เตือนภัยให้คนทั่วไปรู้ถึงพฤติกรรมแก๊งมิจฉาชีพที่อ้างชื่อของตัวเอง ''หมวย แม็กซิม'' หลอกให้โอนเงิน จนมีเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินนับล้านบาทให้แก๊งมิจฉาชีพ กระทบถึงครอบครัวเหยื่อถึงขั้นบ้านแตกสาแหรกขาด งานนี้เมื่อผู้สื่อข่าวทราบเรื่อง จึงได้ต่อสายตรงหานางแบบสาวทันที โดนหมวยได้เปิดใจแฉเรื่องราวที่เกิดขึ้น ให้ผู้สื่อข่าวฟังจนหมดเปลือก โดยเล่าว่าเหตุการณ์อภิมหาต้มตุ๋นในครั้งนี้นั้น ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อมีภรรยาของเหยื่อรายหนึ่งติดต่อเธอมา และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งทีแรกก็เข้าใจว่าเป็นเธอเต็มประดา
''คือมีคนส่งข้อความมาหาหมวยในเฟซประมาณว่า หมวยไปยุ่งกับสามีเขา แล้วเอาเงินของครอบครัวเขาไปทำให้มีปัญหากัน และเขาก็ให้เบอร์โทร.มา คือก่อนหน้านี้จริงๆ เขาไม่ได้ส่งหาหมวยโดยตรง แต่เขาส่งหาเพื่อนหมวย แล้วก็ให้เบอร์มา 3 เบอร์ พร้อมกับถามเพื่อนหมวยว่า เบอร์เหล่านั้นเป็นเบอร์หมวยหรือเปล่า แล้วทีนี้เพื่อนถึงเอาเบอร์มาให้หมวย''
''หมวยก็ได้ติดต่อเพื่อคุยกับเขา แล้วก็บอกเขาว่า เราไม่รู้จักแฟนเขา ไม่เคยเอาเงินแฟนเขา เขาก็ส่งคลิปเสียงของผู้หญิงที่อ้างว่าเป็นหมวยมาให้หมวยฟัง รวมทั้งเอกสารการโอนเงิน ซึ่งมันไม่ใช่บัญชีของหมวย ซึ่งเราเองก็ไปย้อนดูชื่อนี้ มันเป็นชื่อของผู้หญิงคนนึงที่ปลอมมาเป็นแฟนคลับหมวย เบอร์ที่เขามาให้เราดู 3 เบอร์ ก็เป็นเบอร์ของผู้หญิงคนนี้ เขามาตีสนิทกับหมวยเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา เวลาเราไปออกงานก็จะมาถ่ายรูปเรา อัดวิดีโอบ้าง แอบถ่ายเวลาเราทำงาน ซึ่งเขาเองคงเอารูปหมวยไปหลอกผู้ชายว่า เขาน่ะเป็นหมวย เขาเคยไปทำบุญกับหมวยช่วงหมวยเกิดเรื่อง ทำบุญโรงพยาบาลสงฆ์ ทำบุญบ้านเด็กกำพร้า หมวยก็ปะติดปะต่อเรื่อง แต่ทางคนที่สามีเขาโดนหลอกยังไม่เชื่อ ก็เลยนัดเจอกันที่โรงพักแล้วก็แจ้งความกัน เอาเสียงมาเทียบกันว่า เสียงในโทรศัพท์ที่เขาอัดไว้เป็นคนละคน ล่าสุดก็รู้ตัวคนทำแล้วค่ะ เขาเองก็สารภาพแล้ว''
หมวยยังเล่าอีกว่า เหยื่อของแฟนคลับจอมปลอมรายนี้ ไม่น่าจะมีเพียงแค่ 1 คน เพราะล่าสุดเพิ่งมีผู้ชายที่ตกเป็นเหยื่อโทร.มาคุยกับหมวย และเล่าให้ฟังว่าถูกหลอกเหมือนกัน
''อย่างวันนี้ก็มีคนที่เป็นเหยื่ออีกรายโทร.มา แต่คนนี้ฉลาดหน่อย ไหวตัวทัน พยายามเช็กข้อมูลของผู้หญิงคนนั้น พยายามนัดเจอ ซึ่งตอนหลังเขาก็รู้ว่าเราอยู่คนละที่กับผู้หญิงคนนั้น คือพบว่าคนที่ว่านั้นอยู่ที่พัทยา แต่หมวยอยู่กรุงเทพฯ รายนี้เขาโดนไป 8 หมื่น แต่เขารู้ตัวมาได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว''
''กระทั่งเมื่อวานนี้หมวยโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง เล่าให้ฟังว่า กำลังมีมิจฉาชีพเอาชื่อหมวยไปอ้างว่ามีคนเสียเงินไป 1.7 ล้านครอบครัวแตกแยก ถึงขั้นขายเลือดตัวเอง และกำลังคิดจะขายไตเพื่อนำเงินมาให้คนที่อ้างว่าเป็นหมวย ซึ่งเขาคนนั้นเมื่อรู้ว่าไม่ใช่เรา ก็ถึงกับช็อกไปเลย ซึ่งหมวยคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง แต่คุยกับภรรยาเขา ซึ่งภรรยาก็รู้แล้ว''
นางแบบสาวยังได้เล่าอีกว่า ขณะนี้ตนนั้นถูกภัยมืดคุกคาม เพราะโดนแฟนคลับตัวปลอมที่ว่านั้น ขู่ว่าจะส่งคนมาทำร้าย โดยส่งข้อความผ่านมาทางผู้ชายที่โดนเขาหลอก ซึ่งตอนนี้หมวยก็กลัวมาก
''คนร้ายเขารู้แล้วว่าเรื่องแดง เขาก็ขู่เรามาผ่านทางผู้ชายที่ตกเป็นเหยื่อ โดยบอกว่าจะส่งคนมาตามมาทำร้ายเรา เพราะเขารู้จักบ้านเรา เพราะผู้ชายที่ตกเป็นเหยื่อขณะนี้เขายังคุยกับทางคนร้ายอยู่ เพราะต้องการเงินคืน โดยเขามีเงื่อนไขกับทางนั้นว่า จะไม่แจ้งความ จะไม่ฟ้องร้อง ซึ่งเท่าที่ทราบทางคนร้ายเองก็อ้างว่าไม่มี พร้อมกับยอมรับว่าเขาเป็นคนทำแล้วใครจะทำไม''
''เขาโมโหหมวยมาก เพราะหาว่าหมวยไปโพสต์ประจานเขาในเฟซ ซึ่งหมวยไม่ได้ระบุชื่อ แต่โพสต์เพื่อเตือนคนให้รู้ว่าใครที่คุยกับผู้หญิงที่อ้างว่าเป็นหมวย แล้วหลอกให้โอนเงินนั้น ไม่ใช่หมวยแน่นอน หมวยทำงานเองหาเงินเอง และหมวยไม่เคยขอเงินใคร ไม่เคยให้เบอร์ใครหรือพูดคุยกับใครผ่านเฟซ หมวยใช้คุยเรื่องงานหรือคุยกับแฟนคลับเท่านั้น ที่โพสต์ข้อความลงไปในเฟซและหลักฐานทางบัญชี ก็ไม่ได้มีชื่อ แต่มีแค่ตัวเลขเท่านั้น''
หมวยยังเล่าถึงมิจฉาชีพตัวแสบว่า แอบแฝงเข้ามาช่วงที่ตนนั้นประสบปัญหาก่อนหน้านี้ โดยชวนตนไปทำบุญ ตนจึงเห็นว่าเป็นคนใจดี จึงไม่ได้สงสัยอะไร
''เมื่อต้นปีที่มวยเข้าโรงพยาบาลมีปัญหา พอเดือนมีนาฯ ผู้หญิงคนนี้ก็คุยกับหมวยในเฟซว่า ตัวเองแท้ง อยากทำบุญให้ลูกเหมือนกัน อย่างหมวยไปงานอีเวนต์ไหนเขาก็จะตามไป เจอแทบจะทุกงานจนเริ่มสนิท ผู้หญิงคนที่ว่านี้อายุประมาณ 27 รูปร่างจะอ้วนมากๆ เลย เราก็สงสารเขา เขาเหมือนว่าจะเลือกเหยื่อก่อน และดูว่านางแบบคนไหนเข้าถึงตัวง่าย เขาก็จะสวมเป็นคนนั้น โดยเอาข้อมูลทุกอย่างจากเฟซของเรา ล่าสุดก็เหมือนทางนั้นพยายามจะซัดทอดว่าหมวยอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเราก็ไม่กลัว หนูก็พร้อมจะพิสูจน์ อย่างคนแรกที่โดน พอเขารู้ว่ากับหมวยเป็นคนละคน ก็หาว่าเป็นแก๊งเดียวกัน หนูก็เลยบอกว่าไปแจ้งความด้วยกัน เพราะเราก็เสียหายเหมือนกัน เพราะโดนแอบอ้างชื่อ ก่อนหน้านี้ที่เราไม่บอกพี่ๆ สื่อ เพราะเราก็มองหลายๆ ด้าน เหตุผลนึงหมวยคิดว่าชื่อของเรานั้นติดลบอยู่แล้ว แต่อีกทางถ้าเราไม่บอก ก็อาจจะมีคนตกเป็นเหยื่ออีก''
เมื่อถามว่าจะทำยังไงต่อไป นางแบบสาวก็ตอบว่า ทีแรกตนจะไปแจ้งความ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าเราไม่ได้เป็นคนเสียหาย ให้คนที่เสียหายไปแจ้งที่ท้องที่ที่เกิดเหตุการโอนเงิน ซึ่งคือ สน.เตาปูน แต่พอไปถึงตำรวจก็ไม่ได้รับแจ้งความ ลงแต่บันทึกประจำวันไว้อย่างเดียว โดยบอกว่าการให้ที่เกิดขึ้น เป็นการให้โดยเสน่หา ต้องไปเคลียร์กันเอง เพราะก่อนหน้านี้พอตำรวจถามถึงสาเหตุของการโอนเงินไป ผู้เสียหายเขาบอกว่าต้องการจะร่วมหลับนอนกับคนที่เขาคุยด้วย ซึ่งเขานึกว่าเป็นหมวย เท่าที่ตนทราบเนื้อหาที่เขาคุยกัน ก็จะมีแต่เรื่องเซ็กซ์
นอกจากนี้ สาวหมวยยังได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังอีกว่า เพื่อนนางแบบของตนหลายคน ก็เริ่มถูกแอบอ้างเหมือนตน
''อย่าง น้องทิพย์ โจลี่ น้องยุ้ย เพื่อนหนูหลายคน ก็เริ่มถูกแอบอ้าง หนูเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่โดน แต่ไม่กล้าออกมา เพราะกลัวภรรยารู้''
สุดท้ายนางแบบสาวตัดพ้อถึงความซวยของตนเองว่า ทุกวันนี้จะออกไปทำงาน ยังไม่กล้า เพราะกลัวจะเป็นไปตามคำขู่ของคนร้าย ส่วนจะแจ้งความอีกครั้ง ก็กำลังตัดสินใจผลได้ผลเสีย
''ทุกวันนี้คนร้ายมันรู้แล้วว่า ทุกคนรู้ แต่มันก็กลับมาขู่ทำร้ายหนู จะส่งคนมาประกบเรา หมวยต้องทำงาน เราเองก็ยังไม่รู้ว่าจะกล้าออกไปทำงานหรือเปล่า อย่าง รปภ. ก็เคยมาเล่าว่า มีคนมาหาเรา 2 คน เราอยู่คนเดียวเราก็กลัว ทีแรกวันนี้เราจะแจ้งความ แต่ผู้เสียหายรายที่ 2 เขาบอกว่าเราว่าอย่าแจ้งเลย เพราะถ้าแจ้งหมวยจะเดือดร้อนแน่ เพราะคนร้ายรู้แล้วว่าหมวยรู้ ทางนั้นก็ขู่มาแล้ว หนูเครียดมาก ยอมรับว่านอนไม่หลับมาเป็นอาทิตย์แล้ว หนูยืนยันว่าทุกอย่างเช็กได้ บัญชีเงินหนูมีอยู่ไม่กี่บาท หลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีก็ไม่ใช่ชื่อหนู ทางคนร้ายก็พยายามโยนให้มาว่าเราบงการ หนูพร้อมท้าพิสูจน์ทุกอย่าง และก็ไม่อยากให้คนต้องตกเป็นเหยื่อกับพวกมิจฉาชีพพวกนี้อีก ส่วนที่ว่าจะไปแจ้งความไหม อันนี้ต้องขอตัดสินใจอีกที''
ที่มา: สยามดารา
แสดงความคิดเห็น