ตกเป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการบันเทิงขึ้นมาทันที หลังจากเมื่อ ''เปิ้ล'' นาคร ศิลาชัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยมีข้อความว่า หลังได้รับแจ้งว่าไม่ต้องมาอัดรายการสาระแนแล้ว เหมือนถูกฟ้าผ่ากลางกบาล ไม่อยากเชื่อว่าจะมีวันนี้ ยังไม่ได้กล่าวลากับทีมงานทุกคน แต่ขอให้ทุกคนตั้งใจเดินหน้ากันต่อไป และตั้งใจทำงานให้ดี คนทำทีวี จิตใจต้องดี และรักคนดูให้มากๆ ทำเอาเหล่าแฟนๆ ที่เป็นคอรายการถึงกับตกอกตกใจ
โดยล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 ก.ย. 55 วิลลี่ แมคอินทอช ประธานบริษัท ลักษ์ 666 ได้เปิดโต๊ะแถลงข่าวที่ตึกลักษ์แซทเทิลไลท์ ทาวน์อินทาวน์ โดยเจ้าตัวได้ขอโทษไปยังเปิ้ล และยอมรับว่าตนรู้มาก่อน 2 สัปดาห์แล้วว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่มีโอกาสได้บอกอีกฝ่าย เพราะเป็นเรื่องที่ตนลำบากใจมาก
''เรื่องนี้ผมรู้ว่าพี่เปิ้ลเสียใจ เราทุกคนที่บริษัทก็เสียใจเหมือนกัน ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน ตอนที่พี่เปิ้ลตัดสินใจขอถอนหุ้น ผมก็บอกว่าโอเค พี่เปิ้ลก็ถามว่าถ้าจะให้พี่ช่วยเป็นพิธีกรสาระแนต่อไปเรื่อยๆ พี่ก็จะช่วย ผมก็บอกว่าได้ เพราะ ณ ตอนนี้ผมคงเปลี่ยนอะไรมากไม่ได้ในรูปแบบรายการ ก็เลยต้องรบกวนให้พี่มาช่วยก่อน และในวันจันทร์ที่ 17 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา เราอัดเทปรายการสาระแนเสร็จแล้ว ผมก็ทราบมาประมาณ 2 อาทิตย์แล้วเรื่องที่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการ และจะมีการเปลี่ยนพิธีกร แต่ผมยังไม่มีโอกาสได้เจอพี่เปิ้ล ครั้งสุดท้ายที่เจอก็คือถ่ายหนังโฆษณาด้วยกัน แล้วก็มาเมื่อวันจันทร์ การที่เรานั่งคุยกันหน้าสตูดิโอ แล้วบอกว่าพี่เปิ้ลครับ ถึงเวลาที่ผมจะไม่ต้องรบกวนพี่ในการมาทำรายการสาระแนให้อีกแล้ว เพราะผมก็รบกวนพี่มาประมาณ 1 ปีแล้ว หลังจากที่พี่เปิ้ลถอนหุ้นไป เป็นอะไรที่ผมและพี่เปิ้ลเองก็เสียใจ เราที่บริษัททุกคนเสียใจ มันมาถึงวันนึงที่ผมไม่รู้ว่า ทำไมต้องเกิดขึ้น แต่เราก็ต้องพัฒนารายการกันต่อไปเรื่อยๆ เราก็จะพยายามทำทุกคำพูดที่พี่เปิ้ลเขียนมาว่าจะทำรายการดีๆ ต้องรักคนดูก่อน ตัวผมเองก็ลำบากใจกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ การที่คำว่า ''ฟ้าผ่า'' ผมขอยอมรับผิดคนเดียวแทนบริษัทและทุกคน เป็นความผิดของผม เพราะจริงๆ ผมรู้เรื่องมา 2 อาทิตย์แล้ว แต่ผมไม่รู้ว่าจะคุยกับพี่เปิ้ลยังไง มันเป็นความลำบากใจเพราะเรารักและสนิทกันมา 15 ปี เมื่อมันมีวันเวลาที่ต้องไปพูด ผมในฐานะตัวแทนและตำแหน่ง ก็หาวิธีการว่าจะคุยกันยังไงดี''
ถามว่าทำไมถึงเลือกที่จะคุยวันนั้น?
''ก็อยากจะบอกว่าคุยวันไหนมันก็ไม่ดีทั้งนั้นละครับ วันนั้นที่ผมคุยกับพี่เปิ้ล พี่เปิ้ลก็เข้าใจนะ เพราะมันเป็นการตัดสินใจของส่วนรวมและต้องมีการพัฒนา ปรับรูปแบบรายการให้ดีขึ้น อันนั้นก็เป็นเรื่องของงาน ถามว่าเรื่องงานพี่เปิ้ลเสียใจไหม เสียใจ ผมก็บอกว่าขอโทษนะ แล้วถ้าผมเจอพี่เปิ้ลอีก ผมก็จะขอโทษอีกครั้ง เพราะคนเราอยู่กันมานานแล้วต้องปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงมันก็ลำบากมากครับ พอมาถึงจุดนึงคืองานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา แต่ชีวิตส่วนตัวของผมกับพี่เปิ้ลก็ยังเหมือนเดิม ผมยังคบหากับพี่เปิ้ลเป็นพี่น้องที่รักกันเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่ได้มีการทะเลาะกัน ตอนแรกผมไม่ได้นึกว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เพราะว่าการพัฒนารูปแบบรายการ ผมต้องทำในช่วงที่เขามีการเปลี่ยนผัง ถ้าเสนอแบบใหม่เข้าไปมันก็ต้องมีช่วงเวลา''
เป็นเพื่อนสนิทกันคบหากันมานาน ทำไมมีการยกหูโทรศัพท์หากันให้เตรียมตัวก่อน?
''ก่อนที่ผมจะพูดกับพี่เปิ้ล ผมเดินวนอยู่หลายรอบเหมือนกันนะก่อนที่จะพูดออก มันเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ง่ายๆ ซึ่งมันเป็นเรื่องเซนซิทีฟ ถ้าเกิดว่าไปคุยกันก่อนหน้านี้ รับรองว่าเทปที่อัดวันจันทร์มันจะเป็นเทปสาระแนที่เศร้าหมอง ผมเลยคิดว่าถ้าจะคุยกันก็ต้องคุยต่อหน้า ไม่ใช่ยกหูคุย''
เปิ้ลไม่เหมาะกับรายการสาระแนรูปแบบใหม่ยังไง?
''เป็นแค่การพัฒนาเฉยๆ ผมจะหาพิธีกรใหม่ๆ เด็กๆ เข้ามาเพื่อให้ต้องกับเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นเหมือนเดิมเท่านั้นเองครับ ตอนแรกผมก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ถ้าเป็นแบบนี้ผมก็ขอถอยเองให้เหลือ เปิ้ล-หอย ไว้ แล้วหาพิธีกรใหม่มาแทนผมก็จะดีกว่า ผมเองก็โดนปลดออกจากรายการทีวีมาเยอะ ก็เลยไม่ได้นึกว่าจะเป็นเรื่องใหญ่''
การทำงานกับ ''เสนาหอย-เกียรติศักดิ์'' ยังเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า?
''เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก่อนอัดรายการ ก็ยังถ่ายโฆษณาอยู่ด้วยกันครับ ในฐานะพิธีกรร่วมของสาระแน ก็คิดว่าพี่หอยก็ยังอยู่ครับ แต่ก็จะมีพิธีกรใหม่เข้ามาเสริม''
อยากฝากบอกแฟนๆ ของพี่เปิ้ลอย่างไร?
''ผมขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว วันนึงมันก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงพิธีกร ผมก็เป็นห่วงเหมือนกันว่าบางคนจะรับได้ไหม บางคนก็เป็นแฟนคลับของพี่เปิ้ลอาจจะโกรธ ไม่ชอบผมกับพี่หอย แต่ผมกับพี่เปิ้ล-หอย ยังรักกันอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ไม่ได้ร่วมงานกันในตอนนี้ ในอนาคตอาจจะมีงานที่ทำร่วมกันก็ได้ เราไม่ได้แตกแยกในฐานะพี่น้องนะครับ แต่ยากกันทำงานเท่านั้นเอง''
จากนี้ไปจะไม่มีพี่เปิ้ลในรายการของบริษัท ลักษ์ 666 ?
''ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นครับ เพียงแค่ว่า ณ ตอนนี้ผมขอพัฒนารายการให้มันดีให้มันเป็นวัยรุ่น ตอนนี้ยังเป็นวิลลี่ เปิ้ล หอย มันรวมกันแล้วจะ 200 ปี แล้วนะ มันไม่ใช่เป้าหมายวัยรุ่นแล้วนะ ทั้งๆ ที่พยายามจะทำ ซึ่งคนที่ดูเราก็ยังเป็นวัยรุ่นอยู่''
พอจะบอกได้ไหมว่าพิธีกรคนใหม่เป็นใคร?
''ยังบอกไม่ได้ครับ แต่ก็จะพยายามปรับเปลี่ยนรูปแบบให้สนุกขึ้น''
สาเหตุที่ต้องเปลี่ยนพิธีกรเพราะพี่เปิ้ลถอนหุ้นหรือเปล่า?
''มันก็มีส่วนครับ ตอนที่พี่เปิ้ลถอนหุ้นไป ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน เราก็ยังอยากจะรักษาสาระแนไว้ เพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนพิธีกรใหม่ได้เลย คนดูอาจจะรับไม่ได้ ก็เลยขอให้พี่เปิ้ลอยู่ก่อน มาถึงจุดนี้แล้ว การเปลี่ยนพิธีกรมันเป็นเรื่องที่จะทำให้เป็นกระแสข่าวขนาดนี้''
ทำไมวันนี้ไม่มานั่งแถลงข่าวด้วยกัน เพราะดูจากข้อความที่พี่เปิ้ลโพสต์ออกอาการน้อยใจ?
''ใจผมก็อยากให้มานั่งแถลงข่าวพร้อมๆ กัน เพื่อให้เห็นว่าเรายังคบหากันอยู่ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่าลืมว่าผมเพิ่งทราบเมื่อคืนนี้ ก็เลยตัดสินใจว่างั้นก็เชิญสื่อมวลชนมาสัมภาษณ์ผม ถ้าอยากให้จัดอีกครั้งนึงแล้วมีพี่เปิ้ลด้วย ก็ต้องใช้เวลาอีกนิดนึง เพราะผมก็ต้องไปตามพี่เขาว่าจะให้เคลียร์ที่ไหน''
เป็นเพราะต่างฝ่ายต่างกำลังมีผลงานออกมาด้วยหรือเปล่า?
''ไม่เกี่ยวครับ ผมไม่ได้ทราบว่ามีเรื่องตรงนั้นมาเกี่ยวข้องด้วย''
ความเป็นเพื่อนกันตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ยังเหมือนเดิมไหม?
''เหมือนเดิมครับ ยังมีแหยงๆ อยู่บ้าง คุยเรื่องงานลำบาก เพราะต่างฝ่ายต่างไปเปิดบริษัททำรายการ ทำหนังเหมือนกัน มันทับทางกันอยู่แล้ว ฉะนั้นก็เลยพยายามไม่คุยเรื่องงาน เพราะเราไม่อยากมาทะเลาะกันทีหลัง คุยเรื่องลูกหรือเรื่องอื่นได้''
เป็นเพราะงานทับไลน์กันอยู่หรือเปล่า เลยจำเป็นต้องให้พี่เปิ้ลออกจากรายการ?
''น่าจะมีส่วนครับ''
กลัวพี่เปิ้ลรู้เรื่องในบริษัท ลักษ์ 666 หรือเปล่า?
''ไม่ครับ มันไม่เกี่ยวข้องกับความลับรั่วไหล เพราะบริษัทผมไม่ได้เป็นบริษัทที่มีความลับเยอะ แค่ทำรายการเฉยๆ เพียงแต่ว่ามาถึงวันนึงถ้าอยากให้มีความชัดเจนก็ดี หลังจากคบกันมานาน ต่างฝ่ายต่างก็มีทางของตัวเอง ผมก็สนับสนุนในทางของแต่ละคนที่อยากจะไปทำ ไม่เคยคิดจะกั้นกัน ถามว่าจังหวะดีหรือไม่ดี ผมไม่รู้ พูดแล้วทำให้พี่เปิ้ลเสียใจ ผมก็เสียใจ เห็นพี่เปิ้ลร้องไห้ผมก็อยากร้องไห้''
ยืนยันว่าทุกอย่างจบกันด้วยดี?
''ผมยืนยันว่า จริงๆ แล้ววันที่คุยกัน พี่เปิ้ลเข้าใจและจบดี ผม พี่เปิ้ล พี่หอย คงไม่ได้ทะเลาะกัน มันเป็นการเปลี่ยนงานเฉยๆ ครับ''
ที่มาข้อมูล : siamdara
แสดงความคิดเห็น