อาร์เอสฯ ร้าวหนัก ถ้าขาด "ฟิล์ม รัฐภูมิ" รวมถึงอาจกระทบต่อเงินเดือนและโบนัสพนักงาน เหตุเป็นศิลปินหลักที่สร้างรายได้ให้บริษัททั้งภาพยนตร์-ละคร-พรีเซ็นเตอร์ รวมถึงเดินสายแสดงคอนเสิร์ต กดดันให้ “เฮียฮ้อ” ต้องรีบออกมาเคลียร์ปัญหาแอนนี่ให้จบโดยเร็ว ด้านราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังไม่สะท้อน ล่าสุด RS ปิดที่ 2.34 บาท ขณะที่เอ็มดีตลาดหุ้น “จรัมพร” ยันไม่พบความผิดปกติ ไม่จำเป็นต้องเข้าตรวจสอบเพิ่ม
      
        จากกระแสข่าวที่นักร้องดังค่ายอาร์เอส “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” ถูกนักแสดงสาว “แอนนี่ รุ่งนภา บรู๊ค” ออกมาแฉว่าทำตนเองท้องก่อนจะคลอดลูกชาย จนปัจจุบันอายุได้ 3 เดือนแล้วนั้น ได้สร้างความเสียหายอย่างมากแก่บมจ.อาร์เอส (RS) ที่นักร้องหนุ่มสังกัดอยู่ จนหลายฝ่ายมองว่าอาจจะลุกลามถึงผลการดำเนินของบริษัท เพราะฟิล์ม ถือเป็นนักร้องเบอร์หนึ่งที่สร้างรายได้หลักให้กับอาร์เอส และอาจจะสะท้อนถึงราคาบนกระดานหลักทรัพย์ เพราะอาร์เอสเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
       ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับฟิล์ม มีตัวเลขอย่างเป็นทางการที่ทางอาร์เอสโดยนายดามพ์ นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บมจ. อาร์เอส เปิดเผยไว้เมื่อวันที่ 22กันยายนที่ผ่านมาว่า ไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ เพราะบริษัทไม่เคยประเมินค่าศิลปินเป็นรายบุคคล โดยปัจจุบันอาร์เอสมีรายได้จากธุรกิจเพลงประมาณ 40-50% ที่เหลือเป็นรายได้จากธุรกิจอื่น
      
        แต่สำหรับการลงทุนของฟิล์มในปีนี้ มีทั้งหนังบางกอกกังฟู ,อัลบั้มใหม่ชื่อไคลแม็กซ์ ที่ได้ร่วมงานกับศิลปินเกาหลี และจะไปคอนสิร์ตที่เกาหลี ซ้อมร้องซ้อมเต้นเตรียมตัวกันมานานเป็นปี หากมีการสะดุดอาร์เอสเคลื่อนตัวไม่ได้ งานนี้ต้องกระทบจริงแน่ จึงไม่แปลกที่เฮียฮ้อ พยายามจบเรื่องนี้อย่างเร็วที่สุด เพราะฟิล์มมีคิวไปเล่นคอนเสิร์ต กับศิลปินเกาหลี อีกทั้งในเวทีเดียวกันยังมีศิลปินชั้นนำของเกาหลีอย่างเรน, วันเดอร์เกิร์ล, 2PM ฯลฯ ขึ้นโชว์มากมาย ซึ่งหากฟิล์มเคลียร์ปัญหาเรื่องแอนนี่ได้ เส้นทางการทำงานก็จะดำเนินต่อไปได้ เพราะทางอาร์เอสเองเหลือฟิล์มเป็นศิลปินเบอร์ที่ใหญ่ที่สุดในเวลานี้และต้องประคับประคองให้รอดต่อไป
      
        สำหรับค่าตัวของฟิล์มนั้น ถ้าราคาพรีเซ็นเตอร์ 5- 6 ล้าน ซึ่งบางผลิตภัณฑ์รวมค่าการตลาดไปด้วย เช่น สินค้าเป็นเจลใส่ผมมาสนับสนุน ตั้งมูลค่าไว้ 6 ล้าน พอมาสนับสนุนผลงานเพลงก็ 2 ล้านที่เหลือคือค่าตัวฟิล์ม 4 ล้านบวกค่าการตลาดมาแล้ว ดังนั้นศิลปินจะมีผลต่อรายได้บริษัทชัดเจน ค่าตัวอาจละลงถ้าสินค้าตัวนั้นสนับสนุนงานด้วย 4-6 คอนเสิร์ตข้างนอก งานเพลงถ้าร้อง 3 เพลง ค่าตัว 1 แสนบาท ค่าตัวเล่นละครตอนละ 6 หมื่น หนังเรื่อง1.5 ล้านบาท
      
        ขณะเดียวกัน ฟิล์ม กำลังมีละครฟอร์มใหญ่กับผู้จัดมือใหม่อย่าง "กึ้ง เฉลิมชัย" เรื่อง "นางสาวเฉาก๊วย" ซึ่งหากเคลียร์เรื่องแอนนี่ไม่ได้อาจมีปัญหาเรื่องโฆษณาและการออนแอร์ที่จะมีขึ้นประมาณกุมภาพันธ์ปีหน้า แต่ในทางส่วนตัวนั้น ฟิล์มจะกระทบ คือ ทัวร์เกาหลีที่เขาเปิดบริษัทอยู่ เนื่องจากทัวร์ที่ว่านั้นจะมีคิวไปดูคอนเสิร์ตที่ลิ้งค์ไว้กับทางเกาหลี ซึ่งมูลค่าความเสียหายครั้งนี้นับว่ามีมูลค่าสูงทีเดียว
      
        “หากไม่มีการเคลียร์เรื่องแอนนี่ ทางอาร์เอสจะเสียรายได้จากฟิล์มมหาศาล รวมทั้งธุรกิจส่วนตัวของฟิล์ม รวมไปถึง พนักงานอาร์เอสทุกคนอย่างแน่นอนในช่วงสิ้นปีนี้ทั้งเรื่องของการขึ้นเงินเดือน และเงินโบนัสประจำปี”
      
        อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการตั้งข้อสังเกตผลกระทบด้านลบต่อราคาหุ้นบนกระดานหลักทรัพย์ แต่ราคาหุ้นกลับไม่เคลื่อนไหวมากนัก ล่าสุด วานนี้ (27 ก.ย.) ราคาหุ้น RS ปรับตัวขึ้นลงในช่วงแคบๆ โดยมีราคาสูงสุด 2.34 บาท ต่ำสุด 2.30 บาท ก่อนจะปิดที่ 2.32 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดครั้งก่อน มูลค่าการซื้อขายรวม 1.57 ล้านบาท ขณะที่ใบสำคัญแสดงสิทธิฯ RS-W1 แตะระดับสูงสุด 0.66 บาท ก่อนจะปิดระดับราคาต่ำสุดที่ 0.62 บาท ลดลง 0.03 บาท หรือ 4.62% มูลค่าการซื้อขาย 0.47 ล้านบาท และใบสำคัญแสดงสิทธิ RS-W2 ราคาสูงสุด 0.83 บาท ปิดและต่ำสุดที่ 0.80 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน มูลค่าการซื้อขาย 0.03 ล้านบาท
      
        หากย้อนกลับไปตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 53 พบว่า ราคาหุ้น RS ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากสุดในวันที่ 17 ก.ย. ปิดที่ 2.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท หรือ 1.69% มูลค่าการซื้อขาย 4.56 ล้านบาท และลดลงในวันถัดมา (18 ก.ย.) 0.04 บาท ปิดที่ 2.36 บาท หรือ 1.67% มูลค่าการซื้อขาย 2.28 ล้านบาท
      
        นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ คงจะไม่ต้องเข้าไปตรวจสอบข้อมูลการซื้อขายหุ้นของ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS จากกรณีข่าวของฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ เนื่องจากได้รับรายงานพบว่าคววามเคลื่อนไหวของหุ้น RS ยังไม่พบความผิดปกติอย่างมีนัยสำคัญทั้งในเรื่องของราคาการซื้อขาย และมูลค่าการซื้อขายในช่วงที่ผ่านมา

แสดงความคิดเห็น

 
Top