“แอน” เผยสัมพันธ์ “ภูริ” ยังไม่คืบหน้าถึงขั้นคืนดี ยังต้องใช้เวลาปรับจูนหากัน เหตุอีกฝ่ายไม่ค่อยยอมปรับตัวเอง และไม่ค่อยมีเวลาเจอกัน รับทุกอย่างต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่หมดเพื่อแก้ปัญหาเดิมๆ เผยชีวิตแฮปปี้ได้ใช้ชีวิตตามประสาผู้หญิงกับ “เจนี่” ลั่นไม่ปิดกั้นตัวเองถ้าใครจะมาจีบ ทั้งยินดีปล่อยหากฝ่ายชายเจอใครที่ดีกว่า
เริ่มหันมามองมุมชีวิตของตัวเอง และยอมรับว่าความสัมพันธ์ฉันท์คู่รักนั้นเปลี่ยนไป สำหรับดาราสาว “แอน อลิชา ไล่สัตรูไกล” กับแฟนหนุ่ม “ภูริ หิรัญพฤกษ์” ที่ตอนนี้ก็ผ่านมาได้ร่วม 2 เดือนแล้ว แต่ดูเหมือนการพยายามปรับจูนความสัมพันธ์ ที่ต่างคนต่างลองแยกเพื่อไปใช้ชีวิตของตัวเอง จะไม่มีการพัฒนากลับมาเลิฟๆ กันตามเดิม โดยเฉพาะฝ่ายชายถึงขั้นเอ่ยปากเลยว่า หากจะกลับมาคบแอนอีกครั้ง จะต้องเริ่มต้นนับจากศูนย์ใหม่ เพราะยังไม่พร้อมแต่งงาน
ฟากสาว “แอน” ก็ยอมรับว่าการปรับจูนเข้าหากันในครั้งนี้กับแฟนหนุ่ม ยังคงต้องใช้เวลา เพราะอีกฝ่ายยังไม่ปรับตัวเองให้เห็นชัดเจน อีกทั้งพักนี้ไม่ค่อยมีเวลาพบเจอกัน
“ความสัมพันธ์ก็ยังต้องใช้เวลาค่ะ ลองดูว่ามันเป็นยังไงต่อ เรายังให้คำตอบใครไม่ได้ เพราะเราเองก็ยังไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง คือเราก็พยายามปรับ พยายามกลับมาคุยกันทำให้มันเวิร์ค ก็ยังคุยกันอยู่ค่ะ แต่ว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอเพราะว่าเขางานยุ่งมาก ทำงานเยอะ จริงๆ หลังจากที่ปรับกันมามันก็น่าจะดีขึ้นแหละ แต่เพราะว่ายังไม่ได้ปรับอะไรกันเยอะ มันเลยต้องใช้เวลา ไม่ได้รีบเพราะเราก็ไม่อยากไปเร่ง”
“จริงๆ ก็อย่างที่เขาพูดว่าต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เลย เพราะมันต้องลบของเก่าทิ้งก่อน แล้วก็ลองดูใหม่ว่ามันเป็นยังไง ก็ไม่ได้พยายามที่จะต้องทำอะไรนะ เพียงแต่ลองดูว่าจะเดินต่อไปแค่นั้นเอง แต่จริงๆ ตั้งแต่ลองปรับมาเขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรที่มันชัดเจนเลยนะ(หัวเราะ) เพราะเขาทำงานเยอะด้วย แล้วช่วงที่ห่างก็เหมือนต่างคนก็ต่างมีชีวิตส่วนตัว ที่เราต่างก็ชินกับการใช้ชีวิตแบบนี้ เพราะฉะนั้นมันก็เลยเหมือนมีทางเดินที่เป็นคนละทางกันอยู่ เพียงแต่ว่าเราจะทำยังไงให้มันจูนกลับเข้ามาติดเหมือนเดิมได้”
“แต่ก็ไม่ได้เรียกว่าปรับความเข้าใจนะ คือพยายามปรับวิถีชีวิตให้มันกลับมาจูนกัน เพราะไม่ได้ผิดใจกัน เพียงแต่บางอย่างมันมองไม่เหมือนกัน ก็พยายามปรับเข้ามาให้เจอตรงกลางได้ เราก็มีคุยกันว่าต้องปรับอะไรกันบ้าง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่รุนแรงอะไรมาก มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ บางอย่าง คือเขาขออะไรเราบางอย่างแต่เราทำไม่ได้ แล้วเราขอเขาเขาก็ยังไม่ยอมก็เท่านั้นเอง มันก็ต้องใช้เวลา”
“เราก็เคยคุยกันไปแล้วว่าปัญหามันคืออะไรบ้าง จริงๆ ที่ผ่านมามันก็ไม่ใช่ว่าปัญหาเยอะนะ เพียงแต่เราต้องปรับว่าควรจะเป็นยังไง ไม่เคยทะเลาะไม่เคยอะไรกัน เพียงแต่แค่ถามเฉยๆ ว่าเรามองอนาคตเหมือนกันหรือเปล่าแค่นั้นเอง เพราะมันเหมือนเราโตขึ้น ก็คุยกันดูว่าจะเอายังไงต่อ ว่าจะคบกันไปวันๆ หรือจะยังไง เพราะเราก็มองกันไปถึงอนาคตนั่นแหละ แต่ถามว่าพร้อมแต่งงานไหม ก็ยังไม่พร้อมนะ(หัวเราะ) ยังทำงานเก็บตังค์อยู่เลย ยังไม่มีตังค์ซื้อบ้าน ยังไม่มีตังค์เที่ยว ยังไม่มีอะไรเลย ไม่มีเงินเก็บเลย”
บอกช่วงนี้แฮปปี้ที่ได้ใช้ชีวิตเป็นผู้หญิง อยู่กับเพื่อนสาวอย่าง “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” มากขึ้น ลั่นไม่คิดปิดกั้นถ้าฝ่ายชายจะไปเจอใครใหม่ และตัวเองก็ไม่ปิดโอกาสให้ใครเข้ามาเช่นกัน
“แต่ก็ขอบคุณที่หลายคนลุ้นเชียร์ให้กลับมาดีกัน แต่มันเป็นเรื่องของคนสองคนที่จะมาคล้อยตามคนรอบข้างไม่ได้ เราก็อยากให้มันดีที่สุด ให้มันไปตามจุดหมายปลายทาง ไม่อยากที่ต้องอยู่ด้วยกันแล้วต้องเลิกกัน เพราะมันเกี่ยวกับคนสองคนจริงๆ คนอื่นมารู้กับเราไม่ได้ ก็อยากให้ให้เวลากับเราด้วย เพราะมันเป็นเรื่องของคนสองคน ให้มันเป็นความรู้สึกของเราสองคน ก็ขอบคุณทุกคนที่รอลุ้นอันนั้นเข้าใจ แต่มันก็ต้องใช้เวลา”
“ช่วงที่ผ่านมาก็อยู่กับเจนี่ตลอดเลย(หัวเราะ) เกี่ยวขากันตลอด ก็มีคุยกันว่าใครจะทิ้งใครก่อน ตอนนี้ก็แข่งกันว่าใครจะแต่งงานก่อน แต่ก็พยายามเกี่ยวมือกันไว้ว่าเหลือกันอยู่สองคนแล้วนะ แต่ก็ดีที่เรามีสังคมของเรา เรามีเพื่อน มีคนที่คอยดูแลเรา คอยให้คำปรึกษาให้คำแนะนำ เมื่อก่อนอาจจะเป็นภูริ เดี๋ยวนี้ก็มีเพื่อนที่เขาก็ดี ก็ไม่เหงานะ แฮปปี้ลั้นลาไปโน่นไปนี่กัน แต่ก็ยอมรับว่าชีวิตเปลี่ยนไปนิดหน่อยจากที่ไม่มีเขาคอยอยู่ข้างๆ แต่ก็ได้อยู่กับเพื่อนมากขึ้น ได้ทำอะไรที่เป็นผู้หญิง เพราะตอนอยู่กับเขาเราก็จะลุยมาก เพราะต้องทำรายการอะไรด้วย ไอ้ความที่เป็นผู้หญิงมันก็หายไปเยอะเหมือนกัน ออกจะเป็นเด็กห้าวๆ แต่พอตอนนี้ได้อยู่กับสาวๆ ก็เริ่มมีการช้อปปิ้งแต่งตัวมากขึ้น ก็สนุกดี”
“แต่ก็ไม่ได้ยิ่งทำให้เราห่างกันหรอก เพราะเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันทำให้ทุกอย่างง่าย บางทีก็แอบดูสเตตัสว่าทำอะไร อยู่ที่ไหน เวลาดูก็จะรู้ตลอด แต่ถามว่าเปิดใจให้คนอื่นบ้างไหม ก็ไม่ได้ปิดนะคะ แต่ก็ไม่ได้ไปตามไขว่คว้า แต่ไม่มีใครเข้ามาเลยนะ เปิดแต่ไม่มี(หัวเราะ) แต่ถ้ามีเข้ามาฝั่งเขาก็โอเคนะ ถ้าเขาสามารถไปเจอคนที่เติมเต็มในสิ่งที่เราให้ไม่ได้ หรือเขาให้เราไม่ได้ เราก็ไม่ได้บังคับว่าห้ามกันหรืออะไร แต่จริงๆ เราเองก็ยังอยากให้กลับมาเหมือนเดิมกันนะ เพราะจริงๆ มันก็ไม่ได้หายไปไหนกันหรอก ก็ยังอยู่แถวๆ นี้แหละ เพียงแต่ว่าไม่ได้ตัวติดกันเหมือนเมื่อก่อน แต่ยังไม่ถึงกับขั้นว่าเลิกกัน เพียงแต่ให้ลองใช้เวลาดูว่า ตัวเองอยากจะทำอะไรแค่นั้นเอง”
แสดงความคิดเห็น