“วันนั้นก็หอมแก้มค่ะ (หัวเราะ) คือไม่ได้ปกปิดอะไรอยู่แล้วนะคะ ทุกวันนี้ก็ยอมรับว่าเป็นคนรัก แล้ววันนั้นก็ดีใจที่เขามาหา เพราะจริงๆ ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้เจอกันมาเป็นอาทิตย์เลย ก็คิดถึงเหมือนกัน พออยู่ๆ เขามามีดอกไม้มาเซอร์ไพรส์ก็ดีใจค่ะ แต่คนจะมองว่าเป้ยแรงไหม จริงๆ เราก็ไม่ได้ปิดบังอะไร เป้ยก็เป็นมนุษย์คนนึงที่พึงกระทำกับคนรัก เป้ยก็ไม่ปิดค่ะ ใครจะหาว่าเป้ยแรงหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เป้ยไม่เสแสร้งซะอย่าง เป้ยทำจริงๆ แล้วก็เป็นคนจริง ทำอะไรก็จริงจังอยู่แล้ว”
“ตอนนี้ก็เรียกเขาว่าเป็นแฟนเต็มปากเต็มคำเลย ใครจะว่ายังไงไม่รู้ แต่ ณ วันนี้เป้ยคิดมาดีแล้ว เป้ยมีความสุขมากก็แล้วกัน ที่ผ่านมาเป้ยมัวแต่มานั่งพะวงเดี๋ยวคนจะว่าโน่นนี่นั่น เดี๋ยวเขาทิ้งแล้วอกหักต้องมานั่งร้องไห้อีก พูดอย่างนี้ออกตัวแรงเกินไปหรือเปล่า เป้ยก็ต้องมานั่งกังวลแล้วก็ทุกข์ ทำให้คนที่เป้ยรักเขาไม่มีความสุขด้วย เขาต้องมานั่งตอบคำถามว่า ทำไมผู้หญิงยังไม่รับเป็นแฟน เป้ยไม่เอาแล้วดีกว่า เป้ยขอให้ตัวเป้ยและพี่เต็มมีความสุขมากที่สุดดีกว่า ก็เป็นตัวของตัวเองดีกว่าค่ะ เป้ยไม่อยากมานั่งกั๊กอะไรอีกแล้ว พอแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าชีวิตพรุ่งนี้จะเป็นยังไง จะตายหรือเปล่าเราก็ไม่รู้ ฉะนั้นเป้ยขอช่วงเวลานาทีนี้ วันนี้ขอเป้ยมีความสุขมากที่สุดก็พอแล้ว”
“คนเห็นว่าเราตัวติดกันเหรอ ไม่ติดกันเลยนะ(หัวเราะ) เขาไม่เคยมาเฝ้าเลย นานๆ ครั้งค่ะ อย่างที่บอกว่างานแฟชั่นวันนั้นคือเป็นอาทิตย์นะกว่าจะได้เจอ ก็ยอมรับว่าคิดถึงมาก พอได้เจอก็ดีใจ แต่สวีตไหมก็ค่ะ(หัวเราะ) ก็ยอมรับ ไม่ปิดบังค่ะ รักก็บอกว่ารักค่ะ”
“พี่เขารู้สึกยังไงที่เรายอมรับเป็นแฟน อันนี้ยังไม่ได้ถามพี่เขาเลยค่ะ เพราะตอนนี้พี่เขาไปช่วยเรื่องน้ำท่วมอยู่ เขาก็คงจะดีใจมั้งคะในความรู้สึกของเป้ยนะ คือมีคนมาถามเขาเยอะมาก แล้วเขาก็น้อยใจบ้างนิดๆ หน่อยๆ แต่ว่าเขาก็มองว่ามันไม่ใช่ปัญหา เพราะเขาเข้าใจว่าที่เราไม่ตอบเป็นเพราะอะไร เขาเข้าใจปัญหาของเราอยู่แล้ว แต่ ณ วันนี้เป้ยมีความรู้สึกว่าเป้ยควรจะทำให้เขา เพราะเขาก็ทำให้เป้ยเยอะมากแค่นั้นเอง”
ปัดออกงานอีเว้นท์คู่กัน เพราะไม่อยากให้ใครมองว่าสร้างกระแส แต่ที่ยอมออกงานคู่กับอดีตคนรักอย่าง “อาร์ เดอะสตาร์” หรือ “อาณัตพล ศิริชุมแสง” นั้น “เต็ม” เข้าใจดี ไม่มีปัญหา
“งานคู่กันถ้าเป็นอีเว้นท์คงไม่รับเหมือนเดิมค่ะ ถ้าจะรับก็คงเป็นงานทั่วไป อย่างไปงานทำบุญร่วมกัน ไปงานที่เจอกัน จะเป็นงานอะไรก็ตามแต่ แต่คงไม่ใช่ว่าจ้างมาแสดงว่ารักกัน อย่างพวกงานอีเว้นท์คงไม่รับ งานแฟชั่นคู่ก็มีติดต่อมานะคะ แต่ว่ายังไม่ได้รับ ก็ขอคุยรายละเอียดกับพี่เต็มก่อนแล้วกัน เพราะว่าค่อนข้างจะเป็นชุดว่ายน้ำก็เลยคิดว่าเดี๋ยวก่อน และตัวพี่เต็มเองก็อยากให้โฟกัสเรื่องงาน ไม่ใช่ว่าเป็นงานชุดว่ายน้ำอะไรอย่างนั้น”
“ถ้าเป็นชุดว่ายน้ำที่เป้ยจะถ่ายเอง ก็คงไม่รับมั้งคะ ก็เกรงใจพี่เต็มด้วยนิดนึง และที่ผ่านมามันก็เยอะแล้ว และด้วยงานอีเว้นท์ต่างๆ ที่สื่อภาพออกมาดูเยอะแล้ว อะไรพักได้ก็พักบ้างแล้วกัน อยากให้โฟกัสเรื่องงานแสดง เพราะตอนนี้ก็มีงานละคร แล้วก็กำลังจะเปิดตัวเรื่องงานหนังค่ะ ก็อยากเบาๆ ภาพเซ็กซี่ลงไปบ้าง อยากสลับๆ บ้าง เพราะว่าไม่จำเป็นต้องเซ็กซี่ทุกงาน เซ็กซี่ตลอดเวลา ก็อยากสลับเหมือนที่เคยเป็นมา มีแรงก็ต้องมีเบาบ้างคละเคล้ากันไป”
“แต่ที่ออกงานคู่กับอาร์ที่ผ่านมาพี่เต็มก็ไม่ได้ว่าอะไร พี่เต็มไม่น้อยใจแล้วก็เข้าใจค่ะ แต่ตอนแรกเขางงเพราะเขายังไม่รู้เรื่องเท่านั้นเอง แต่พอตอนหลังเขามาฟังเป้ยอธิบายว่าเรื่องงานมันเป็นยังไง ต้องมีอะไรบ้างเขาก็โอเคเข้าใจ เขามีความเป็นผู้ใหญ่สูงค่ะ แต่ที่ไม่ได้รับงานคู่พี่เขา ก็เพราะเขายินดีที่จะไม่รับอยู่แล้วนะคะ เพราะเขาอยากให้คนมองที่งาน ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ มารับงานอีเว้นท์แล้วมีกระแส เขาอยากให้โฟกัสเขาเรื่องงานเพลงมากกว่า เขาไม่อยากให้คนมองที่ตรงนี้ ซึ่งเขาแฮปปี้ที่เป็นอยู่แบบนี้ของเขามากกว่า”
แสดงความคิดเห็น