จากกรณีที่สื่อทั้งไทยและต่าง ชาติ นำเสนอเรื่องราวของนายเดชชาติ พวงเกษ (จ้อน)วินมอเตอร์ไซต์หัวใส รับจ้างต่อคิวทำพาสปอร์ต รายได้4หมื่นต่อเดือน รวมไปถึงเป็นเจ้าของทวิตเตอร์ @motorcyrubjang
ซึ่งก่อนหน้านี้สื่อต่างชาติหลายแขนงเคยสัมภาษณ์เขาในการเป็นนักข่าวอาสา ถ่ายภาพเหตุการณ์ระเบิดที่ซอยสุขุมวิท 71 ไว้ได้ และให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติเป็นภาษาอังกฤษจนทำให้คนไทยทั้งประเทศต้องยก นิ้วให้ในความสามารถ โดยทาง MThai News ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ วินมอเตอร์ไซต์ที่โด่งดังที่สุดในสังคมออนไลน์ในขณะนี้
Q : พี่จ้อน เป็นคนจังหวัดอะไรแล้ว เริ่มต้นเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ได้อย่างไร ?
A : พี่เป็นคนจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอราษีไศล เข้ามาทำมาหากินอยู่ในกรุงเทพได้ 20 ปี แล้ว โดยแรกเริ่มมาเป็นหนุ่มโรงงานตราชั่ง ได้เงินวันละ 35 บาท ส่วนอาชีพวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เริ่มหันมาจับประมาณ 10 ปีก่อน พอเปลี่ยนมาขับวินชีวิตก็เปลี่ยนขึ้น เพราะมีเวลาว่างเพิ่มขึ้นเยอะ มีเวลาได้นั่งเล่นหมากฮอสกับเพื่อน สบายขึ้น
Q : เห็นพี่จ้อนให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติ รวมถึงพูดกับฝรั่งอยู่บ่อยครั้ง อยากทราบว่า เริ่มเรียนภาษาอังกฤษเพราะอะไร ศึกษาจากที่ไหน ?
A : พี่เริ่มสนใจจากที่ว่าอยากให้ความรู้ พูดคุยกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเป็นลูกค้า จากนั้นก็เลยเริ่มอ่านดิกชันนารี่ก่อน แล้วก็เริ่มอ่านเริ่มศึกษาไปเรื่อยๆ จนสามารถพูดสื่อสาร สนทนาได้จนคล่อง
Q : เริ่มสนใจโซเชียลมีเดีย ได้อย่างไร ?
A : เรื่องโซเชี่ยล สนใจมานานมากแล้วตั้งแต่มีออกมาแรกๆ เลย สนใจการทำเว็บ สนใจหมด แต่ไม่มีสมาร์ทโฟน พอมีโอกาสเลยไปซื้อสมาร์ทโฟนมือสองมาใช้ คิดว่าโซเชียลมีเดียมันดีเพราะเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่างบล็อก เราก็ได้โปรโมทตัวเอง หางานให้ตัวเองได้มากขึ้น แง่ที่ไม่ดีก็มีที่เอาไปใช้กับผิดๆ
อย่างเด็กๆ ที่ไม่รู้ก็โดนหลอกผ่านทางเฟซบุ้คตามข่าวก็เยอะ ถูกหลอกไปทำมิดีมิร้าย ซึ่งหลังจากดังในโลกโซเชียล ก็มีคนเข้ามาทักทายมากขึ้น ก็มีคนมาบอกว่าเนี่ยพี่คนนี้ที่พูดภาษาอังกฤษได้ แต่กรณีแปลกๆ ก็มีมาชักชวนไปทำธุรกิจ ให้มาลงทุนด้วยกันคนละ 50,000 แต่เราไม่เชื่อ ก็เลยบอกไปว่าไม่สนใจ
Q : รายได้ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ทั้งขับวินมอเตอร์ไซต์และจ๊อบเสริม ?
A: ตอนนี้รายได้ ตกเดือนละประมาณ 40,000 บาท แบ่งเป็น รายได้วินวันละประมาณ 500 บาท แล้วก็จะมีงานรับส่งเอกสารอีกประมาณ 500 บาท จะรับส่งในกรุงเทพเท่านั้น แต่ก็เคยมีกรณีงานด่วน ลูกค้าต้องส่งเอกสารก่อนเรือออกที่แหลมฉบัง ก็ขับไปให้จากเอกมัย ไปแหลมฉบัง ก็คิดเขา 1,800 บาท ที่เหลือก็เป็นค่าจ้างจากการไปต่อคิวทำพาสปอร์ต
Q : อยากให้พี่จ้อนเล่าถึงขั้นตอนของการรับจ้างต่อคิวทำพาสปอร์ต
A: เราก็จะไปตั้งแต่เที่ยงคืน นั่งรอตรงลานจอดรถ ถ้าลูกค้ามาตีห้าครึ่ง ก็มาแลกที่กันที่ลานจอดรถเลย แต่ถ้ามาเจ็ดโมงขึ้นไปก็ต้องไปแลกกันที่ชั้น 5 อย่างมีลูกค้าติดต่อเข้ามาเยอะๆ ก็จะหาเพื่อนวินด้วยกันไปรับงานด้วย ทุกคนก็รับงานผ่าน เรา ค่าจ้างก็วันละ 1,000-1,500 บาท ซึ่งปกติแล้วช่วงเวลาเที่ยงคืนถึงเจ็ดโมงไปจะอยู่ที่ทำพาสปอร์ต จบก็จะวิ่งวินจนถึง 9 โมง ก็จะกลับไปพักที่บ้าน พอบ่ายก็ออกมาวิ่งถึงประมาณสองทุ่มก็กลับไปนอน ชีวิตก็จะวนแบบนี้ ในช่วงบ่ายก็จะมีงานวิ่งเอกสารเพิ่มเข้ามาด้วย ซึ่งรายได้ขึ้นอยู่กับขยันของเรา
Q : เคยเจอผู้โดยสารโกงบ้างมั้ย ?
A: มีลูกค้าเหมาให้ไปส่งที่คลองถม 150 บาท พอไปถึงก็บอกพี่รอตรงนี้แปบนะ เดี๋ยวมาแปบเดียวแล้วก็หายไปเลย
แล้วก็มีกรณี แกล้งมาทักทายกับคนในวินฯแบบสนิทสนมเลย เราก็คิดว่าสงสัยคนรู้จักกัน แล้วก็มาเหมาให้เราพาไปซื้อโทรศัพท์ พอไปถึงบอกเราว่าลืมเอากระเป๋าเงินมา จ้างให้เราขับกลับไปเอาที่บ้านนี้ๆ ก็เลยถามว่าแล้วกลับมาจะหากันเจอได้ยังไง เขาก็บอกว่างั้นให้เราทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่เขา จะได้ติดต่อได้ เราก็เชื่อ แต่ออกมาแปบนึงก็เห็นท่าไม่ดี ไม่เอาดีกว่า ก็รีบกลับไปบอกว่าไม่เอา เอาโทรศัทพ์เราคืนมาเถอะ พอกลับมาไปถามบ้านที่เขาบอกให้เรากลับไปเอากระเป๋า ปรากฏว่าไม่มี ไม่เคยรู้จักเลย ก็เกือบไปแล้ว
Q : สุดท้ายในฐานะที่เป็นวินมอเตอร์ไซต์ที่คนโซเชียล รู้จักมากที่สุด อยากฝากบอกให้รัฐช่วยเหลือเรื่องอะไรบ้างมั้ย ?
A : อยากให้สอดส่องดูแล เรื่องวินเถื่อน วินปลอม อย่างเราทำมาหากินอยู่ วันดีคืนดี มีวินที่ไหนไม่รู้ว่าตั้งอยู่ใกล้ๆ กันเลย มันก็กลายเป็นตัดรายได้กัน แล้วเป็นวินที่ไม่ได้จดทะเบียน ซึ่งถ้าเกิดมีเรื่องมีราวอะไรขึ้นมาก็ตามตัวไม่ถูก อย่างพวกเราที่เป็นวินจดทะเบียนเรียบร้อย ก็มีชื่อมีหลักฐานทุกอย่างเรียบร้อย
จากการได้พูดคุยกับพี่จ้อน ทำให้รับรู้ว่าอาชีพวินมอเตอร์ไซต์รับจ้างไม่ใช่เรื่องง่ายเลย รวมไปถึงการรับงานเสริมต่างๆเพื่อเพิ่มรายได้ ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า ถ้าอยากมีกินมีใช้ ก็ต้องขยันและทำด้วยตัวเอง ที่สำคัญคือการไม่หยุดที่จะเรียนรู้และก้าวทันโลกอยู่เสมอ ทั้งการพยายามศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษาอังกฤษและเรื่องราวของเทคโนโลยี โซเชียลที่ต้องอัพเดทตลอดเวลา
MThai News
แสดงความคิดเห็น