“ระเบียบรัตน์” ขอปิดปากข่าว "เป๊ก-ธัญญ่า" ร้าวฉานเพราะมือที่ 3 หลังฝ่ายหญิงหอบลูกหนีไปอยู่อเมริกา แจงยังไม่รู้รายละเอียดรอให้เรื่องแดงค่อยว่ากัน ส่วนกรณีที่มีข่าวเม้าท์ว่า “พิ้งกี้” เป็นมือที่สามของทั้งคู่ เจ้าตัวเผยทุกคนย่อมมีเหตุผลแต่ขอให้อยู่ในศีลธรรม

เป็นเรื่องราวใหญ่โต และยังไม่มีความชัดเจนสักที สำหรับปัญหาเรา 2-3 คนของคู่สามีภรรยา “เป๊ก” ร.ท.สัณชัย เองตระกูล กับ “ธัญญ่า” ธัญญาเรศ เองตระกูล และนางเอกสาว “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช ที่ฝ่ายหลังถูกข่าวโจมตีอย่างหนัก ว่า มาเขย่าขาเตียงของทั้งคู่จนสั่นคลอน ล่าสุด มหากาพย์เรื่องดังกล่าวยังไม่จบลงง่ายๆ เมื่อมีมือดีเอาคลิปเสียงของผู้ชายคนนึงต่อว่าภรรยาของตนด้วยถ้อยคำที่รุนแรง และหยาบคาย หลังภรรยาหอบลูกหนีไปอยู่ต่างประเทศ สำหรับเรื่องดังกล่าว “เจ๊แดง” หรือ “นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช” นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นได้ให้ความเห็นต่อกรณีดังกล่าว ว่า

“เรื่องคลิปเสียงอะไร ยังไงอันนี้ก็เป็นเรื่องส่วนตัว ให้มันมีปัญหาก่อนค่อยว่ากันอีกที ถึงมันจะมีคลิปเสียงออกมาในอินเทอร์เน็ตก็ไม่เป็นไร เรายังไม่รู้อะไรก็อย่าเพิ่งไปพูด ในฐานะของผู้นำองค์กรด้านครอบครัวมองอย่างไรที่พิ้งกี้ถูกมองเป็นมือที่ 3 คือ เรายังไม่รู้ข้อมูลตรงนี้ยังไม่ให้สัมภาษณ์ดีกว่า คือ ทุกคนมีเหตุผลในการเป็นตัวของตัวเองเสมอ แต่ว่าเหตุผลนั้นสังคมจะรับได้ไหม เหตุผลนั้นถูกต้องหรือไม่ คือ คนที่ทำอะไรย่อมมีเหตุผล สังคมจะดูเองว่าใครผิดใครถูก สังคมไทยเป็นสังคมที่คุณธรรมศีลธรรมเป็นเรื่องที่สำคัญ น่าตาไม่ได้บ่งบอกว่าคุณจะมีจิตใจที่งดงามหรือเปล่า มันจะออกมาเอง แต่ไม่เป็นไร รอเรื่องให้มันชัดเจนถ้ายังไม่ชัดเจน พี่ยังไม่อยากพูด ยังไม่รู้อะไรเป็นอะไร ข่าวมันเยอะมากมันอาจจะไม่จริง ค่อยว่ากันถ้ามันมีปัญหาขึ้นมา”

“แต่ถ้าให้มองในฐานะที่เราเป็นแม่ ถ้าเรามีลูกผู้หญิงแล้วไปเป็นมือที่สามโดยไม่รู้ตัว หรือจงใจ พี่จะบอกว่าแม่นี่เลี้ยงลูกได้แต่ตัวนะ พยายามป้อนในสิ่งที่ดีให้ต้นทุนชีวิต ให้มีศีลมีธรรม ให้ละอายชั่วกลัวบาป ส่วนลูกนั้นมันมีตัวแปรอีกเยอะเลย จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ ด้วยความภาคภูมิใจในตัวเอง หรือด้วยความที่มีโอกาสมากขึ้น แม่ก็อาจไม่มีส่วนตรงนั้น โตแล้วก็ต้องมีวิจารณญาณไม่ใช่เด็ก ที่จะต้องอยู่บนคำพร่ำสอนตลอด เพราะฉะนั้น ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดที่อยากจะบอก คือ คนไม่รู้ว่าตัวเองทำผิด ถ้าคนที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ผิดนั้นน่ากลัวมาก เพราะคนที่เขาทำผิดแล้วเขาแก้ตัว เขายังแก้ไขนะ แต่ถ้าคนที่ทำผิดไม่รู้ตัวว่าผิด มันน่ากลัวตรงนี้สำคัญ เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนตั้งอยู่ในศีลในธรรม มีจริยธรรม อย่าไปล่วงละเมิดใคร ทางใครทางมันตัวเองก็มีโอกาสอีกเยอะ”

“แต่ถ้าสมมติเรื่องนี้มันเป็นจริง แล้วทำไมต้องไปยุ่งกับคนที่มีเจ้าของ แล้วคนที่แต่งงานแล้ว พี่ถือว่าต้องซื่อสัตย์กับครอบครัว ถ้าไม่ซื่อสัตย์เท่ากับว่าบ้านนั้นไม่ปลอดภัยแล้ว ถูกไฟไหม้บ้านถูกไฟราคะไฟกาม เพราะความซื่อสัตย์เหมือนเซฟทีคัทที่ตัดปัญหาครอบครัวที่จะเกิดขึ้น”

แสดงความคิดเห็น

 
Top