เพิ่งจบซีซั่นไปสำหรับเอเอฟ 7 ที่หลายกระแสบอกว่าวันเวลาของเอเอฟได้หมดกระแสไปแล้ว เพราะส่อแววเรตติ้งไม่กระเตื้องหลังการเมืองมาเอี่ยว แต่มีโอกาสได้เจอ "บอย อรรถพล ณ บางช้าง" โปรดิวเซอร์รายการทรูเอเอฟฯ และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายรายการบริษัททรูวิชั่นส์ (จำกัด) มหาชน เจ้าตัวบอกเรตติ้งเอเอฟยังดี และทำแน่ซีซั่นหน้า"ปกติเราเจอกันก่อนรายการ ไม่มีโอกาสได้ชี้แจงกับนักข่าวเลยหลังรายการจบ ซึ่งจริงๆตัวเลขของเรตติ้งอะไรพวกนี้มันโกหกไม่ได้ แหกตาไม่ได้ มันมีบางช่วงที่เอเอฟอาจสู้เอเอฟ 4 ไม่ได้สมัยนั้นดีมากสมัยลูกโป่ง,ปุยฝ้ายร้อง ร้องเรตติ้งสูงมาก มาถึงช่วงเอเอฟ 7 มันมีช่วงขึ้นและไม่ขึ้นบ้าง ซึ่งผมมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ แต่ช่วงก่อนมีเอเอฟ 7 นะ แต่บางสัปดาห์มันดีมาก แซงไปเลยก็มี บางคนบอกว่ากระแสไม่ดี คงไม่ได้ทำแล้ว แต่บอกเลยว่าในแง่ของคนทำงาน เรตติ้งตรงนี้ชัดเจนว่าเอเอฟมาอันดับ 1 ตลอด แล้วแบบนี้ไม่มีต่อหรือ ต้องมีอยู่แล้ว"
ส่วนกระแส "มาร์ค V11" วิทวัส ท้าวคำลือ ใช้คำหยาบคายผ่านเฟซบุ๊ก ด่านายกรัฐมนตรี "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" จนรายการโดนวิพากษ์วิจารณ์มาช่วงระยะเวลาหนึ่ง เจ้าตัวมองว่า ทำรายการมา 7 ปี โดนวิจารณ์ในอินเทอร์เน็ตบ้างจนชินแต่ไม่ทำให้ท้อ บอกเคยคิดจะลงมาเล่นกับโลกไซเบอร์ หรือมีทวิตเตอร์ แต่คิดว่าคงไม่มีเวลาจึงมองเป็นเรื่องของความคิดเห็นมากกว่า
"คือในโลกไซเบอร์มันมีบุคคลหลายแบบ ทั้งกระแสนักข่าวเองก็มีปากกาก็เขียนไป คนที่อ่านข่าวก็มีคีย์บอร์ดจะพิมพ์อะไรก็พิมพ์ได้ ในส่วนของน้องมาร์คเนี่ยสำหรับตัวผม ผมมองว่าเขาไม่ได้สีไหนหรอก ถ้ามาสัมผัสกับเขาจริงๆจะรู้ว่าเขาไม่ได้สนใจเรื่องการเมืองด้วยซ้ำ แต่บังเอิญว่าการด่าของเขามันมีเรคคอร์ด แล้วใช้คำหยาบคายโดนหยิบยกออกมาพูดถึงแล้วโดนสังคมพูดถึง เลยกลายเป็นเรื่องซวยไป เราคงไม่เอาเรื่องนี้มาเล่น อีกอย่างถามว่าเวลาผมทำรายการ โดนคนอื่นด่าก็คัน ด่าแรงจัง แต่บางทีก็มีเด็กๆเข้ามาบอกว่าทำรายการแบบนั้นซิ แบบนี้ซิ ไอ้ที่เราผิด เราก็ยอมรับนะ แต่บางเรื่องเราชี้แจงไม่ไหวก็ไม่เป็นไร คืออินเทอร์เน็ตมีหลายโลก ทั้งเด็กผู้ใหญ่ ตรงนี้ไม่ว่ากัน คือถ้าคิดจะมาตอบอะไรแบบนี้ มันต้องมีเวลาเยอะมาก ซึ่งเราไม่มีเวลา"
บอกเชื่อเรียลลิตี้โชว์เอเอฟไม่ได้ใส่สคริปต์ วอนอย่าเทียบกับรายการอื่นเพราะมองว่าเรียลลีตี้ของจริงมีแค่เอเอฟรายการเดียว
"คือเรียลลิตี้โชว์ ผมโดนมองกับคู่แข่งบ่อยมาก แต่ผมมองแบบนี้นะครับว่ารายการเรียลลีตี้โชว์มันต้องไม่มีสคริปต์ แต่กำหนดสถานการณ์ หรือโจทย์ได้ ของเอเอฟมั่นใจว่าไม่มีสคริปต์ แต่มีการกำหนดสถานการณ์ รายการมักโดนเอามาเปรียบเทียบกับรายการอื่นส่วนใหญ่เป็นรายการมิวสิคคอนเทสต์ ทำมาเพื่อโชว์ แต่ของเรามีกล้องติดไว้ที่ผนังเลย 24 ชั่วโมง มันต่างกันครับ คุณไม่ถนัดเพลงฝรั่งแต่คุณต้องร้องเพลงฝรั่ง เราพยายามจะยัดเพลงฝรั่งให้คุณร้องต้องพัฒนาต่อไป คุณพูดไทยไม่ชัด แต่ผมจะให้คุณร้องเพลงไทย ซึ่งเขาต้องทำให้ได้ ตรงนั้นมากกว่าที่รายการเราทำ ซึ่งตามความคิดผมนี่คือเรียลลิตี้เป็นแบบนี้นะ รายการอื่นผมไม่รู้"
ส่วนโปรเจกต์ล่าสุดที่ "บอย อรรถพล" เผยคือการทำหนังของค่ายทรู ออกอากาศให้กับสมาชิกทรูได้ชมกันนั้น เจ้าตัวบอกว่าเรื่องแรกออกอากาศไปแล้ว ส่วนเรื่องต่อไปให้รอชม บอกหนังของทรูเป็นหนังฉายในจอแก้ว ซึ่งเจ้าตัวบอกมีวัตถุดิบอยู่แล้วหลายส่วน จึงพร้อมแล้วกับการทำหนังในค่ายของตัวเอง และในอนาคตมีเด็กเอเอฟเล่นด้วยแน่นอน
"สมัยก่อนรายการที่เราทำให้สมาชิกมันไม่มีแตกต่างจากทีวีช่องอื่นๆ สมัยก่อนก็อยากทำรายการที่แตกต่างนะ แต่จำนวนเงินที่มาทำมันแพง เพราะรายการพวกนี้ฟรีทีวีทำได้เพราะมีโฆษณาแต่เรามีรายได้จากสมาชิกเราเลยสร้างรายการแบบนำเอารายการต่างประเทศ เทรนด์ของเมืองนอก ดิสคัฟเวอรี่, HBO คือ 19 ปี ตั้งแต่ยูบีซี นี่มาถึงจุดหนึ่งแล้วที่ผลิตในประเทศไทยมันน่าจะมีบทบาท ถ้าจะขยายฐานก็ต้องมีรายการขึ้นมา ทรูอินไซด์ ,เอเอฟ จะเห็นว่าการตอบสนองของผู้ชมดี เราก็เลยคิดอยากทำหนังขึ้นมา"
" เราแยกหนังไทยมาหนึ่งช่อง ไทยฟิล์มมันควรมีอะไรบ้าง ฟิล์มเอเชียควรมีอะไรบ้าง เฮฮามีซิตคอม ฟิล์มเอเชียก็มีดราม่าซีรีย์ พอมาถึงไทยฟิล์มเรามีพันธมิตรกับค่ายหนังทุกค่าย อย่างมงคลเราก็ซื้อมา เราเองก็อยากมีหนังของเราสักเดือนละเรื่องก็ยังดี ทำให้หนังไทย หลากหลายมากขึ้น หนังที่เอามาทำมันไม่จำเป็นต้องไปกังวลว่ามันจะลงโรงได้มั้ย เพราะเราไม่ได้เอาไปลงโรง หนังมันจะมีหลากแนว มันมีหนังเยอะแยะ แฟมิลี่อีกเยอะแยะ หนังอาจไม่ทำเงิน สร้างแล้วไม่ทำเงินเลย อาจเป็นหนังที่คุณนั่งดูกับครอบครัวได้ หนังเนื้อเรื่องแปลกๆ หนังทำที่แนวไม่เหมือนในตลาด เราทำเอเอฟมา ศิลปินเรามีดาราในสังกัดเราก็มี ช่วยเด็กด้วย เราคิดว่าถึงเวลาจุดๆหนึ่งเราก็ลองดู "
"ที่มาทำหนังนี่เพราะส่วนหนึ่งเราคิดว่าเราพร้อมแล้วด้วย มีผู้กำกับหนังโฆษณา ละคร ผู้กำกับรุ่นน้อง ๆ ยังโปรดิวเซอร์เยอะแยะ มีน้องๆที่อยากผลิตเอยแยะ แล้วเดี๋ยวนี้ การผลิตหนัง มาตัดสินใจได้คือ เทคโนโลยีของการทำหนังมันเปลี่ยนไป เมื่อก่อนทำหนังต้องซื้อกล้องมีฟิล์ม แต่ตอนนี้มันไม่ต้องแล้ว ไม่แพงมาก เดี๋ยวนี้เป็นดิจิตอล HD หนังเรื่อง "ฝัง" เป็นเรื่องแรก คนจะบอกว่าทำหนังสยดสยองหรือ มันคือความไม่ตั้งใจ ดูที่บทเป็นหลัก แต่ว่าจริงๆแนวไหนก็ได้เราไม่ได้มีงบมากมายแต่ตั้งใจทำ ไมได้สุกเอาเผากินนะ สักเดือนละเรื่องนะ มีให้ต่อเนื่อง ทรูไทยฟิล์ม ช่อง 48 เรื่องแรกเรื่องฝัง มีต้าร์ บาร์บี้ ลีโอ พุฒ ส่วนเรื่องต่อไปหลังปีใหม่น่าจะได้ชมกันครับ แล้วอาจมีน้องๆเอเอฟมาเล่นด้วย"
แสดงความคิดเห็น
Click to see the code!
To insert emoticon you must added at least one space before the code.