“พจน์” เผยได้หลักฐานเด็ดมัด "แอนนี่" ยัน "ฟิล์ม" เตรียมฟ้องแหลกอาทิตย์หน้า
"พจน์ อานนท์" ประกาศ "ฟิล์ม" จะฟ้อง "แอนนี่" หมิ่นประมาท เผยตอนนี้รวบรวมหลักฐานเด็ดไว้เรียบร้อยแล้ว มั่นใจถ้าใครได้เห็นเป็นเซโลงังแน่ จวกแอนนี่ทำเป็นนิ่งไม่ได้ เพราะคนประณามฟิล์มไปแล้ว ยันจำเป็นต้องฟ้องไม่งั้นจะเป็นชนักติดหลังไปตลอดชีวิต
ขยับปากทีไรเป็นได้เฮทุกทีสำหรับ "พจน์ อานนท์" หรือ อานนท์ มิ่งขวัญตา เมื่อวานก่อน(11/ต.ค/53)ก็ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ "แฉแต่เช้า" อย่างดุเด็ดเผ็ดมันเผยว่า ขณะนี้เจ้าตัวได้ข้อมูลลึก ชนิดลึกเข้าไปถึงช่องคลอดเลยทีเดียว
''ตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐานที่เขาบอกว่าท้องก่อนที่จะมามีอะไรกับฟิล์มหลักฐานทางการแพทย์ไปตรวจครั้งแรกไม่ท้อง แต่พอไปตรวจครั้งที่ 2 ปรากฏท้อง มันมีอะไรกับฟิล์ม คบกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ว่ามีช่วงหนึ่งที่ฟิล์มไปหาแอนนี่ที่บ้านแล้วเจอแอนนี่อยู่กับนักร้องเกาหลี วงเอฟ.ที.ไอแลนด์ ฟิล์มโกรธเลยงอน และหายไปไม่โทร. ไม่คุยไม่เจอประมาณ 3 วัน แอนนี่มาตามง้อที่คอนโดฯ ฟิล์ม วันนั้นเป็นวันที่มีอะไรกัน แล้วก็หลั่งข้างใน ก่อนหน้านั้นเคยมีอะไรกันครั้งหนึ่งแล้ว แต่แอนนี่มีประจำเดือนเลยเสร็จข้างนอกแทน''
"ผมเช็กแล้วว่าวันที่ฟิล์มมีอะไรกับแอนนี่ แล้ววันที่แอนนี่ไปตรวจ ยืนยันว่าเขาท้องก่อนที่จะมามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับฟิล์ม เดี๋ยวจะมีตัวละครเพิ่มขึ้นมาอีก เป็นชายอักษร บ. ซึ่งเป็นผู้ชายที่มีลักษณะที่แอนนี่ทำคล้าย กับฟิล์ม ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ ซึ่งคนนี้เป็นคนที่แอนนี่กลัวมาก และเคยให้ตังค์แอนนี่ไปแล้วเยอะมาก"
พอเปิดประเด็นไปเมื่อวันก่อน พออีกวันเจ้าตัวก็ให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ค่ายพระนครฟิล์ม ส่งข้อความบอกผู้สื่อข่าวว่าวันนี้(12/ต.ค/53)จะเดินทางไปร่วมงานรอบปฐมทัศน์ของหนังเรื่อง "อีเห็ดสด" ที่เอสพลานาด และจะมีการแถลงข่าวเรื่อง "ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์" โดยครั้งนี้จะงัดหลักฐานเด็ดมาแฉกันจะๆ แต่พอเริ่มต้นแถลงข่าวเจ้าตัวก็ออกตัวหมุนติ้วๆ ว่า วันนี้ไม่สามารถนำหลักฐานมายืนยันได้เนื่องจากผิดกฏหมาย
“ตอนนี้ผมคุยกับครอบครัวฟิล์มในฐานะผู้ปกครองฟิล์ม เพราะทางอาร์เอสเขาไม่ยุ่งแล้ว ก็ตอนนี้รวบรวมหลักฐานเยอะมากและได้ให้ทนายความไป แล้วจะขอจากทนายความมาให้ผู้สื่อข่าววันนี้ แต่ทนายความบอกให้ไม่ได้เปิดเผยไม่ได้ เพราะมันผิดกฏหมาย รับรองได้ว่าถ้าสื่อมวลชนได้เห็นหลักฐานชิ้นนี้ต้องเซโลงังแน่นอน มั่นใจเลย แต่มันบอกไม่ได้เป็นความลับห้ามพูด ถ้าพูดก็คงโดนจับเลย"
"คือมันมีหลายอย่างเลยหลักฐานนี่แน่นหนาเลย จะให้แย้มว่าเป็นภาพเป็นเสียง เป็นเอกสารอะไรไม่ได้เลยโดนจับแน่ แต่รับรองว่าถ้าน้องนักข่าวได้เห็นต้องเซโลงังเพราะขนาดเราเห็นยังอึ้งเลย มันมีหลายอย่างรู้หมดเลย แต่ขอไม่บอกถึงที่มาของหลักฐานเพราะว่ามันผิดกฏหมาย”
“หลักฐานตอนนี้ขอเก็บเอาไว้ฟ้อง เพราะอาทิตย์หน้าจะฟ้องแล้วตอนนี้กำลังคุยกันอยู่ เพราะมันมีหลักฐานชิ้นใหญ่ขึ้นมาอีก แบบว่าข่าวที่ดังๆ อยู่ตอนนี้สู้ไม่ได้(หัวเราะ) ตอนนี้ก็ฟ้องคนเดียว เพราะมีคดีคนเดียวก็ฟ้องหมิ่นประมาท แต่พอได้คุยกับทนายความแล้วจะสามารถฟ้องได้ 3 ข้อหา"
"จริงๆ เราไม่ได้ออกมารังแกผู้หญิง แต่เป็นเพราะตอนนี้เรายังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นลูกใคร ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ เพราะนอกจากผม นักข่าว แล้วก็คนในสังคมอยากรู้ว่าลูกใคร ไม่อย่างนั้นฟิล์มก็ตายลูกเดียว ฟิล์มก็ไม่มีงานไม่มีกำลังใจทำงาน เพราะโดนสังคมประนามอยู่ ไม่มีแรงที่จะทำงาน ก็รับกรรมไป”
“คือตอนนี้ฟ้องหมิ่นประมาทไปก่อน แต่จะฟ้องให้พิสูจน์ดีเอ็นเอหรือไม่ก็ค่อยว่ากันแต่เรามีหลักฐานแน่นมาก เราไม่ได้ว่าผู้หญิงทั้งประเทศ เรามีปัญหากับผู้หญิงคนเดียว เพราะผู้หญิงมีทั้งดีและไม่ดี แต่พอดีข้อมูลที่เราเจอมันสามารถบอกได้ว่าความจริงมันเป็นยังไง อยากฝากถึงสตรีองค์กรอะไรต่างๆ ด้วยว่า เราไม่ได้ว่าผู้หญิงทั้งประเทศ แค่เป็นเรื่องส่วนตัวของผู้หญิงคนนึงกับผู้ชายคนนึง ช่วยพิจารณาด้วย เพราะฝ่ายเรามันเหมือนเป็นชนักติดหลังอยู่ก็เลยต้องฟ้อง”
“แต่ใจจริงแล้วฟิล์มไม่อยากให้ฟ้อง แต่มันไม่ได้ผมก็บอกเขาไม่งั้นฟิล์มก็ไม่บริสุทธิ์ซะที ก็ต้องช้ำเลือดช้ำนองไปจนตาย ตอนนี้ถ้าเขาไม่สู้ก็ไม่ได้เพราะต้องรักตัวเองบ้าง ต้องลุกขึ้นสู้ รับก็ผิดไม่รับก็ผิด จะยืนอยู่บนโลกนี้ได้ยังไง"
"ส่วนทางครอบครัวเขาก็แล้วแต่ผมกับทนายความเลย เพราะในเมื่อคุณแม่เขาเคยเรียกร้องให้ออกมาตรวจแล้วแต่ไม่ได้ คุณแม่เลยต้องตัดใจไม่ให้ความช่วยเหลืออะไรเลย แต่มันก็ยังมีผู้ชายอีกหลายคนที่ออกมาแต่ไม่รับผิดชอบอะไรเลยก็มีไง เพราะฉะนั้นฟิล์มไม่ต้องรับผิดชอบก็ได้เพราะไม่รู้ว่าลูกใคร ในเมื่อผู้หญิงเขายืนยันนอนยันว่าจะไม่ตรวจ เราก็ต้องใช้วิธีนี้แหละ ก็ดีจะได้เป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ชายทุกคนว่ามีสิทธิ์ตรงนี้ ให้ใช้สิทธิ์ของตัวเอง เรียกร้องสิทธิ์มาฟ้องร้องขอตรวจดีเอ็นเอ”
“ถามว่ากลัวเข้าตัวไหม ไม่นะ เพราะผมไม่เคยเอ่ยชื่อเขา ไม่เคยเอ่ยในทางเสียๆหายๆ ผมต้องการความจริงเท่านั้นเองว่าใครเป็นพ่อของเด็กเท่านั้นเอง จเราบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าเราไม่ได้รังแก แค่เรียกร้องหาความจริง วันนี้อยากให้ฟิล์มมาแต่เขาบอกว่า ขออีกอาทิตย์หนึ่งดีกว่า รอให้ทนายจัดการ ตอนนี้รวบรวมหลักฐานยิ่งรวบรวมก็ยิ่งได้เยอะมันก็ยิ่งโผล่ๆ”
“ถ้าวันนี้เอาหลักฐานมาเปิดได้นะอยากเอามามากเลย แต่ขอทนายความเขาเท่าไหร่ก็ไม่ได้ไง ส่วนเรื่องค่าเสียหายคงไม่เรียกหรอกครับ คงฟ้องแค่หาความจริงเท่านั้นเอง ความจริงเรื่องนี้พี่พูดก็เบื่อนะ แต่ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าลูกใคร ถ้าเขาตรวจดีเอ็นเอตั้งแต่แรกก็จบแล้ว”
ส่วนความคืบหน้าเรื่องงานของ "ฟิล์ม" นั้น "พจน์ อานนท์" บอกว่า วันนี้ฟิล์มได้เข้าไปคุยกับ "เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์
“ตอนนี้รู้สึกเฮียฮ้อเรียกฟิล์มไปคุย แล้วผมก็ต้องดูแลเรื่องฟ้องร้อง แต่เรื่องหลักฐานชิ้นนี้เฮียฮ้อไม่ยุ่งเลย ไม่รู้เรื่องอะไรเลยคือหลักฐานชิ้นนี้ถ้าปรากฏ เรื่องที่เฮียและพี่สมรักษ์พูดก็จะปรากฏออกมาด้วย”
“เฮียตอนนี้ก็จะดูแต่เรื่องงาน ว่าอนาคตฟิล์มจะทำยังไงต่อ แต่ฟิล์มบอกเองว่าจะขอบวชก่อน อย่างเรื่องงานตอนนี้บี้(สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) ก็ได้ไปเกาหลีแทนฟิล์ม ก่อนหน้านี้ฟิล์มไปเล่นกล้ามเพื่อแสดงหนังบางกอกกังฟู ตอนนี้เลยเหลือแต่กระดูกแล้ว(หัวเราะ) แต่เรื่องบวชไม่ทราบว่าจะบวชเมื่อไหร่ แต่คิดว่าน่าจะหลังฟ้องไปแล้ว ให้จบเรื่องนี้ก่อน”
ทุ่มทุนเอาหน้ามารับเองแบบนี้ ก็เลยทำให้หลายๆ คนอดสงสัยไม่ได้ว่า งานนี้ "พจน์ อานนท์" มีส่วนได้ส่วนเสียหรือได้รับค่าตอบแทนอะไรหรือเปล่า
“ถามว่าได้อะไรจากฟิล์มหรือเปล่า คือจริงๆ ผมอยากให้สังคมรู้เท่านั้นเองว่าลูกใคร ถ้าลูกฟิล์ม เขาก็บอกอยู่แล้วว่ารับเลี้ยง แต่ถ้าไม่ใช่ก็ส่งเสีย มันต้องจบจะให้เรื่องนี้เป็นชนักติดหลังฟิล์มไปตลอดชีวิตเหรอ สังคมก็อยากรู้ ถ้ามั่นใจก็ต้องตรวจสิ”
เจ้าตัวบอก “แอนนี่ บรู๊ค” จะทำนิ่งไม่ได้ เพราะสังคมประณาม "ฟิล์ม" ไปแล้ว ปัดไม่รู้เรื่องพ่อเด็กมีชื่อนักธุรกิจฮ่องกง พร้อมด้วยนักร้องเกาหลีโผล่อีก
“ถ้าเขาบอกว่าเขาหยุดแล้วนิ่งแล้วไม่อยากยุ่งเรื่องนี้ มันไม่ได้ เพราะสังคมประณามฟิล์ม ว่าไม่รับผิดชอบ ตอนนี้เหมือนเขาตายทั้งเป็นไปแล้วนะ ถ้าไม่พึ่งศาลมันก็จะไม่จบ ก็ยังเห็นมีเอสเอ็มเอสด่าฟิล์มอยู่ทุกวัน เขาไม่รู้เรื่องทั้งหมดไง”
“ส่วนเรื่องมีชื่อนักธุรกิจฮ่องกงร่วมด้วย อันนี้ไม่รู้เรื่องเลย รวมไปถึงนักร้องเกาหลีด้วย คงต้องไปพิสูจน์เอง เพราะว่าทางทนายความทางเราก็หาข้อมูลหาหลักฐานมากกว่า เพื่อพิสูจน์ระยะนั้นเป็นยังไง ที่ผู้ใหญ่ 2 คนนั้นออกมาพูดก็ต้องหาข้อมูลในช่วงเวลานั้น ไม่มีมูลหมามันไม่ขี้ หรือเปล่า หลักฐานตอนนี้แน่น แต่ต้องรออีกจะแน่นกว่านี้กำลังรวบรวมสุดฤทธิ์สุดเดช แต่พูดไม่ได้ จริงๆ อยากพูด แต่ถ้าพูดไปต้องไปเยี่ยมผมนะ(หัวเราะ)”
แสดงความคิดเห็น