เข้าล็อก ! “พจน์” ท้า “แอนนี่” ให้ฟ้องหมิ่นประมาท จะได้เอาหลักฐานไปแฉในศาล และบังคับให้ตรวจ DNA เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นลูกใคร
เรื่องราวความวุ่นวายระหว่างนักร้องหนุ่ม “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” กับดาราสาว “แอนนี่ รุ่งนภา บรู๊ค” ยังคงไม่จบง่ายๆ เพราะมีกระแสข่าวออกมาว่าแอนนี่เตรียมที่จะเดินทางไปฟ้อง “พจน์ อานนท์” และ “เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” ผู้บริหารใหญ่ค่ายอาร์เอสในวันที่ 21 ต.ค.นี้ที่ศาลจังหวัดธัญบุรีฐานหมิ่นประมาท ด้านพจน์พอทราบข่าวก็ตอบแบบไม่แคร์เชิญฟ้องเรื่องทุกอย่างจะได้กระจ่างซักที
“อ้าว...โดนแล้วเหรอ ไม่เป็นไร เพราะว่าเขาไม่น่าจะฟ้องเรานะ เขาน่าจะขอบคุณมากกว่า เพราะที่เราออกมาพูดนี่ทำให้เขามีอีเว้นท์มากเลยนะครับ แล้วนี่เป็นสาเหตุนึงที่คุยกันแล้วก็เลยคิดว่าเรายังไม่ฟ้องดีกว่า เพราะว่าถ้าฟ้องไปเดี๋ยวอีเว้นท์เยอะอีก เดี๋ยวงานอีเว้นท์เข้าเขาเยอะอีก ก็เลยหยุดก่อน เพราะว่ามีเวลาตั้ง 90 วันเราสามารถฟ้องได้”
“ตอนนี้เราอยากให้เงียบไปก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวใครก็ได้ประโยชน์อีก เพราะว่าพอออกมาพูดทีงานอีเว้นท์ก็เข้าที ไม่ได้เข้าเรานะครับเข้าคนอื่น แต่ถ้ามูลนิธิเขาจะฟ้องก็ไม่เป็นไร เขาทำงานของเขาก็ไม่เป็นไรฟ้องก็ฟ้อง เพราะว่าเราก็ไม่ได้ไปฆ่าใครตาย ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ไม่ได้อะไร ไม่ได้เกรงกลัวเลยครับ เฉยๆ ฟ้องก็ฟ้อง”
“ผมไม่ต้องเตรียมรับมืออะไร ฟ้องก็ฟ้องเท่านั้นเอง ก็ดีนะสังคมจะได้รู้ความจริงกันสักที พอเขาฟ้องมาเราก็จะได้บังคับให้ตรวจ เพราะว่ามันก็ต้องมีหลักฐานกันในศาล จะได้รู้ความจริงกันสักทีว่าเป็นลูกใคร เพราะว่าหลายๆ คนก็อยากรู้แล้วว่าเด็กคนนี้เป็นลูกใคร”
“ส่วนทางเราจะฟ้องเมื่อไหร่ คิดว่าอีกสักพักครับ ให้ข่าวมันซาๆ ไปก่อน คือไม่อยากให้เขามีอีเว้นท์อีกแล้วน่ะครับ เพราะว่าที่ผ่านมาอีเว้นท์เขาเยอะมากนะครับ ขนาดทำบุญคุณให้เขาอย่างนี้เขายังมาฟ้องร้องเราก็ไม่เป็นไร ฟ้องก็ฟ้อง แต่เรามีหลักฐานเยอะอยู่แล้ว เราแค่พูดความจริงน่ะครับ แต่เราพูดตอนนี้ไม่ได้ เราก็ไปพูดในศาลกัน พอพูดในศาลมันก็คงจะเล็ดลอดออกมา เพราะนักข่าวก็เก่งอยู่แล้ว สังคมก็จะได้รู้ความจริงกันมากขึ้น”
ยอมรับมีคนนำหลักฐานต่างๆ มาให้เยอะ และมั่นใจว่าเชื่อถือได้แน่นอน พร้อมบอกเรื่องที่เคยพูดว่ามีนักร้องเกาหลีเข้ามามีเอี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยนั้น ตอนนี้กระแสมีหลายวงมาก ขอให้สืบเสาะกันต่อ
“ก็มีคนเอาหลักฐานมาให้เยอะแยะเลยครับ ถามว่ามั่นใจมั้ยก็มั่นใจนะ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่ออกมาพูด แต่มันยังไม่ถึงเวลา ก็คงต้องดูก่อนว่าเขาจะมาฟ้องเราในข้อหาอะไร เพราะที่เราพูดตลอดก็ไม่เคยจะเอ่ยชื่อผู้หญิงคนนี้ ไม่เคยดูถูกศักดิ์ศรีผู้หญิง เพราะพูดตลอดเรื่องนี้เหมือนกัน มันเป็นเรื่องของส่วนตัวบุคคล เราไม่ได้ดูถูกศักดิ์ศรีผู้หญิง แม่เราก็เป็นผู้หญิงจะไปดูถูกได้ไง กับเขาเราก็ไม่ได้ดูถูก ช่วยเขาหางานครับ”
“ส่วนเรื่องนักร้องเกาหลี สรุปก็คือมันมีหลายวงมาก มันเยอะแยะไปหมดเราก็ไม่รู้วงไหน เดี๋ยวก็วงโน้นเดี๋ยวก็วงนี้เดี๋ยวก็วงนั้น นักข่าวคงต้องไปจับกันเองว่าช่วงที่เป็นข่าวเดือนมิถุนายน - กันยายนที่แล้วเขาอยู่กับวงไหน เพราะมันก็มีออกทางทีวีอยู่ นักข่าวก็ต้องไปดูกันเอง เดี๋ยวเราพูดอีกก็กลายเป็นสารพัดวงแล้ว เพราะรู้สึกว่าแฟนๆ เกาหลีนี่ออกมาด่าว่าเราสุดฤทธิ์ เราก็ว่าเอ๊ะไปทำอะไรให้ เอาเวลาไปดูพ่อแม่ดีกว่ามั้ง ไปหาเวลาที่จะมาเดือดร้อนแทนนักร้องเกาหลีไปดูแลพ่อแม่ ให้พ่อแม่มีความสุขดีกว่ามั้ง เพราะว่าพ่อแม่เลี้ยงเรามา”
“ไม่ได้กลัวกระแสเลย เพราะเราก็ไม่ได้พูดว่านักร้องวงไหนนี่ครับ แต่มันมีกระแสมารู้สึกว่าจะ 5 วงแล้วตอนนี้ ถึงน้องๆ แฟนคลับเกาหลีเขาจะต่อต้านเราก็ไม่เป็นไร เพราะแฟนหนังเรากับแฟนเกาหลีคนละกลุ่มอยู่แล้ว เพราะทำหนังเกาหลีออกมาไม่มีคนดู แสดงว่าแฟนหนังเราไม่มีคนที่คลั่งเกาหลี(หัวเราะ) ยังไงเราก็ทำหนังของเราต่อไป เพราะหนังเราก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าหอแต๋วแตกน่ะครับ แหกชิมิ(หัวเราะ) มีแฟนของเราอยู่แล้ว จะต่อต้านก็ต่อต้านไป เพราะเราไม่ได้ขายเทปอย่างพวกเขาอยู่แล้ว ไม่ได้เดือดร้อนครับ”
ปัดไม่ได้เป็นกุนซือให้ “ฟิล์ม” และตอนนี้ก็ให้ทางอาร์เอสดูแลเหมือนเดิมแล้ว เพราะต้นสังกัดกลับมาป้อนงานให้แล้ว
“เป็นกุนซือให้ฟิล์มเหรอ ไม่หรอก เราไม่คิดอย่างนั้นอยู่แล้ว เพราะทุกวันนี้เราคิดว่าอยู่ร่วมกันคนอย่างนี้ ในสังคมอย่างนี้เราก็รู้สึกว่าชีวิตเราหดหู่เต็มทีแล้วนะครับ ไม่ได้คิดว่าจะไปเป็นกุนซือข้างไหน เราไม่ได้เป็นกุนซือ เพราะว่าฟิล์ม รัฐภูมิเขามาจากเราจริงๆ ก็ต้องดูแลเขา แล้วก็ไม่ได้ทะเลาะกันครับ เพราะตอนนี้ฟิล์มก็โอนเข้าไปอยู่ที่อาร์เอสแล้ว กลับไปอยู่กับอาร์เอสแล้ว เพราะเฮียฮ้อก็อภัยและให้งานทำ มีอะไรก็ปรึกษากันกับทางอาร์เอส เพราะว่ามันยังไม่มีข้อพิสูจน์ความจริงได้ว่าเป็นลูกใคร เพราะออกมาทีแรกก็บอกว่าเป็นลูกฟิล์มแล้ว แต่ไม่มีการพิสูจน์ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร แต่ห้ามพูดว่าเป็นลูกฟิล์ม”
“แล้วก็ที่วันนี้คุณแม่ของฟิล์มบอกว่า เขาเอาชื่อฟิล์มเป็นพ่อของลูกแล้วอันนี้ก็ทราบ เดี๋ยวผมจะเอาใบนี้แหละไปขึ้นศาลได้อีก ก็ดีมีหลักฐานอันนี้ก็จะได้ไปมัดได้อีกว่าไปแจ้งว่าเป็นพ่อ เพราะเรายังไม่ได้สรุปว่าใครเป็นพ่อเลย แต่ไปแจ้งว่าฟิล์ม รัฐภูมิเป็นพ่อ ก็ดีครับฟ้องๆ กันประชาชนจะได้รู้สักทีว่าเป็นลูกใคร ก็ไปดูแล้วกันว่าเราพูดอะไรไปบ้าง และไม่เคยเอ่ยชื่อเขาเลย”
บอกถ้า “ฟิล์ม” บวชก็พร้อมที่จะให้ขี่คอ ส่วนอนาคตฟิล์มจะกลับมาฮอตเหมือนเดิมไหม เจ้าตัวบอกฟิล์มเหมือนระฆังยิ่งเคาะยิ่งดัง
“ก็เห็นว่าฟิล์มจะบวช นี่ก็ว่าจะไปให้มันขี่คออยู่ เพราะว่าช่วยมันมาตลอด มันบวชเมื่อไหร่จะไปให้มันขี่คอ ก็ดีครับเขากลับมายืนเป็นฟิล์ม รัฐภูมิได้ก็โอเค เพราะว่าใครที่ด่วนสรุปตัดสินไปมันไม่ใช่ไง เพราะว่ามันยังไม่มีข้อยืนยันว่าเป็นลูกใคร ก็ไม่ได้แนะนำอะไรเขานะครับ ตอนนี้เราก็ถ่ายหอแต๋วแตก แหกชิมิไป อีก 2 วันก็ปิดกล้องแล้ว เขาก็มีวิถีทางของเขา”
“ถามว่าฟิล์มจะกลับมาฮอตอีกครั้งมั้ย คิดว่าฟิล์มก็คงจะกลับมาพร้อมพิ้งกี้น่ะครับ(หัวเราะ) ไม่พูดเล่น เห็นพิ้งกี้ก็ไปเรียน ฟิล์มก็ไปเรียนก็คงจะกลับมาพร้อมกัน นี่ไม่ได้ว่านะ เห็นข่าวออกมาว่าพิ้งกี้จะไปเรียน ไปก็ไปพร้อมกัน กลับก็กลับพร้อมกันไง อันนี้แซวเล่นๆ นะ เดี๋ยวจะหาว่าไปว่าพิ้งกี้อีก พิ้งกี้น่ารักครับ รู้จักกัน แต่สำหรับฟิล์มจริงๆ ก็เหมือนระฆังน่ะครับ ยิ่งเคาะก็ยิ่งดัง”
“ตอนนี้ก็เตรียมเรื่องทนายความอยู่ แล้วก็คอยดูกันต่อไปว่าความจริงมันคืออะไรนะครับ ก็ดีครับ ตรวจดีเอ็นเอสักทีมันจะได้จบ ก็ดีมูลนิธิหญิงออกมาช่วยฟ้อง จะได้ช่วยบังคับกันให้ตรวจๆ แล้วเราก็เล็งไว้อีกอันหนึ่งว่า เราจะฟ้องใครอยู่เหมือนกันนอกจากหวานๆ แล้วก็มีอีกคนหนึ่งที่เราเล็งไว้ว่าจะฟ้องเหมือนกัน ที่ว่าฟิล์มส่ำส่อนไม่เป็นลูกผู้ชาย ก็เตรียมตัวครับ ฟ้องมาก็ฟ้องไปครับ เล็งฟ้องแน่ แต่รอแป๊บนึง ให้เรื่องเงียบไปก่อน เพราะตอนนี้ฟิล์มก็จิตใจดีขึ้นแล้ว ถ้าอยากให้เรื่องมันเปิดเผยเร็วๆ ก็ฟ้องเถอะครับ เพราะเราก็มีหลักฐานให้ผู้หญิงเปิดเผยได้ว่าลูกใคร เพราะสังคมก็อยากรู้มากว่าลูกใครหว่า”
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
แสดงความคิดเห็น