คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น |
พรรณทิภา สกุลชัย - “ติ๋ม ทีวีพูล” |
เกรียงศักดิ์ สกุลชัย - “ต้อย แอคเนอร์” |
ตัวละครที่ผุดออกมาเรื่อยๆ ของ “ฟิล์ม” รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ และแอนนี่ บรู๊ค กับเรื่องราวที่ถูกขยายให้บานปลายไม่สิ้นสุด ภายใต้กุนซือของแต่ละฝั่ง ร่ำลือกันว่าฟากฝั่งของแอนนี่เต็มไปด้วยผู้วางแผนที่หลากหลาย เช่นคนจากตระกูลทีวีพูล "ต้อย-ติ๋ม" แถมยังมีผู้จัดการส่วนตัวดาราดังอย่าง "เอ ศุภชัย" และกะเทยคู่ใจ "เฮเลน" ร่วมซีนกับ “เจ๊เบียบ” ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช อีกต่างหาก จริงหรือไม่ เป็นเรื่องน่าคิด!?
ฟากฟิล์ม มี "พจน์ อานนท์" ผู้ปกครองที่เคยปลุกปั้นเข้าวงการรับหน้าที่ออกสื่อและตัวแทนฟ้อง และพีอาร์ชีวิตฟิล์มในช่วงนี้ไปโดยปริยาย ในขณะที่ "เฮียฮ้อ สุรชัย" เสียชีวิตชั่วคราวหลังแฉแอนนี่คบชายทีเดียว 4 คน วันนี้อาจจะเรียกได้ว่าเรื่องของฟิล์มกับแอนนี่ เป็นเพียงฉากหลังให้บรรดาตัวละครที่มีความแค้นส่วนตัวออกมาสะสางกันโดยอ้างการเลือกข้างของคนคู่นี้เท่านั้น
"ติ๋ม-ต้อย" ซื้อ "แอนนี่" ถ่ายแบบช่วยค่านม !?
ทิ้งท้ายเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ใครทำพ็อกเกตบุ๊กของ แอนนี่ บรู๊ค คือผู้วางแผนเป็นกุนซืออยู่เบื้องหลัง !! พร้อมกับชื่อของ "ติ๋ม ทีวีพูล" พรรณทิภา สกุลชัย และ "ต้อย แอ็คเนอร์" เกรียงศักดิ์ สกุลชัย ก็กลายเป็นตัวละครที่คาดเดาว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อย
เรื่องนี้ปรากฏเป็นข่าวแน่ชัดแล้วว่า แอนนี่ บรู๊คกับลูกมาถ่ายแบบให้แก่นิตยสารทีวีพูล ณ ห้องสวีต แมนชั่นส่วนตัวที่แสนสิริ ย่านราชดำริ ของติ๋ม ทีวีพูล โดยได้ค่าตอบแทนในการถ่ายแบบครั้งนี้ 1 แสนบาท !! ขณะที่ราคาปกติ สำหรับนางเอกปกของนิตยสารบันเทิงชื่อดังเล่มนี้จ่ายกันแค่ 5-7 พันบาท ยิ่งดาราหน้าใหม่บางคน ถ่ายฟรีด้วยซ้ำไป ค่าตัวนี้มาจากข่าวที่กำลังร้อนแรงของแอนนี่ บรู๊ค แอนนี่ บรู๊คไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ แต่ยกมือไหว้เพราะนี่คือกติกาที่เธอและติ๋มได้ตกลงกันไว้แล้วว่า รออ่านในนิตยสารจะดีกว่า ระดับติ๋มจ่ายเงินทั้งทีมันต้องคุ้ม โดยก่อนหน้านี้ นิตยสารทีวีพูลได้นำภาพเก่าของแอนนี่ บรู๊คที่เคยถ่ายไว้เมื่อหลายปีก่อนมาขึ้นปก ตีกินล่วงหน้าไปแล้ว !!
ท่ามกลางข่าวลือว่า ติ๋ม - ต้อย อยู่เบื้องหลังการเป็นกุนซือ ต้อย แอ็คเนอร์ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวในทวิตเตอร์ว่า
“อยากทำให้แอนนี่ แต่ติดต่อไม่ทันคนอื่น เสนอค่าเรื่องแพงเป็นเท่าตัวเลยแหละ อยากช่วยค่านมฑีฆายุ ที่สุดก็แห้ว !!
จากนั้น ต้อย แอ็คเนอร์ได้ทวีตอีกว่า
“ ใครรู้บ้าง... ใครคือนายทุนทำพ็อกเกตบุ๊กให้แอนนี่ บอกหน่อยครับ - คนจะได้เลิกคิดว่าเป็นผมซะที”
แม้ต้อย แอ็คเนอร์ จะระบุค่าตอบแทนสูงเป็นเท่าตัว จากสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งที่เคยตั้งราคาไว้ที่ 1.5 แสนบาท นั่นหมายความว่ามากกว่า 1 เท่าตัวคงจะอยู่ในวงเงิน 3 แสนบาท แต่ ต้อย แอ็คเนอร์ก็วืดกับงานที่หมายมั่นตั้งใจไว้ ต้อย แอ็คเนอร์ดูจะมั่นอกมั่นใจเสียเหลือเกินว่า ลูกแอนนี่ต้องมีพ่อเป็นซูเปอร์สตาร์ เพราะในงานเขียนของเขาก็ค่อนข้างมั่นใจว่าน้องฑีฆายุคือลูกของฟิล์ม ในบทบรรณาธิการในมายาชาแนล ฉบับสุดสัปดาห์ เขาชื่นชมแอนนี่ในกรณีที่ว่าลูกเกิดจากความรักของเธอและฟิล์ม แม้ว่าจะไม่ได้สมรส แถมลงท้ายแซวว่า ถ้าน้องฑีฆายุโตขึ้นมาคงจะได้เล่นละครเรื่อง "พ่อหนูเป็นซูเปอร์สตาร์" อีกต่างหาก …
ขณะที่ เจ๊ติ๋ม ปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นเรื่องนี้ เจ๊ติ๋มบอกสงสารฟิล์มจะแย่ แต่ลงท้ายสงสารทั้งคู่ เจ๊ติ๋มออกตัวไปปฏิบัติธรรมไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้สักนิด แต่การถ่ายแบบนั้นมาถ่ายจริง ส่วนเรื่องเบื้องหลังไม่ทำแน่นอนเพราะรวยอยู่แล้ว นั่นคือคำให้สัมภาษณ์ของติ๋ม ทีวีพูลที่ทิ้งท้ายต่อกรณี "ฟิล์ม-แอนนี่" ก่อนจรลีไปบวชในช่วงกินเจแล้วจ้า
ติ๋ม ทีวีพูล อดีตสามีภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่แม้จะเลิกรากันไปแล้ว แต่ก็ไม่เคยทอดทิ้งกันในยามคับขัน เพราะแม้ว่าสามีจะเคยผ่านวีรกรรมเช่นไร ติ๋มกับต้อยไม่เคยพรากจากกันในความรู้สึก เพราะติ๋ม ทีวีพูล คนนี้คิดอยู่ในใจเสมอว่า "ต้อยคือคนที่พาเธอเข้าสู่วงการบันเทิง"
ติ๋มเคยให้สัมภาษณ์ในนิตยสาร "ดิฉัน" ฉบับเดือน กันยายน 2553 ว่า
เธออยากเป็นแบบ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ที่เป็นสัญลักษณ์ของผู้จัดการ เธออยากเป็นแบบ “สุทธิชัย หยุ่น” ที่เป็นสัญลักษณ์ของเดอะเนชั่น และเธอก็จะสร้างทีวีพูลแบบนั้นเช่นกัน จึงไม่แปลกที่ใครต่อใครเรียกเธอว่าเจ้าแม่ในวงการบันเทิง จริงอยู่ที่ต้อย แอ็คเนอร์ พาเธอเข้าสู่วงการบันเทิง แต่คนที่อุ้มชู "ต้อย แอ็คนอร์" คือ "ติ๋ม ทีวีพูล" และธุรกิจสื่อต้องใช้ทั้ง "เงิน" และ "บารมี"
อย่างที่บอกว่า เรื่องฟิล์ม รัฐภูมิ กับ แอนนี่ บรู๊ค เป็นเพียงฉากหลังที่ใครต่อใครลุกขึ้นมาห้ำหั่นกัน การที่ต้อย แอ็คเนอร์ เลือกข้าง แอนนี่ บรู๊ค เป็นการซ้ำ "เฮียฮ้อ" สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ หรือเปล่าเนี่ย !!
เรื่องมีอยู่ว่า "ต้อย แอ็คเนอร์" และอาร์เอส หรือเฮียฮ้อ จากกันไม่สวย !?
หนังสือพิมพ์บันเทิงรายวัน "ดาราเดลี่" ก่อนหน้านี้ "ต้อย แอ็คเน่อร์" คือบรรณาธิการหนังสือพิมพ์บันเทิงดาราเดลี่ ที่มีอาร์เอสถือหุ้นใหญ่ เรียกว่าบริหารงานแทนเฮียฮ้อก็ว่าได้ ทำไปเจ๊งไป โดนฟ้องไป ทำบันเทิงรายวันให้คอข่าวได้อ่าน ตอนมาทำก็ทำกันดี แต่ตอนไม่ทำ จบไม่สวย จน "ต้อย แอ็คเนอร์" ต้องจรลีมาทำมายาชาแนล สัมพันธ์ที่เคยจูบปากดูดดื่มระหว่างเฮียฮ้อกับต้อยเลยจากกันไม่สวย จนปัจจุบันเฮียฮ้อ ณ อาร์เอสมีหุ้นไม่กี่เปอร์เซ็นต์ในดาราเดลี่ เพราะหุ้นใหญ่คือเจ้าของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ อย่าง "วิชา พูลวรลักษณ์" เฮียฮ้อเลยเข็ดธุรกิจบันเทิงรายวันอยู่จนทุกวันนี้
แผนพิฆาตกุนซือของแต่ละฝ่าย ก็ลากเอา “คู่ปรับ” ออกมาเจอกันให้อีกฝ่าย “แพ้ทาง”
แค้นฝังหุ่น ตุ๊ดประจัญบาน "เอ ศุภชัย" - "พจน์ อานนท์"
บ้างก็ว่า “เอ” - ศุภชัย เป็นกุนซืออีกคนหนึ่งของแอนนี่ บรู๊ค โดยวางแผนให้ “จุ๊น” กิตตืคุณ ออกมาฟอกความบริสุทธิ์ให้แอนนี่ บรู๊ค
สำหรับ “เอ” ศุภชัย กับ พจน์ อานนท์ ไม่น่าจะวนเวียนมาเจอกันได้ในเรื่องฟิล์มและแอนนี่ แต่เพราะว่า "เงิน" มันไม่เข้าใครออกใคร ยิ่งกะเทยแล้วไซร้ เสียหน้าไม่ได้อีกต่างหาก "เอ ศุภชัย" ผู้จัดการส่วนตัวชื่อดัง (แต่อาจไม่ดังสำหรับพจน์ อานนท์) และศึกนี้คงหลีกเลี่ยงกันไม่ได้แล้ว เพราะพจน์ อานนท์พูดแม้ไม่ออกชื่อว่าเอและกะเทยจอมอารักขามีส่วนพัวพันเรื่องนี้ด้วย และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแอนนี่ในหลายๆ เรื่อง
เดิมทีเดียว เอ และพจน์ไม่ได้ชอบพอกันอยู่แล้ว ตั้งแต่สมัย "มึงไม่ใช่นักปั้น" ศึกที่มี "โกโก้ นิรุณ" โดนฉก "มาริโอ้ เมาเร่อ" พจน์ อานนท์ คนนี้เองที่กล้าด่า "เอ ศุภชัย" ว่าทำไม่ถูก และไม่มีมารยาทในการทำงาน อีกทั้งแฉซ้ำด้วยว่า "เอ" บอกเองว่าอยากแกล้งโกโก้ นั่นจึงเป็นศึกที่ทำให้เธอทั้งสองไม่กินเส้นกันเท่าใดนัก แล้วศึกครั้งนี้ก็มาเจอกันเต็มๆ เพราะว่ากะเทยเลขาฯของเอ อย่าง "เฮเลน" นางนี้ คือผู้ที่เป็นคนไปติดต่อแอนนี่ที่คอนโดฯเพื่อให้มารับงานสินค้าผลิตภัณฑ์"แม่และเด็ก" ยี่ห้อหนึ่ง โดยมี "เอ ศุภชัย" เป็นนายหน้า
พูดง่ายๆ ถ้าแอนนี่เซย์เยส ศุภชัยจะได้ค่าตัวทันทีหลายล้าน เพราะสินค้าที่ตกลงกันไว้นี้ จ่ายหนัก แต่มีข้อแม้ว่าฝ่ายแอนนี่ต้องไม่มีข่าวรกรุงรังในทางฉาว หรือพูดตรงๆอย่าโดนขุดประวัติอดีตกิ๊ก แต่ความรู้ถึงหูพจน์ อานนท์ เสียก่อนงานชิ้นนี้ของ "เอ ศุภชัย" เลยไม่หมู เพราะทันทีที่ฝั่งฟิล์มรู้ พจน์ออกมาแฉว่าแอนนี่เคยชวนเด็กในกองหนังของพจน์ไปเที่ยว แถมเคยมาบ่นในกองถ่ายฯ ว่าเคยโดน "เมธี อมรวุฒิกุล" แฟนเสื้อแดงซ้อมอยู่เป็นประจำ เท่านั้นยังไม่พอ แอนนี่ยังเจอ "เฮียฮ้อ ณ อาร์เอส" แฉว่ามีความสัมพันธ์กับชายถึง 4 คนในช่วงคบฟิล์ม ทุกอย่างประจวบเหมาะ จึงทำให้สินค้าดังกล่าวตอบปฏิเสธไม่เอาแอนนี่แล้ว เพราะกลัวเสียภาพลักษณ์ อีกทั้งกระแสสังคมที่จะมีต่อสินค้า "เอ ศุภชัย" จึงได้แต่ร้องกรี๊ดอยู่ในใจ เพราะเสียลาภก้อนโตไป แถมยังต้องมานั่งโต้ข่าวเรื่อง "จุ๊น กิตติคุณ" เป็นพ่อของลูกแอนนี่และเคยจ่ายเงินให้แอนนี่อีก
ศึกในกับ "สมรักษ์ ณรงค์วิชัย" ยังไม่จาง ศึกนอกที่ไม่จางกับ "พจน์ อานนท์" ยังทวีความเกลียดใส่กันเข้าไปอีก การแก้เกมให้จุ๊นลาออกจากช่อง 3 คือการหักหน้าสมรักษ์อย่างชัดเจนของ "เอ ศุภชัย" และเพื่อเป็นการตอกย้ำพจน์ อานนท์ว่า "เด็กกูไม่รู้เรื่อง" แม้จะมีคำถามต่อยอดมาเยอะแยะว่าทำไมจุ๊นถึงร้อนตัวไปอเมริกา โดยอ้างว่าหาที่เรียน ศึกครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่ "เอ ศุภชัย” และ "สมรักษ์" เท่านั้น ศึกครั้งนี้ทำให้ไม่ถูกกันก็เรื่องเงินอีก เนื่องจากว่า "แต้ว ณฐพร" อดีตนักแสดงช่อง 7 ที่เอ ย้ายเอามาอยู่ช่อง 3 แต่ไม่ยอมจ่ายค่านายหน้าให้สมัยมาเล่นละครช่อง 3 ใหม่ๆ โดยมีสมรักษ์ที่ไม่ประสานเรื่องนี้ให้
งานนี้เลยกลายเป็นศึกที่ใหญ่หลวงของบรรดากะเทยทั้งหลายที่นอกจากมีเรื่องฟิล์ม-แอนนี่แล้วยังได้ล้างแค้น แก้หน้ากันคนละดอกสองดอก และนับเป็นมวยถูกคู่ เพราะระดับความแข็งแรงของเอ ศุภชัย กับ พจน์ อานนท์ และสมรักษ์ ต่างมีบารมีที่พอฟัดพอเหวี่ยงกันพอสมควร นับว่าสูสี ฝีปากตรงของพจน์ กับฝีมือการลดเลี้ยวของเอ จึงเรียกว่ามวยถูกคู่ ส่วนสมรักษ์กับเอ แค้นที่มีต่อกันสลับกันแพ้ชนะ เพราะข่าวลือจากตึกมาลีนนท์ที่ว่าการออกมาพูดของสมรักษ์ครั้งนี้ ย่อมมีเปลี่ยนแปลงบางประการในหน้าที่แน่นอน ไว้รอดู...
ลาก "จิ๊ก เนาวรัตน์" รอท่าคู่ปรับเก่า "ระเบียบรัตน์"
ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช เป็นกุนซืออีกคนหนึ่งที่เดินเกมด้วยการชักชวนกลุ่มสตรีจังหวัดต่างๆ เช่น อ. แจ้ห่ม ลำปาง, ชุมพร ไปถึงขอนแก่น ออกมายืนเคียงข้างแอนนี่ บรู๊ค
ข่าวที่ฟิล์มไปขอยา "เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์" ดารารุ่นพี่มากิน ยาที่ว่าคือยาคลายเครียด ตัวละครที่แน่นอนว่ามีคนเขียนบทให้มาเจอกัน แต่จะเป็นพจน์ อานนท์หรือไม่ ก็ถือว่าเขียนบทมาถูกเวลา (แม้ว่าเนาวรัตน์จะไม่ได้เป็นญาติสนิทฝั่งไหนของฟิล์มก็ตาม) เพราะเจ๊จี๊ก ต้องคู่กับ "เจ๊เบียบ" เพราะเนาวรัตน์คนนี้เแหละ ที่ถึงแม้จะดูเป็นคนตลก อารมณ์ดี และหลายคนอาจจะมองว่าติงต๊อง แต่หลายแนวคิด และหลายเรื่องราวเธอก็เอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง
และเจ๊จิ๊กคนนี้ที่ทำให้ระเบียบรัตน์ต้องเอ่ยคำขอโทษมาแล้วสมัยที่เจ๊เบียบออกมาด่าเธอเรื่องสอนลูกให้เจ้าชู้ จึงทำให้ครอบครัวแตกแยก งานนั้นเจ๊เบียบแพ้ราบคาบด้วยความเจ๋อไปแตะเรื่องครอบครัว งานนี้เนาวรัตน์เลยด่าชนะขาดลอย และครั้งนี้เมื่อมีเนาวรัตน์มาเกี่ยวข้อง เจ๊เบียบเลยดูเงียบๆ ไปเพราะหมดเวลารบแล้ว พจน์ อานนท์แตะมือให้เนาวรัตน์สวมบทรบแทนตนหน่อยเพราะตนต้องไปรบกับกะเทย 2 นางที่ไม่ได้เอ่ยชื่อไว้ในรายการ "บอก 9 เล่า 10" ของ "มดดำ-กรรชัย"
และวันที่เจ๊จิ๊กมาเยี่ยมฟิล์มที่โรงพยาบาลบีเอ็นเอชก็มีพจน์ อานนท์ ขนาบข้างกันแถลงข่าว จึงเดาได้ไม่ยากว่า วลีเดียวกันเป๊ะ เห็นอกเห็นใจและหาที่ยืนให้ฟิล์ม ซึ่งงานนี้เนาวรัตน์มาแปลก ตั้งสติและให้สัมภาษณ์ด้วยเรื่องราวที่มีหลักการเหตุผลที่ดีกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และการพูดครั้งนี้ก็ถือว่าเป็น "บวก" ต่อฟิล์มด้วย จึงเป็นแค้นที่ได้ชำระอีกคู่ ที่แม้ไม่ได้ปะทะคารมกัน แต่ก็ทำให้เจ๊เบียบหายไปจากชีวิตฟิล์ม-รัฐภูมิได้ชั่วคราว จึงไม่แปลกที่พจน์ อานนท์จะวางหมากให้เนาวรัตน์เข้ามารับบทนี้แทนตนในวันที่ “เจ๊เบียบ” คือกุนซือฝ่าย “แอนนี่”
ตัวละครแต่ละตัวล้วนแล้วแต่มีที่มาที่ไป "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" พจน์ อานนท์ ใช้สื่อเป็นมากกว่าฟิล์มจึงไม่แปลกที่พจน์จะเป็นตัวแทนฟ้องสื่อ และทุกชีวิตที่พาดพิงว่าฟิล์มคือพ่อของลูกแอนนี่จนกว่าจะตรวจดีเอ็นเอ เพราะว่าเฮียฮ้อได้เสียชีวิตทั้งเป็นไปแล้วหลังจากออกมาแฉว่าแอนนี่คบผู้ชาย 4 คน แต่การตัดฟิล์มของเฮียฮ้อ เป็นการตัดหางปลอมๆเท่านั้น และมีพจน์ อานนท์เป็นประชาสัมพันธ์เบอร์หนึ่งที่ทุ่มเต็มที่ เพราะนอกจาก ได้ใจเฮียฮ้อแล้ว ยังได้งาน และต่อไปก็ได้ฟิล์มอีก (ได้มาร่วมงานนั้นไม่ยาก) มุกกินยาเกินขนาดหรือชาวบ้านเรียกมุกฆ่าตัวตายฟิล์มแจ้งผ่านพีอาร์อาร์เอสแล้วว่า ไม่ได้อยากทำ ข้อมูลต่างๆของฟิล์มที่บอกผ่านพจน์ อานนท์แล้วว่า "กูทำอะไรก็ผิด" บวชก็ผิด ฟ้องก็ผิด
ละครดราม่าได้เริ่มขึ้นและบานปลายเพราะมีตัวละครเพิ่มมากขึ้น การล้างแค้นของกลุ่มทุนกับการล้างแค้นของกลุ่มกะเทยเพิ่งเริ่มต้น สมาคมสตรีทั้งหลายรวมทั้งระเบียบรัตน์ เมื่อเจอกับพจน์ อานนท์ และจิ๊ก เนาวรัตน์ ก็ถือว่าเป็นมวยรุ่นเดียวกันพอดิบพอดี
"เมธี" มือสังหาร "แอนนี่" โดยตรง
อีกคนที่โผล่มาแล้วทำเอาแฟนคลับแอนนี่ปวดขมับ ก็คงเป็น "เมธี อมรวุฒิกุล" ดาราเสื้อแดงที่เคยเป็นกิ๊กเก่าแอนนี่มาเมื่อ10 ปีที่แล้ว
"คนอย่างผมไม่ใช่เพื่อนเล่น!"...คำทิ้งท้ายจากปากของ “เมธี อมรวุฒิกุล” อดีตกิ๊กเก่า “แอนนี่ บรู๊ค” หลังแฉรอบสองถึงความสัมพันธ์และตราหน้าแอนนี่ว่าโกหก ตอแหล และมีผู้ชายมานับไม่ถ้วน...
ออกจากคุกมาเพื่อฆ่าแอนนี่โดยเฉพาะสำหรับลูกผู้ชายเสื้อแดงชื่อว่า "เมธี" อดีตแฟนเก่าของแอนนี่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ที่ก่อนหน้านี้เคยเอ่ยกรณีนี้ไว้รอบหนึ่งแล้ว จนทำให้แฟนคลับแอนนี่ปวดเศียรเวียนเกล้าในความไม่แมน มารอบนี้ DSI เจ้าของคดีก่อการร้ายในช่วงชุมนุมเสื้อแดงให้โอกาสเมธีได้แถลงข่าวครั้งสุดท้ายอีกครั้ง ที่โรงแรมตะวันนา ถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ต้องบอกว่า งานนี้ลูกผู้ชายคนนี้ไม่มีอะไรจะเสีย และยอมรับว่าการออก พูดครั้งนี้เพราะตนคือเหยื่อ ไม่ใช่แอนนี่ แล้ววอนองค์กรสตรีทั้งหลายเลิกตกเป็นเหยื่อแอนนี่เสียที
ประเด็นของเมธีน่าสนใจตรงข้อมูลทั้งหลายที่เขาและเธอเคยสนิทกันเมื่อ 10 ปีก่อน เมธีบอกว่าสมัยคบกันตนเคยเจอกุเรื่องท้องจากแอนนี่เช่นกันทั้งที่ตนป้องกันอย่างดีจะท้องได้อย่างไร พอมาถึงคราวฟิล์ม ตนยอมรับว่าฟิล์มก็รับผิดชอบในส่วนที่คนคนหนึ่งควรจะรับผิดชอบ เจ้าตัวบอกเรื่องนี้ไม่ใช่เกมการเมืองและไม่ได้อยู่ในอาณัติของ “เฮียฮ้อ” หรือใครทั้งสิ้นเพราะเฮียฮ้อไม่ได้ให้เงิน ก่อนหน้านี้หลังจากเขาแฉแอนนี่รอบแรก แอนนี่เตรียมหลักฐานจ่อฟ้องแล้วว่าเมธีหมิ่นประมาท และคราวนี้ก็คงเช่นเดียวกัน
ความจริงที่เมธีเอ่ยว่า "เชื่อผมเถอะ ผมพูดความจริง" ยิ่งตอกย้ำให้สังคมเกิดความสับสนในตัวของแอนนี่มากขึ้น และผู้ชายชื่อเมธีคนนี้ก็ “ยอมแลก” เพราะเขาไม่มีอะไรจะเสีย แถมท้าให้แอนนี่ฟ้องกลับอีกต่างหาก เพราะว่างานนี้เขามีเพื่อนชายคนสนิทอีกคนที่พร้อมเป็นพยานให้อีกด้วย
จากซาตานในชีวิตของใครหลายคน วีรกรรมต่างๆ ที่เขาเคยทำ ครั้งนี้เมธีอาจเป็นวีรบุรุษของคนรักฟิล์มที่ก้าวเข้ามาทำให้เครดิตของแอนนี่ลดน้อยถอยลงไป เพราะผู้ชายคนนี้ยังเผยต่ออีกว่าแท้ที่จริงแล้วแอนนี่ไม่ได้จบพยาบาล ไม่ได้ไปเมืองนอก โกหกทุกอย่างที่โกหกได้ ล้วนแล้วแต่หมิ่นประมาทแอนนี่ทั้งสิ้น คงไม่แตกต่างไปจากกรณีของเฮียฮ้อที่ออกมาพูดก่อนหน้านี้เรื่องผู้ชายของแอนนี่
แม้ว่างานนี้ในทางกฎหมายแอนนี่จะเป็นโจทก์ยื่นฟ้องบรรดาคนออกมาแฉได้เต็มที่ แต่กระแสสังคมต้องยอมรับว่าเมธีคนนี้ทำลายความน่าเชื่อถือของแอนนี่ได้ไม่น้อยทีเดียว แม้ว่าข้อมูลของพจน์ อานนท์จะบอกว่า 2 ปีก่อนแอนนี่ยังมาเล่าเรื่องโดนผัวเสื้อแดงกระทืบ แต่เมธีอาจจะบอกว่าไม่ได้ยุ่งกันมา 10 ปีแล้ว ข้อมูลที่ไม่ตรงกันหลายอย่าง ผู้อ่านก็ใช้วิจารณญาณในการรับชมรับฟัง เพราะนับจากนี้ กรณีฟิล์ม-แอนนี่ ถูกเขียนบทด้วยกลุ่มทุนยิ่งกว่าละครเสียอีก
ฟิล์ม-พจน์-เฮียฮ้อ ไตรภาคที่ลงตัว นักแสดง-ผู้กำกับ-นายทุน
ณ เวลานี้ เรื่องราวของแอนนี่และฟิล์มเหมือนหนังเหมือนละคร ยิ่งกว่าละคร "ระบำดวงดาว" ที่ "พลอย เฌอมาลย์" เล่นเสียอีก เรื่องราวต่างๆ ที่ปรากฏขึ้นในฝั่งฟิล์ม บรรดาชาวเน็ต ชาวบ้าน หลายส่วนมองว่าเป็นการจัดฉาก โดยมีผู้กำกับมือทองอย่างพจน์ อานนท์ กำกับสด เล่นสด ตามแบบฉบับที่ถนัด ไม่เน้น "บท" แต่เน้นความ "สะใจ" และ "กระแส" เท่านั้น โดยมีเจ้าของทุนคือ “เฮียฮ้อ” สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์เจ้าของอาร์เอส ที่พจน์ อานนท์ ยกมือไหว้ออกทีวีของานให้ฟิล์มทำ เย็นวันที่ 5 ต.ค.แต่หลังจากนั้น วันที่ 6 ต.ค. ประชาสัมพันธ์อาร์เอสส่งข้อความจากเฮียฮ้อว่า "อาร์เอสพร้อมให้ฟิล์มทำงานแล้วถ้าร่างกายและจิตใจพร้อม" มาแผนเดียวกันเป๊ะ เอื้ออาทรแบบนี้ "พจน์-เฮียฮ้อ" มันของคุ้นเคย สลับเด็กกันใช้ในค่าย งานนี้ win-win ทั้งคู่ ดีไม่ดี หลังจบจากข่าวฉาวมหากาพย์นี้ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" จะเป็นพระเอกหนังของพจน์ได้สบายๆ อีกต่างหาก นี่คืออิทธิพลที่คนอย่างพจน์ไม่เคยกลัวใคร และ "ปะ ฉะ ดะ" ได้ทุกรูปแบบ
การออกตัวเป็นตัวตั้งตัวตีให้ฟิล์มนั้นก็ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ทั้งครอบครัว ทั้งเฮียฮ้อ ตอนนี้ เลยกลายเป็นว่า พจน์ อานนท์ใหญ่สุด จะในฐานะอะไรก็ไปถามฟิล์มดู แต่ที่รู้ๆ ชั่วโมงบินของพจน์มากกว่าที่อาร์เอสเลือกใช้รบกับบรรรดาตัวละครฝั่งแอนนี่ แล้วพจน์คนนี้ยังสามารถล้างแค้น "เอ ศุภชัย" , "เฮเลน" กะเทยรุ่นน้องได้อีกทางหนึ่งด้วย
แต่เส้นทางนักปั้นนั้นมันไม่ง่าย เพราะแว่วว่ากลุ่มเกย์การเมืองอย่าง "เกย์นที" และอริเก่าพจน์ อย่าง "อุ๊บ วิริยะ" จะออกมาต่อต้านพจน์ในวันจันทร์นี้ !! ศึก "แอนนี่-ฟิล์ม" มันจึงไม่จบง่ายๆ สำหรับเหล่าเกย์และกะเทยแน่นอน
ค่านม "ฑีฆายุ" จากแม่ชื่อ "แอนนี่"
ท่ามกลางความวุ่นวายของตัวละครในชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าซีกแห่งความเป็นแม่ของแอนนี่ก็ยังคงทำหน้าที่แม่ต่อไป แม้ว่าหลายฝ่ายจะมองว่า "เอาฟิล์มมาขาย" แต่ทว่าการออกมาถ่ายแบบ ออกรายการทีวีหาค่านมลูก และเลี้ยงแม่ที่ลำปางก็มีอีกหลายกลุ่มคนมองว่าถูกแล้วที่ทำแบบนี้ เพราะว่าชีวิตต้องดำเนินต่อไป
แอนนี่ตกเป็นเหยื่ออันโอชะของหลายนิตยสารที่อยากจะเอาเรื่องราวของเธอมาตีพิมพ์ ทั้งยังมีเรื่องของการออกรายการตีสิบ,ถ่ายแบบให้นิตยสารเครือทีวีพูล ที่แอนนี่รับทรัพย์ไปหลายแสนแล้ว อีกทั้งยังยอมรับว่าชื่อใหม่ในเลขที่บัญชีของธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขา พารากอน ภายใต้ชื่อ "ฐิฏิพร เสฏฐภูมิ" โดยเธอบอกว่าเป็นบัญชีที่เปิดมาเพื่อลูก
ภายใต้เงื่อนไขของการหาเงินเพื่อลูก แอนนี่ยืนยันว่าไม่เคยคิดเอาชื่อเสียง "ฟิล์ม" มาหากิน ดังนั้นเจ้าของพ็อกเกตบุ๊กหลายรายจึงถอยฉากเมื่อไม่มีเรื่องฟิล์มมาเกี่ยวข้อง นั่นหมายความว่าค่านมของน้องฑีฆายุหายไปจำนวนไม่น้อย นี่ถ้าไม่พลาดเพราะฝ่ายตรงข้ามเอาชื่อบุรุษหนุ่ม 4 คนมาแฉ แอนนี่จะได้ค่าพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์แม่และลูกชิ้นหนึ่งอีกหลักล้านทีเดียว เรื่องนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องชู้สาวของคนสองคนอีกต่อไป เพราะมีชีวิตน้อยๆ เกิดมาแล้วอีกหนึ่งชีวิต แม่ที่ชื่อแอนนี่จะเลี้ยงลูกคนนี้อย่างไรเป็นสิ่งที่ไม่ยากต่อการคาดเดา
เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าเด็กคนนี้ไม่มีชื่อ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" มาเกี่ยวข้องด้วย ค่านม ค่าผ้าอ้อม ของน้องฑีฆายุ ก็คงน้อยลง เพราะว่าผู้อยู่เบื้องหลังของทั้งสองฝ่าย ที่หักล้างกันบนความฉาวโฉ่ของพ่อและแม่น้องฑีฆายุ เป็นความแค้นส่วนตัวที่ไม่แยกแยะทำให้เรื่องปะปน วุ่นวาย จนบานปลายไม่จบไม่สิ้น...
.............................................
ที่มา นิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 53 วันที่ 9 - 15 ตุลาคม 2553
แสนสิริ ราชดำริ แมนชั่นหรู ของติ๋ม ทีวีพูล |
แอนนี่ บรู๊ค วันถ่ายแบบให้ทีวีพูล |
ระหว่างรอแอนนี่ เอางานเก่ามาเล่าใหม่ ตีกินล่วงหน้า |
พจน์ อานนท์ |
“เอ” ศุภชัย ศรีวิจิตร |
“เฮเลน “ - ปวรา ศิริสาร |
“จุ๊น” กิตติคุณ สัมฤทธิ์พันธุ์สุข |
สมรักษ์ ณรงค์วิชัย |
ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช |
เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ |
แฟนคลับซุ่มรอฟิล์ม วันออกจากโรงพยาบาล |
ฟิล์ม โบกมือลา |
เมธี อมรวุฒิกุล พิฆาต แอนนี่ บรู๊ค |
“เจ๊อุ๊บ วิริยะ” ถึงจะสาย แต่มาแน่...วันจันทร์ |
เกย์นทีร่วมเวทีเดียวกับอุ๊บ วิริยะ |
แสดงความคิดเห็น