สาว 'มด-ณปภัช' ปัด นางเอกม. หนีกองแซ่บเด็กวัด จ่อออกเพลงเดี่ยว เมินมองทะเลาะโฟร์
เจอกระแสข่าวเม้าท์แรงว่าเป็นนางเอกอักษรย่อ ม. ที่ไปไหนมาไหนก็มีคุณแม่คอยตามคลุม แต่ดันซุ่มหนีกองไปแซ่บกับเด็กวัด งานนี้งานเข้าที่สาว มด-ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ แบบเต็มๆ ล่าสึดพอมีโอกาสได้เจอสาวมดเจ้าตัวก็เปิดเผยว่า

"ตลกดีอ่ะ ถือว่าเป็นสีสันชีวิตค่ะอย่าไปซีเรียสกับมัน มีอะไรแบบนี้มาก็ดีจะได้มีคนมาสัมภาษณ์จะได้ออกข่าว อย่าไปกลัวค่ะเอาเป็นว่าไม่จริงแน่นอน มันเป็นเรื่องตลกสำหรับมดมาก แต่ถามว่าปกติเราไปไหนมาไหนเราอยู่กับแม่ตลอด เราทำงานเสร็จกลับบ้าน คุณคะดิฉันไปกองหกโมงเช้าสี่ทุ่มเสร็จหรือเปล่ายังไม่รู้เลยแค่นี้ก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว เราก็ต้องกลับบ้านนอนเพื่อที่วันรุ่งขึ้นจะต้องตื่นมาทำงานต่อ กองถ่ายอยู่ใกล้วัดไหมอยู่ไกลมาก  อยู่แบบไกลโพ้นมาก แล้วอีกอย่างหนึ่งคือถ้าเราไปวัดเราไปทำบุญเราไปทำจิตใจให้สงบ ไม่ใช่จะไปวัดเพื่อแสวงหาอะไรแบบนี้ ก็ไม่ซีเรียสค่ะตลกขำๆอย่าไปเครียด"
นอกจากนี้ สาวมดยังเปิดเผยอีกว่าเร็วๆนี้เตรียมจะคัมแบล็กงานเพลงในฐานะศิลปินเดี่ยวอีกด้วย "ก็ได้มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่แล้วค่ะตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการทำเพลงอยู่ ถ้าทำเพลงเราอยากให้เพลงออกมาดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ คืออันไหนที่เรามองว่ามันยังไม่โดนมันยังไม่ใช่ลองปรับตรงนี้นิดหน่อยคือเราให้เวลากับตรงนี้หน่อย ไม่อยากไปเร่งไปกำหนดเวลาว่าเดือนนี้ต้องได้เพลง เดือนนี้ต้องปล่อยนะมันเหมือนเป็นการบีบเวลาทำให้เราทำได้ไม่ดี เท่ากับการที่เราค่อยๆเป็นค่อยๆไปดีกว่า แนวไหนก็ต้องเป็นอะไรที่ดูโตขึ้นแต่ว่าก็ยังเข้าถึงง่าย จับต้องได้อยู่แต่คงไม่ได้แบ๊วเหมือนเดิมใช้คำว่าโตขึ้นดีกว่าค่ะ ตอนนี้คือการเตรียมการอยู่ที่ทีมงานจะต้องแต่งเพลงและรอขบวนการเข้าห้องอัดแค่นั้นเองค่ะ รู้สึกยังไงกับคำว่าศิลปินเดี่ยว มันแปลกดี มันไม่เคยสัมผัสคำนี้มาก่อนเลยในชีวิตก็ได้มาลองทำอะไรคนเดียวรู้สึกโหว่งๆเนอะคือที่ผ่านมาเราจะต้องมีคนอยู่ข้างๆแต่พอเรามาเป็นคนเดียวแล้วแน่นอนคือทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมแล้ว ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปเป็นอีกแบบหนึ่งแล้ว ซึ่งถ้าเราจะทำเราต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ก็ต้องมีการเตรียมตัว ฝึก พัฒนาตัวเองเพิ่มขึ้นอีกค่ะ ออกมาคนเดียวตอกย้ำกระแสข่าวกับโฟร์อีกไหม
อย่างที่มดบอกค่ะ ทุกๆครั้งที่เราจะมีงานอะไรออกมาเนี่ยนั่นแสดงว่าผู้ใหญ่ไว้ใจที่มอบหมายงานให้เราซึ่งเราเป็นคนที่มีความรู้สึกว่าในเมื่อเราได้โอกาสที่จะได้ทำงานแล้ว แล้วทำไมเราต้องปฏิเสธโอกาสดีโอกาสนั้นด้วย ถามว่าตัวเรานะถ้าเราได้ทำเพลงเรนะเพราะหนึ่งเราเกิดมาจากนักร้องเราเกิดมาจากการเป็นโฟร์-มด แต่พอในถึงจุดที่มันต้องจบการเป็นนักร้องดูโอ้ ถามว่าเราต้องเกลียดการเป็นนักร้องเลยไหม ไม่ เรายังรักในการร้องเพลง ยังรักในการที่จะต้องร้องเพลงออนสเตจกับแฟนๆเราได้พบเพื่อนอย่างงานช่อง 8 เราได้ร้อง 2 เพลงเราแฮปปี้มากเลยนะ กับการที่เราได้เจอแฟนๆและร้องเพลงตามหรือเต้นตามเรา เราเลยมีความรู้สึกว่านี่แหละตือความรู้สึกเล็กๆของเราต่อให้เราจะไปเล่นละครไปเป็นนักแสดงไปเป็นพิธีกรทำอย่างอื่นมันก็มีความสุขสำหรับเรา มันเลยทำให้มองว่านอกจากผู้ใหญ่จะให้โอกาสเราแล้ว มันก็ยังเป็นสิ่งที่เรารักอีกด้วย แล้วทำไมเราจะไม่ทำมันล่ะ

แสดงความคิดเห็น

 
Top