© สนับสนุนโดย Nation Channel
หมอเผด็จ-ผู้ค้ำประกันทั้ง 3 มอบหมายทนายความในสหรัฐฟ้อง ทพญ.ดลฤดี หมอหนีทุนแล้ว จี้หน่วยงานอื่นเร่งเอาผิด อย่างปล่อยให้เรื่องเงียบ ขณะที่สามีหมอหนีทุนส่งอีเมล ระบุถึงฟ้องก็ไม่มีเงินจ่าย
ความคืบหน้าการติดตามเอาผิด ทพญ.ดลฤดี จำลองราษฎร์ อดีตอาจารย์คณะทันตแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) หมอหนีทุน หลังจากกลุ่มผู้ค้ำประกันเตรียมตัวจะจ้างทนายความที่สหรัฐอเมริกาดำเนินการฟ้องร้องเพื่อเรียกเงินจำนวน 8 ล้านบาท ที่เสียไปกลับคืนมา
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 59 ทพ.เผด็จ พูลวิทยกิจ ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ผู้ค้ำประกัน ทพญ.ดลฤดี เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ค้ำประกันทั้งหมดได้ส่งหนังสือมอบอำนาจให้ทนายความที่สหรัฐอเมริกาดำเนินการฟ้องร้อง ทพญ.ดลฤดี ต่อศาลที่สหรัฐอเมริกาแล้ว พร้อมทั้งจัดส่งเอกสารหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดให้ทนายความไปแล้ว ทั้งนี้ ทนายความที่จะดำเนินการทางกฎหมายให้แก่ผู้ค้ำประกันมีด้วยกัน 2 คน คนแรกเป็นทนายความลูกครึ่งไทย-อเมริกัน และทนายท้องถิ่นที่อยู่ในบอสตัน ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการสนับสนุนจากคนไทยในสหรัฐอเมริกา โดยช่วยดำเนินการให้ทุกอย่าง
"ผมและผู้ค้ำประกันทั้งสามได้ส่งเอกสารไปให้ทนายความหมดแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คงเป็นกระบวนการฟ้องร้องเข้าสู่ศาลที่สหรัฐอเมริกา ส่วนผลการตัดสินจะเป็นอย่างไรก็คงต้องว่ากันไปตามหลักฐาน แต่ส่วนตัว และหลายคนคิดว่ามีโอกาสชนะสูง เพราะตามหลักฐาน ทพญ.ดลฤดี ทำความผิดแน่นอนอยู่แล้ว ก็จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจดำเนินการฟ้องร้องด้วย" ทพ.เผด็จ กล่าว
ทพ.เผด็จ กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีหลายคนถามว่าได้ชวนมหาวิทยาลัยมหิดลร่วมฟ้องด้วยหรือไม่ว่า ถ้ามหิดลอยากฟ้องคงทำไปนานแล้ว อีกทั้งส่วนตัวคิดว่า มหิดลคงจะไม่ทำอะไรด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อสัปดาห์ที่แล้วผู้ค้ำประกันรายหนึ่งได้นำอีเมลของสามี ทพญ.ดลฤดี มาให้ โดยมีข้อความระบุว่า ไม่มีเงิน แม้จะฟ้องร้องก็ไม่มีเงินให้อยู่ดี อาจจะไม่ได้อะไรจาก ทพญ.ดลฤดี ก็ได้ ซึ่งขัดกับความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะอยู่บ้านราคาหลังละ 30-40 ล้านบาท แต่บอกไม่มีเงินได้อย่างไร
"สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นการแสดงให้เห็นชัดด้วยว่า ไม่ตั้งใจจะใช้หนี้ ผมอยากฝากไปยังหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นมหิดล ทันตแพทยสภา หน่วยงานศาลให้ดำเนินการกรณีนี้อย่างต่อเนื่อง และเอาผิดให้ถึงที่สุด เพื่อที่จะนำข้อมูลมาใช้เป็นส่วนหนึ่งที่จะนำไปพิจารณาในศาลของสหรัฐอเมริกาด้วย แต่เวลานี้พอข่าวในเมืองไทยเงียบลง หน่วยงานต่างๆ ก็เงียบตาม ผมไม่อยากให้กรณีนี้เงียบไปโดยที่ไม่มีผลอะไรเกิดขึ้นกับผู้ที่ทำความผิด และจากอีเมลที่สามีของ ทพญ.ดลฤดี ตอบกลับว่า สะท้อนว่ารู้เห็นการกระทำของคุณดลฤดีทุกอย่าง เท่ากับว่าสนับสนุนการกระทำของเธอ
ทพ.เผด็จ บอกว่า รู้ทุกอย่าง แต่กลับบอกว่า มีภาษีอะไร มีค่าใช้จ่ายอะไร คนเราถ้ามีหนี้สินจะต้องชดใช้ ทำไมรีบซื้อบ้าน ทำไมไม่ใช้หนี้ก่อน ส่วนเรื่องที่พูดว่า ต้องเสียภาษีเยอะ อยากบอกว่าใช่ เพราะที่สหรัฐเสียภาษีเยอะ แต่สามารถขอคืนภาษีได้ เวลาเขาพูดก็จะพูดในแง่ที่ทำให้ดูดี ซึ่งคนที่ไม่มีความรู้ก็จะรู้สึกว่าน่าสงสาร
สำหรับข้อความในอีเมลของสามี ทพญ.ดลฤดี ส่งถึงผู้ค้ำประกันคนหนึ่งนั้นสรุปได้ดังนี้
1.ได้ให้ตัวเลขค่าใช้จ่ายต่อเดือนว่า 2 คน รวมกันไม่สามารถคืนเงินได้ตามที่ผู้ค้ำประกันต้องการ
2. ทพญ.ดลฤดี ไม่มีทรัพย์สินในสหรัฐ คอนโดเป็นของสามี และเป็นหลักค้ำประกันซื้อผ่อนบ้านใหม่
3.ที่ผู้ค้ำประกันต้องการเงินคืน 2 แสนดอลลาร์สหรัฐ โดยจ่าย 5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐจากการขายคอนโด และอีก 1.5 แสนดอลลาร์สหรัฐ ผ่อนส่ง 3 ปีนั้น สามีของ ทพญ.ดลฤดี บอกว่าเป็นไปไม่ได้
และ 4.ถ้าผู้ค้ำประกันต้องการฟ้องร้องเพราะต้องการพิสูจน์ว่าตัวเองถูกต้องก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะคดีต้องอยู่ในศาลนานหลายปี และไม่แน่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็จะไม่มีเงินจ่ายมากเพราะต้องเสียค่าทนายมากกว่า 33% ของวงเงินที่ฟ้องร้องกัน

แสดงความคิดเห็น

 
Top