โผล่อีก!คลิปหนุ่มขับเก๋งกร่างโชว์ปืนขู่

15 ก.พ. 59 กลายเป็นเรื่องฮือฮาอีกครั้งเมื่อในโลกโซเชียลปรากฏคลิปหนุ่มขับรถเก๋งสีขาวโชว์ปืนขู่คู่กรณีหลังจากไม่พอใจที่เกิดกระทบกระทั่งกับคู่กรณี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโซเชียลมีเดียได้เผยแพร่คลิปความยาวประมาณ 1.28 นาที โดยเป็นภาพรถเก๋งยาริสสีขาวขับมาตามท้องถนน เมื่อมาถึงแยกไฟแดง รถเก๋งยาริสคันดังกล่าวได้เปิดไฟฉุกเฉินก่อนจะขับเข้ามาทางด้านซ้าย โดยคนขับได้ลดกระจกหน้ารถพร้อมชูปืนออกมาในลักษณะกวักมือเรียกคู่กรณีที่ตามมาด้านหลังให้หยุด

จากนั้นชายคนขับรถยาริสสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาว ถือปืนลงมาจากรถ ก่อนจะเดินมาหารถคันที่ขับตามมาด้วยท่าทางที่เอาเรื่องจากนั้นประมาณ 40 วินาทีชายหนุ่มคนดังกล่าวได้เดินกลับไปที่รถยนต์ยาริสของตนเอง ก่อนจะเก็บปืนไว้ที่ช่องด้านหน้าประตูรถ โดยคลิปดังกล่าวถูกบันทึกได้จากกล้องติดรถยนต์ที่ขับตามรถคันดังกล่าว

ภายหลังคลิปดังกล่าวถูกแพร่ออกไปได้มีผู้มาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากว่า พฤติกรรมของชายหนุ่มเสื้อขาวคนนี้เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพราะถือปืนลงมาด้วย นอกจากนี้ยังมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าคลิปที่เผยแพร่นั้นอาจจะเกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว เนื่องจากในคลิประบุตัวเลขวันที่เกิดเหตุช่วงปี 2554 ขณะเดียวกันมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องดังกล่าวไม่น่าจะเกิดในปี 2554 เพราะดูจากอักษรและเลขทะเบียนรถยาริสพบว่าทะเบียนนี้เพิ่งทำขึ้นในปี 2558 จึงเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นในช่วงปี 2558 - 2559

ขณะที่หลายคนต่างตั้งข้อสังเกตว่า บุคคลที่แสดงพฤติกรรมดังกล่าว มีลักษณะคล้ายกับทำงานแผนกช่างซ่อมของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะยืนยันได้ว่า บุคคลผู้นี้ทำงานเป็นช่างจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีชาวเน็ตส่วนหนึ่งบอกเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 1 อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ล่าสุด พ.ต.ท.ขจรศักดิ์ สมหวัง รองผกก.สส.สภ.หนองขาม ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ในคลิปวิดีโอเกิดขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 08.00 น. โดยมีผู้แจ้งเหตุเข้ามา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกสืบสวนติดตามหาตัวชายคนที่ขับรถเก๋งยาริสสีขาว กระทั่งพบชายคนดังกล่าวที่หอพัก พร้อมกับปืนบีบีกัน และรถเก๋งสีขาวที่มีแฟนสาวเป็นเจ้าของรถ ซึ่งชายคนดังกล่าวได้เข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจแล้ว และตำรวจกำลังสอบสวนข้อเท็จจริงอยู่ เบื้องต้นทราบว่าเหตุการณ์ในคลิปเกิดจากการขับรถกระทบกระทั่งกัน ทำให้เกิดความไม่พอใจ ส่วนผลการสอบสวนจะเป็นอย่างไรจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง